อำเภอพรหมพิราม

อำเภอในจังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย

พรหมพิราม เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 28 กิโลเมตร และมีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของจังหวัด

อำเภอพรหมพิราม
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันAmphoe Phrom Phiram
คำขวัญ: 
พรหมพิรามเมืองพระ วังมะสระพระเครื่อง ลือเลื่องทุ่งสาน ชลประทานเขื่อนนเรศวร หลากล้วนมังคละดนตรี ประเพณียกธง
แผนที่จังหวัดพิษณุโลก เน้นอำเภอพรหมพิราม
แผนที่จังหวัดพิษณุโลก เน้นอำเภอพรหมพิราม
พิกัด: 17°2′0″N 100°12′6″E / 17.03333°N 100.20167°E / 17.03333; 100.20167
ประเทศ ไทย
จังหวัดพิษณุโลก
พื้นที่
 • ทั้งหมด832.67 ตร.กม. (321.50 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2567)
 • ทั้งหมด83,748 คน
 • ความหนาแน่น100.57 คน/ตร.กม. (260.5 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 65150,
65180 (เฉพาะตำบลวงฆ้อง มะต้อง ดงประคำ ศรีภิรมย์ และตลุกเทียม)
รหัสภูมิศาสตร์6506
ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอพรหมพิราม ถนนพรหมวิถี ตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก 65150
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

คำว่า "พรหมพิราม" หมายถึง เมืองที่งดงามเป็นที่อยู่แห่งพรหมหรือพระเจ้าผู้สร้างโลก เดิมเรียกว่า เมืองพรหมพิราม ในอดีตดั้งเดิมนั้น พื้นที่อำเภอพรหมพิรามปรากฏร่องรอยของเมืองโบราณเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย แต่ในสมัยอยุธยานั้นเรียกเมืองในพื้นที่ดังกล่าวว่า “เมืองพรหมพิราม” และ "เมืองศรีภิรมย์" ซึ่งปรากฏชื่ออยู่ในพระไอยการนาหัวเมืองฉบับอยุธยา แต่การเผชิญสภาวะของสงครามในตลอดหน้าประวัติศาสตร์ อยุธยา ธนบุรีและต้นรัตนโกสินทร์นั้น ทำให้สถานะของความเป็นเมืองไม่อาจดำรงอยู่อย่างถาวรต่อเนื่อง  การดำรงอยู่ของพรหมพิรามในสภาวะเช่นนี้จึงอยู่ในลักษณะของการเป็นชุมชนท่าการค้า ที่ค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นเป็นเมืองอีกครั้งตามนโยบายจัดบ้านแปงเมืองเพื่อฟื้นฟูหัวเมืองเหนือในสมัยรัชกาลที่ 3 ทำให้ศรีภิรมย์และพรหมพิรามกลับมามีสถานะเป็นเมืองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

โดยศูนย์กลางของเมืองเฉพาะที่พรหมพิรามในระยะฟื้นฟูนั้น คงตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน บ้านหางไหล มาจนกระทั่งถึง พ.ศ.2430 เป็นอย่างน้อย

ต่อมา เมื่อเกิดการควบรวมเมืองศรีภิรมย์ เมืองพรหมพิรามและเปลี่ยนฐานะเป็นอำเภอพรหมพิรามใน ปี พ.ศ. 2440 ก็ปรากฏการย้ายที่ตั้งที่ว่าการอำเภอ จากพื้นที่ตัวเมืองเดิมคือริมฝั่งแม่น้ำน่านบ้านหางไหล มาตั้งอยู่ที่ฝั่งขวาของแม่น้ำน่าน ณ บ้านย่านขาด ภายหลังจากเกิดการควบรวมเมืองและตั้งขึ้นเป็นอำเภอที่มีนายอำเภอมาประจำการ[1]

จนเมื่อมีการสร้างทางรถไฟผ่าน จึงได้มีการย้ายที่ว่าการอำเภออีกครั้ง โดยย้ายมาตั้งอยู่ใกล้ทางรถไฟ ณ บ้านกรับพวงกลาง ตำบลพรหมพิราม ซึ่งน่าจะเป็นช่วงหลัง พ.ศ.2451 เรื่อยมา โดยในสมัยของพระยาอินทภูติภักดีและขุนจงใจหาญนั้น ก็ยังคงทำงานอยู่ในที่ว่าการอำเภอ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านกรับพวงกลางนี้สำหรับอาคารนั้นแต่เดิมเป็นไม้ชั้นเดียว ในปี พ.ศ. 2503 จึงได้ปรับปรุงขึ้นเป็น 2 ชั้น โดยเทพื้นคอนกรีตใต้ถุนอาคารเดิมและตีฝาโดยรอบ ซึ่งใช้เป็นที่ทำการของส่วนราชการต่าง ๆ ปัจจุบันได้สร้างที่ว่าการอำเภอใหม่ ณ สถานที่เดิมเป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น และเปิดทำการเมื่อ ปี พ.ศ. 2519[2]

  • วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2475 ตั้งตำบลทับยายเชียง แยกออกจากตำบลมะต้อง และตำบลวงฆ้อง[3]
  • วันที่ 1 เมษายน 2480 เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดพิษณุโลก กับจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยโอนพื้นที่หมู่ 5, 7 (ในขณะนั้น) ของตำบลตลุกเทียม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ไปขึ้นกับหมู่ 9 ของตำบลพญาแมน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้ถือคลองต่อเขตฝั่งเหนือนับตั้งแต่ริมบ้านข่อม ไปจนตลอดปลายคลองซึ่งต่อกับคลองตรั่งเป็นเส้นแบ่งเขต[4]
  • วันที่ 31 ธันวาคม 2481 โอนพื้นที่หมู่ 10 ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม ไปขึ้นตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก[5]
  • วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2490 เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอเมืองพิษณุโลก กับอำเภอพรหมพิราม โดยโอนพื้นที่หมู่ 13 (ในขณะนั้น) ของตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก มาขึ้นกับตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม[6]
  • วันที่ 10 มิถุนายน 2490 ตั้งตำบลคันโช้ง แยกออกจากตำบลหินลาด ตั้งตำบลท้อแท้ แยกออกจากตำบลวัดโบสถ์ ตั้งตำบลทับยายเชียง แยกออกจากตำบลวงฆ้อง และตำบลมะต้อง ตั้งตำบลบ้านยาง แยกออกจากตำบลหินลาด และตำบลท่างาม[7]
  • วันที่ 9 ธันวาคม 2490 แยกพื้นที่ตำบลวัดโบสถ์ ตำบลท้อแท้ ตำบลท่างาม ตำบลหินลาด และตำบลคันโช้ง ของอำเภอพรหมพิราม ไปตั้งเป็น กิ่งอำเภอวัดโบสถ์[8] และขึ้นการปกครองกับอำเภอพรหมพิราม
  • วันที่ 23 ธันวาคม 2490 โอนพื้นที่ตำบลบ้านยาง อำเภอพรหมพิราม ไปขึ้นกับ กิ่งอำเภอวัดโบสถ์[9]
  • วันที่ 17 กันยายน 2498 จัดตั้งสุขาภิบาลวงฆ้อง ในท้องที่บางส่วนของตำบลวงฆ้อง และบางส่วนของตำบลมะต้อง[10]
  • วันที่ 5 มิถุนายน 2499 ยกฐานะกิ่งอำเภอวัดโบสถ์ อำเภอพรหมพิราม เป็น อำเภอวัดโบสถ์[11]
  • วันที่ 28 พฤศจิกายน 2499 จัดตั้งสุขาภิบาลพรหมพิราม ในท้องที่บางส่วนของตำบลพรหมพิราม[12]
  • วันที่ 26 กันยายน 2510 เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอพรหมพิราม กับอำเภอเมืองพิษณุโลก โดยโอนพื้นที่หมู่ 1 (ในขณะนั้น) ของตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม ไปขึ้นกับตำบลจอมทอง อำเภอเมืองพิษณุโลก[13]
  • วันที่ 5 กันยายน 2521 ตั้งตำบลดงประคำ แยกออกจากตำบลทับยายเชียง[14]
  • วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะสุขาภิบาลวงฆ้อง และสุขาภิบาลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม เป็นเทศบาลตำบลวงฆ้อง และเทศบาลตำบลพรหมพิราม ตามลำดับ[15]
  • วันที่ 5 กันยายน 2546 มีการจัดตั้งและกำหนดเขตหมู่บ้าน ดังนี้
    • (1) แยกบ้านโปร่งนก หมู่ที่ 5 ตำบลหอกลอง และจัดตั้งเป็น หมู่ที่ 7 บ้านใหม่โปร่งนก
    • (2) แยกบ้านหางไหล หมู่ที่ 4 ตำบลมะต้อง และจัดตั้งเป็นหมู่ที่ 11 บ้านคลองคล้า
  • วันที่ 20 กันยายน 2547 จัดตั้งและกำหนดเขตหมู่บ้านเป็นครั้งที่ 2 ดังนี้
    • (1) แยกบ้านพระยาปันแดน หมู่ที่ 6 ตำบลตลุกเทียม และจัดตั้งเป็นหมู่ที่ 9 บ้านขอม
    • (2) แยกบ้านทุ่งตาเปรี้ยว หมู่ที่ 6 ตำบลดงประคำ แะจัดตั้งเป็นหมู่ที่ 11 บ้านทุ่งน้ำใส
    • (3) แยกบ้านป่าสัก หมู่ที่ 8 ตำบลมะต้อง และจัดตั้งเป็นหมู่ที่ 12 บ้านทศพล
  • วันที่ 21 ตุลาคม 2547 กำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอพรหมพิรามให้มีอาณาเขตตำบลที่ถูกต้อง โดยกำหนดให้ตำบลพรหมพิรามให้มีเขตการปกครองรวม 15 หมู่บ้าน ตำบลท่าช้าง ให้มีเขตการปกครองรวม 13 หมู่บ้าน ตำบลวงฆ้อง ให้มีเขตการปกครองรวม 11 หมู่บ้าน ตำบลมะตูม ให้มีเขตการปกครองรวม 6 หมู่บ้าน ตำบลหอกลอง ให้มีเขตการปกครองรวม 7 หมู่บ้าน ตำบลศรีภิรมย์ ให้มีเขตการปกครองรวม 12 หมู่บ้าน ตำบลตลุกเทียม ให้มีเขตการปกครองรวม 8 หมู่บ้าน ตำบลวังวน ให้มีเขตการปกครองรวม 10 หมู่บ้าน ตำบลหนองแขม ให้มีเขตการปกครองรวม 10 หมู่บ้าน ตำบลมะต้อง ให้มีเขตการปกครองรวม 11 หมู่บ้าน ตำบลทับยายเชียง ให้มีเขตการปกครองรวม 6 หมู่บ้าน และตำบลดงประคำ ให้มีเขตการปกครองรวม 10 หมู่บ้าน[16]
  • วันที่ 13 ธันวาคม 2549 แยกบ้านบึงธรรมโรง หมู่ที่ 10 ตำบลศรีภิรมย์ และจัดตั้งเป็นหมู่ที่ 13 บ้านบึงคล้าย

