อำเภอทองแสนขัน
ทองแสนขัน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นที่ตั้งของบ่อเหล็กน้ำพี้ซึ่งเป็นแหล่งแร่เหล็กที่มีคุณภาพดีที่สุดของประเทศไทย เพื่อใช้ในการศึกสงครามมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังปรากฏหลักฐานทางประวัติศาตร์มากมายถึงความสำคัญของเหล็กน้ำพี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความเชื่อมาแต่โบราณว่าเหล็กจากแหล่งเหล็กน้ำพี้มีความแข็งแกร่ง ความศักดิ์สิทธิ์และอาถรรพ์ในตัว[1] โดยจัดให้เหล็กน้ำพี้อยู่ในโลหะธาตุตระกูลเดียวกับ เหล็กไหล[2]
อำเภอทองแสนขัน | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Thong Saen Khan |
บ่อเหล็กน้ำพี้เป็นแหล่งแร่เหล็กทางธรรมชาติที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ และเป็นสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งของจังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านน้ำพี้ ตำบลน้ำพี้ | |
คำขวัญ: เหล็กน้ำพี้กล้าแกร่ง แหล่งถ้ำค้างคาว ภูเขาหินอ่อน ลือกระฉ่อนผ้าทอ | |
แผนที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เน้นอำเภอทองแสนขัน | |
พิกัด: 17°28′31″N 100°20′1″E / 17.47528°N 100.33361°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | อุตรดิตถ์ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 745.4 ตร.กม. (287.8 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2564) | |
• ทั้งหมด | 31,130 คน |
• ความหนาแน่น | 41.76 คน/ตร.กม. (108.2 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 53230 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 5309 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอทองแสนขัน หมู่ที่ 9 ตำบลบ่อทอง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ 53230 |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย |
ที่ตั้งและอาณาเขต
แก้อำเภอทองแสนขันมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียงดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเมืองอุตรดิตถ์และอำเภอท่าปลา
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอน้ำปาด
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอชาติตระการ อำเภอวัดโบสถ์ (จังหวัดพิษณุโลก) และอำเภอพิชัย
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอตรอน
ประวัติ
แก้จากตำนานพื้นบ้านเล่าว่า เคยมีชาวมอญมาตั้งรกรากอยู่ใกล้ ๆ บ้านแสนขัน ได้หนีมาจากขอมที่บุกรุก จากนั้นมาขอมก็ตามมารบกับมอญอีก ชาวมอญจึงมาหลบอยู่ที่บ้านแสนขัน เพราะว่าก่อนหน้านี้เขตบ้านแสนขันจะเป็นป่าทั้งหมด แต่ทั้งขอมและมอญก็อยู่ไม่ได้จึงได้หนีไป ปล่อยให้ที่บริเวณนี้เป็นที่ร้างอีก จากนั้นมาก็มีชาวไทยเดิมจากเวียงจันทน์ ได้ผ่านมาและเห็นว่าที่ดินบริเวณแห่งนี้มีดินที่อุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำลำธารไหลผ่าน ทำเลดี เหมาะที่จะตั้งรกรากทำมาหากิน จึงกลับไปชวนเพื่อนบ้าน 6–7 ครอบครัวเพื่อมาตั้งรกรากอยู่ที่นั่น โดยขณะนั้นยังไม่มีการเรียกชื่อหมู่บ้าน
หลังจากนั้นชาวหล่มสัก (เพชรบูรณ์) เลย นครไทย (พิษณุโลก) ทราบข่าวว่าที่อุตรดิตถ์จะมีการสร้างพระแท่นศิลาอาสน์ จึงได้เก็บเงินเรี่ยไรจากชาวบ้านได้เงินเป็นจำนวนแสนขัน แล้วจึงได้บรรทุกเงินแสนขันนั้นแบกใส่หลังช้าง ม้า วัว ควายมาตาม ๆ กัน และในขบวนนี้ก็จะมีหัวหน้าอยู่หนึ่งคน เดินทางล่วงหน้าไปก่อนถึงบ้านบ่อทอง และทราบว่าวัดพระแท่นศิลาอาสน์นั้นได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้กลับไปบอกพรรคพวกที่บรรทุกทองมาให้นำไปฝังไว้ที่บ้านบ่อทอง ปัจจุบันได้ตั้งชื่อว่า "ทองแสนขัน" แต่ชาวบ้านได้เรียกสั้น ๆ ว่า "บ้านแสนขัน" มาจนถึงปัจจุบันนี้
เดิมท้องที่ที่เป็นอำเภอทองแสนขันรวมอยู่กับอำเภอตรอน เมื่อประมาณ พ.ศ. 2517 ทางอำเภอตรอนต้องการที่จะแยกท้องที่ดังกล่าวเพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอขึ้นอีกแห่งหนึ่ง จึงขอแยกท้องที่ตำบลป่าคายซึ่งเป็นตำบลใหญ่ออกเป็น 2 ตำบล โดยเรียกชื่อตำบลที่แยกออกมาว่า "ตำบลบ่อทอง"[3] เมื่อกระทรวงมหาดไทยอนุมัติให้แยกตำบลได้แล้ว ทำให้อำเภอตรอนซึ่งเดิมประกอบด้วยเขตการปกครองตำบล 7 ตำบล คือ ตำบลบ้านแก่ง ตำบลหาดสองแคว ตำบลน้ำอ่าง ตำบลวังแดง ตำบลน้ำพี้ ตำบลผักขวง ตำบลป่าคาย เพิ่มขึ้นเป็น 8 ตำบล เข้าหลักเกณฑ์ที่ขอตั้งเป็นกิ่งอำเภอได้
ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2523 จึงได้รายงานขอแยกท้องที่ คือ ตำบลผักขวง ตำบลน้ำพี้ ตำบลป่าคาย และตำบลบ่อทอง ออกจากอำเภอตรอนขอตั้งเป็นกิ่งอำเภอ และกระทรวงมหาดไทยได้มีประกาศลงวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 ตั้งเป็นกิ่งอำเภอเรียกว่า กิ่งอำเภอทองแสนขัน[4] และต่อมากระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาเห็นว่า กิ่งอำเภอทองแสนขันมีท้องที่กว้างขวางมีชุมชนการค้าหนาแน่น มีสภาพเจริญขึ้นกว่าเดิมมากสมควรยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอ ดังนั้น เพื่อประโยชน์แก่การปกครองการให้บริการของรัฐบาลและความสะดวกของประชาชนและส่งเสริมท้องที่ให้เจริญยิ่งขึ้นจึงตราพระราชกฤษฎีกาลงวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2533 จัดตั้ง อำเภอทองแสนขัน[5] โดยให้มีฐานะเป็นอำเภอตั้งแต่วันถัดไป
การแบ่งเขตการปกครอง
แก้การปกครองส่วนภูมิภาค
แก้อำเภอทองแสนขันแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 4 ตำบล 49 หมู่บ้าน ได้แก่
ลำดับ | อักษรไทย | อักษรโรมัน | จำนวนหมู่บ้าน | จำนวนประชากร (ธันวาคม 2565)[6] |
---|---|---|---|---|
1. | ผักขวง | Phak Khuang | 16
|
8,556
|
2. | บ่อทอง | Bo Thong | 15
|
11,470
|
3. | ป่าคาย | Pa Khai | 9
|
5,487
|
4. | น้ำพี้ | Nam Phi | 9
|
5,362
|
การปกครองส่วนท้องถิ่น
แก้ท้องที่อำเภอทองแสนขันประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลทองแสนขัน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ่อทอง เฉพาะบางส่วนของหมู่ที่ 1–3, 9–10, 12
- องค์การบริหารส่วนตำบลผักขวง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลผักขวงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อทอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ่อทอง เฉพาะหมู่ที่ 4–8, 11, 13–15 และบางส่วนของหมู่ที่ 1–3, 9–10, 12
- องค์การบริหารส่วนตำบลป่าคาย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลป่าคายทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพี้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลน้ำพี้ทั้งตำบล
สถานที่ท่องเที่ยว
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ สมิธ, เฮอร์เบิร์ท วาริงตัน. (2544). บันทึกการเดินทางสู่แม่น้ำโขงตอนบนประเทศสยาม. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร. หน้า 21-22
- ↑ ประภาพร พูลสุข. รายงานฐานข้อมูลท้องถิ่นอุตสาหกรรมเหล็กน้ำพี้และแหล่งท่องเที่ยวบ่อเหล็กน้ำพี้ โปรแกรมวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์. อุตรดิตถ์ : มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์, ๒๕๕๐
- ↑ "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 96 (189 ง): 4166–4169. วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522
- ↑ "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งท้องที่อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งเป็นกิ่งอำเภอทองแสนขัน" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 100 (109 ง): 2134. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-04-27. สืบค้นเมื่อ 2008-04-25. วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2526
- ↑ "พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอห้วยผึ้ง อำเภอวังวิเศษ อำเภอคลองหาด อำเภอป่าบอน อำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอวังโป่ง อำเภอควนเนียง อำเภอหนองหญ้าไซ อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอทุ่งฝน อำเภอสร้างคอม และอำเภอทองแสนขัน พ.ศ. ๒๕๓๓" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 107 (83 ก พิเศษ): 1–4. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-18. สืบค้นเมื่อ 2008-04-25. วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2533
- ↑ "ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร". stat.bora.dopa.go.th.