ผู้ใช้:Kuruni/ร่างบทความ

ปิศาจที่ปรากฏในหนังสือกุญแจย่อยของโซโลมอน บท อาร์สโกเอเทีย และหนังสือซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม

รายชื่อ

บาเอล

ดูบทความหลักที่บาอัล (ปิศาจ)

ปิศาจที่ทั้ง อาร์สโกเอเทีย และ ซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 1 เป็นราชาผู้ปกครองทิศตะวันออกและมีอสูรใต้บังคับบัญชา 66 กอง

อากาเรส

อากาเรส

ปิศาจที่ทั้ง อาร์สโกเอเทีย และ ซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 2 อากาเรส(อังกฤษ: Agares)หรืออาเกรียส(อังกฤษ: Agreas)เป็นดยุกผู้ปกครองทิศตะวันออกและมีอสูรใต้บังคับบัญชา 31 กอง

อากาเรสปรากฏกายเป็นชายชราผู้นั่งบนหลังจระเข้และกุมเหยี่ยวไว้ในอุ้งมือ มีอำนาจทำให้ผู้ที่กำลังหลบหนีต้องหยุดนิ่งหรือกลับมาหาผู้อัญเชิญได้ สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหว ทำลายศักดิ์ศรีของผู้อื่น สามารถสอนภาษาต่างๆได้และชอบสอนถ้อยคำที่ใช้แสดงความไร้ศีลธรรม

ในหนังสือแกรนด์กริมมัวร์ ระบุว่าอากาเรสเป็นหนึ่งในปิศาจใต้บังคับบัญชาของลูซิฟุจ โรฟอคัล

วาสซาโก

ปิศาจตนที่ 3ใน อาร์สโกเอเทีย และเป็นหนึ่งในปิศาจซึ่งไม่ปรากฏใน ซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม วาสซาโก (อังกฤษ: Vassago) เป็นเจ้าฟ้าผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 26 กอง

ซามิจินา

ปิศาจตนที่ 4ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 47 ซามิจินา(อังกฤษ: Samigina)เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง ชื่ออื่นๆของซามิจินาก็คือ กามิจิน อังกฤษ: Gamigin) หรือ อังกฤษ: Gamygin)

มาร์บัส

ปิศาจตนที่ 5ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 3 มาร์บัส(อังกฤษ: Marbas)หรือบาร์บัส(อังกฤษ: Barbas) เป็นประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 36 กอง

วาเลฟอร์

ปิศาจตนที่ 6ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 14 วาเลฟอร์(อังกฤษ: Valefor) เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 10 กอง ชื่ออื่นๆของวาเลฟอร์ก็คือ วาลาฟาร์ (อังกฤษ: Valafar) วาเลฟาร์ (อังกฤษ: Valefar) มาลาฟาร์ (อังกฤษ: Malaphar) และมาเลฟาร์ (อังกฤษ: Malephar)

อามอน

อามอน

ปิศาจตนที่ 7ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 5 อามอน(อังกฤษ: Amon) เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 40 กอง

อามอนจะปรากฏกายเป็นสุนัขป่าซึ่งมีหางเป็นงูและหายใจเป็นเปลวไฟ แต่ผู้อัญเชิญสามารถสั่งให้แปลงร่างเป็นมนุษย์ผู้มีฟันของสุนัขหรือมีหัวเป็นนกเรเวนได้ อามอนสามารถบอกเล่าเหตุการณ์ทั้งในในอดีตและอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ มีอำนาจทำให้ผู้คนแตกแยก และทำให้มิตรกับศัตรูคืนดีกันได้

ในหนังสือแกรนด์กริมมัวร์ ระบุว่าอามอนเป็นหนึ่งในปิศาจใต้บังคับบัญชาของซาตานาเกีย

บาร์บาทอส

ปิศาจตนที่ 8ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 6 บาร์บาทอส(อังกฤษ: Barbatos) เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง

บาร์บาทอสมีอำนาจทำให้ผู้อัญเชิญเข้าใจเสียงร้องของนกและสัตว์ทั้งหลาย ทำให้เป็นที่ชอบพอของเหล่ามิตรสหายและผู้มีอำนาจ สามารถบอกเล่าเหตุการณ์ในอดีตและอนาคตได้ ทั้งยังสามารถเปิดเผยทรัพย์สมบัติซึ่งถูกปิดซ่อนไว้ด้วยเวทมนตร์คาถาได้