ที่ตั้งและอาณาเขต

แก้

อำเภอพรหมพิรามห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังนี้

การแบ่งเขตการปกครอง

แก้

การปกครองส่วนภูมิภาค

แก้

อำเภอพรหมพิรามแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 12 ตำบล 123 หมู่บ้าน ได้แก่

1. พรหมพิราม (Phrom Phiram) 15 หมู่บ้าน 7. ตลุกเทียม (Taluk Thiam) 8 หมู่บ้าน
2. ท่าช้าง (Tha Chang) 13 หมู่บ้าน 8. วังวน (Wang Won) 10 หมู่บ้าน
3. วงฆ้อง (Wong Khong) 11 หมู่บ้าน 9. หนองแขม (Nong Khaem) 10 หมู่บ้าน
4. มะตูม (Matum) 6 หมู่บ้าน 10. มะต้อง (Matong) 12 หมู่บ้าน
5. หอกลอง (Ho Klong) 7 หมู่บ้าน 11. ทับยายเชียง (Thap Yai Chiang) 6 หมู่บ้าน
6. ศรีภิรมย์ (Si Phirom) 13 หมู่บ้าน 12. ดงประคำ (Dong Prakham) 11 หมู่บ้าน

การปกครองส่วนท้องถิ่น

แก้

ท้องที่อำเภอพรหมพิรามประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 14 แห่ง ได้แก่

  • เทศบาลตำบลพรหมพิราม ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลพรหมพิราม
  • เทศบาลตำบลวงฆ้อง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลวงฆ้องและตำบลมะต้อง
  • องค์การบริหารส่วนตำบลพรหมพิราม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพรหมพิราม (นอกเขตเทศบาลตำบลพรหมพิราม)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้าง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าช้างทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลวงฆ้อง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวงฆ้อง (นอกเขตเทศบาลตำบลวงฆ้อง)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลมะตูม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลมะตูมทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหอกลอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหอกลองทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลศรีภิรมย์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลศรีภิรมย์ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลตลุกเทียม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลตลุกเทียมทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลวังวน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังวนทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแขม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองแขมทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลมะต้อง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลมะต้อง (นอกเขตเทศบาลตำบลวงฆ้อง)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลทับยายเชียง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทับยายเชียงทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลดงประคำ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลดงประคำทั้งตำบล