บาร์บาทอสจะปรากฏตัวเมื่อดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งของราศีธนูพร้อมกับมีราชาอีกสี่ตนติดตามมาด้วย ก่อนจะเป็นปิศาจนั้น บาร์บาทอสเคยเป็นเทวทูตคณะเวอร์เชีย

ในหนังสือแกรนด์กริมมัวร์ ระบุว่าบาร์บาทอสเป็นหนึ่งในปิศาจใต้บังคับบัญชาของซาตานาเกีย

ไพมอน

ไพมอน

ปิศาจตนที่ 9ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 22 ไพมอน(อังกฤษ: Paimon หรือ อังกฤษ: Paymon)เป็นราชาผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 200 กอง ชื่ออีกชื่อหนึ่งของไพมอนก็คือไพโมเนีย (อังกฤษ: Paimonia)

ไพมอนเป็นปิศาจที่จงรักภักดีต่อลูซิเฟอร์มากกว่าปิศาจในชั้นราชาตนอื่นๆ เมื่อไพมอนปรากฏตัวก็จะมีอสูรเล่นดนตรีประโคมมาด้วย ไพมอนจะพูดด้วยเสียงตะโกนอันดังจนไม่สามารถฟังรู้เรื่อง จะกระทั่งผู้อัญเชิญสั่งให้ไพมอนเบาเสียงลงจึงจะพูดเป็นปกติและตอบคำถามอย่างชัดเจน ไพมอนนั้นอาศัยอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และผู้อัญเชิญก็ต้องหันหน้าไปทางนั้นเมื่อทำพิธีเรียก และเมื่อผู้อัญเชิญก็ต้องตอบคำถามของไพมอนเพื่อแสดงเจตนาของตนก่อน หากว่าผู้อัญเชิญเรียกไพมอนมาตนเดียวก็ต้องเตรียมเครื่องสังเวยไว้ด้วย และบางครั้งก็จะมีปิศาจตามไพมอนมาอีกสองตนคือ เบบัล(อังกฤษ: Bebal)กับอบาลัม(อังกฤษ: Abalam)

ไพมอนสามารถสอนวิชาศิลปะ ปรัชญา และวิทยาศาสตร์ต่างๆได้ สามารถเปิดเผยความลับของดิน ลม น้ำ และความลับของจิตใจ สามารถมอบเกียรติยศให้ผู้อัญเชิญได้ มอบสัตว์รับใช้ให้ได้ และยังบังคับให้ผู้คนทำตามคำสั่งของผู้อัญเชิญได้ด้วย

ไพมอนมีลักษณะเป็นชายหนุ่มผู้มีใบหน้าสวยงามเหมือนสตรี สวมมงกุฎ และนั่งอูฐเป็นพาหนะ

บูเออร์

บูเออร์

ปิศาจตนที่ 10ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 7 บูเออร์(อังกฤษ: Buer)เป็นประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 50 กอง

บูเออร์มีอำนาจในช่วงราศีธนู บูเออร์สามารถสอนผู้อัญเชิญด้านปรัชญาและตรรกศาสตร์เกี่ยวกับศีลธรรมและธรรมชาติ รวมถึงเรื่องของสมุนไพรต่างๆได้ บูเออร์ยังสามารถรักษาอาการร่างกายอ่อนเปลี้ยและมอบวิญญาณรับใช้ให้ผู้อัญเชิญได้

ลักษณะของบูเออร์นั้นเป็นเซนทอร์ถือธนูและลูกศรซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราศีธนู แต่ตำราบางเล่มก็กล่าวว่าบูเออร์มีหัวเป็นสิงโตและมีขาเป็นแพะห้าข้างรอบๆตัวซึ่งทำให้บูเออร์สามารถเดินได้ทุกทิศทาง

ในหนังสือแกรนด์กริมมัวร์นั้นระบุว่าบูเออร์เป็นหนึ่งในปิศาจใต้บังคับบัญชาของอากาเลียเรปท์

แม้ว่าต้นกำเนิดของชื่อบูเออร์จะไม่ชัดเจนนัก แต่ในสมัยโบราณก็เคยมีเมืองชื่อ บูเออร์ อยู่ในประเทศเยอรมันด้วย (ปัจจุบันคือเมือง Gelsenkirchen)