อาชญากรรม

แก้

อำเภอนี้เป็นที่รู้จักจากคดีข่มขืนแล้วฆ่าเมื่อ พ.ศ. 2520[17]

อ้างอิง

แก้
  1. เอกสารอ้างอิง ศุภกิตติ์ หอไชย, (2567), "โลกชีวิตของนายแจ้ง: ประวัติศาสตร์สังคมของผู้ร้ายคนหนึ่งในมณฑลพิษณุโลก พ.ศ.2430-2470," วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา, มหาวิทยาลัยนเรศวร.
  2. [1] เก็บถาวร 2021-05-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประวัติอำเภอพรหมพิราม
  3. "ประกาศกระทรวงธรรมการ เรื่อง การใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. ๒๔๖๔ สำหรับตำบลทับยายเชียง ซึ่งแยกมาจากตำบลมะต้องและตำบลวงฆ้อง อำเภอพรมพิม กับตำบลป่าคาย ซึ่งแยกมาจากตำบลแก่งโสภา อำเภอเมืองนครไทย จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 49 (0 ก): 659–660. February 19, 1932.
  4. "พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด พุทธศักราช ๒๔๗๙" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 54 (0 ก): 40–54. 1 เมษายน 2480. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-05-16. สืบค้นเมื่อ 2020-05-13.
  5. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอในจังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 57 (0 ง): 3237. December 31, 1938.
  6. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอในจังหวัดพิษณุโลก ศรีสะเกษ ตราด สิงห์บุรี อ่างทอง เพ็ชรบุรี และระนอง" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (9 ง): 254–257. 18 กุมภาพันธ์ 2490.
  7. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งตำบลในจังหวัดต่าง ๆ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (26 ง): 1114–1433. 10 มิถุนายน 2490. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-09. สืบค้นเมื่อ 2020-05-13.
  8. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ยกฐานะตำบลขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (60 ง): 3188–3193. 9 ธันวาคม 2490. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-09. สืบค้นเมื่อ 2020-05-13.
  9. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอในจังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 64 (62 ง): 3469–3470. 23 ธันวาคม 2490.
  10. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลวงฆ้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 72 (74 ง): (ฉบับพิเศษ) 88-89. 17 กันยายน 2498.
  11. "พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งอำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอคำชะอี อำเภอย่านตาขาว อำเภอวัดโบสถ์ อำเภอหนองบัว อำเภอวัฒนานคร อำเภอแสวงหา อำเภอท่าชนะ อำเภอพระพุทธบาท อำเภอโนนสัง อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอคีรีมาศ อำเภอชนแดน อำเภอแม่แจ่ม อำเภอไทรน้อย และอำเภอบ้านแพง พ.ศ. ๒๔๙๙" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 73 (46 ก): 657–661. 5 มิถุนายน 2499. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-10-11. สืบค้นเมื่อ 2020-05-13.
  12. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 73 (99 ง): (ฉบับพิเศษ) 51-52. 28 พฤศจิกายน 2499.
  13. "พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำเภอพรหมพิราม และอำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. ๒๕๑๐" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 84 (90 ก): 747–749. 26 กันยายน 2510.
  14. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตตำบลในท้องที่อำเภอพรหมพิราม และกิ่งอำเภอเนินมะปราง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 95 (92 ง): 2897–2901. 5 กันยายน 2521.
  15. "พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะของสุขาภิบาลเป็นเทศบาล พ.ศ. ๒๕๔๒" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 116 (9 ก): 1–4. 24 กุมภาพันธ์ 2542. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-04-09. สืบค้นเมื่อ 2020-05-13.
  16. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดเขตตำบลในท้องที่อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 121 (85 ง): 13–57. 21 ตุลาคม 2547.
  17. "นอภ. พรหมพิรามวอนสังคมหยุดพูดโยนบาปคดีข่มขืนโหดให้คนพรหมพิราม". มติชนออนไลน์. กรุงเทพฯ: มติชน. 2560-09-07. สืบค้นเมื่อ 2565-02-28. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)