กูเซียน

ปิศาจตนที่ 11ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 8 กูเซียน(อังกฤษ: Gusion) เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 40 กอง ชื่ออื่นๆของกูเซียนก็คือ กูซอย์น (อังกฤษ: Gusoin หรือ อังกฤษ: Gusoyn) และกูไซน์ (อังกฤษ: Gusayn)

ซิทริ

ปิศาจตนที่ 12ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 21 ซิทริ(อังกฤษ: Sitri) เป็นเจ้าฟ้าผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 60 กอง ชื่ออื่นๆของซิทริก็คือ บิทรู (อังกฤษ: Bitru) และซีทรี (อังกฤษ: Sytry)

เบเลธ

ปิศาจตนที่ 13ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 20 เบเลธ(อังกฤษ: Beleth) หรือบิเลท (อังกฤษ: Bilet, อังกฤษ: Bileth หรือ อังกฤษ: Byleth) เป็นราชาผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 85 กอง

เลราเจ

ปิศาจตนที่ 14ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 13 เลราเจ (อังกฤษ: Leraje)เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง ชื่ออื่นๆของเลราเจก็คือ เลราเอีย (อังกฤษ: Leraie หรือ อังกฤษ: Leraye) เลไรคา (อังกฤษ: Leraikha) โลราย (อังกฤษ: Loray) และ โอราย (อังกฤษ: Oray)

เลราเจมีลักษณะเป็นนักธนูผู้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีเขียว มีอำนาจทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงและเกิดสงคราม และยังทำให้แผลที่เกิดจากธนูตายเน่า ทั้งยังเป็นปิศาจประจำราศีธนู

เอลิกอส

เอลิกอส

ปิศาจตนที่ 15ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 12 เอลิกอส (อังกฤษ: Eligos)เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 60 กอง ชื่ออื่นๆของเอลิกอสก็คือ อบิกอร์ (อังกฤษ: Abigor) และ เอลิกอร์ (อังกฤษ: Eligor)

เอลิกอสมีลักษณะเป็นอัศวินขี่ม้า ถือหอก ธงตรา และไม้เท้าหรืองูพิษ มีอำนาจในการเปิดเผยสิ่งที่ซ่อนอยู่ สามารถทำนายผลของสงครามในอนาคตและแนะนำยุทธศาสตร์ให้ผู้อัญเชิญได้ ผู้ที่อัญเชิญเอลิกอสจึงมักเป็นที่ชื่นชอบในบรรดาผู้มีชื่อเสียง โดยเฉพาะขุนศึกและพระราชา

ในหนังสือแกรนด์กริมมัวร์นั้นระบุว่าเอลิกอร์เป็นหนึ่งในปิศาจใต้บังคับบัญชาของฟลูเรตี

เซพาร์

ปิศาจตนที่ 16ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 19 เซพาร์ (อังกฤษ: Zepar)เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 26 กอง

บอทิส

ปิศาจตนที่ 17ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 9 บอทิส(อังกฤษ: Botis) หรือ ออติส (อังกฤษ: Otis) เป็นประธานและเอิร์ลผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 60 กอง

ในหนังสือแกรนด์กริมมัวร์ ระบุว่าบอทิสเป็นหนึ่งในปิศาจใต้บังคับบัญชาของอากาเลียเรปท์

บาธิน

ปิศาจตนที่ 18ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 10 บาธิน(อังกฤษ: Bathin) เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง ชื่ออื่นๆของบาธินก็คือบาธิม (อังกฤษ: Bathym) และมาร์ธิม (อังกฤษ: Marthim)

ในหนังสือแกรนด์กริมมัวร์นั้นระบุว่าเอลิกอร์เป็นหนึ่งในปิศาจใต้บังคับบัญชาของฟลูเรตี

ซัลเลออส

ปิศาจตนที่ 19ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 65 ซัลเลออส(อังกฤษ: Saleos) เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง ชื่ออื่นๆของซาเลออสก็คือซัลลอส (อังกฤษ: Sallos), ซาเลออส (อังกฤษ: Zaleos) และซาเอบอส (อังกฤษ: Zaebos)

พูรซอน

ปิศาจตนที่ 20ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 11 พูรซอน(อังกฤษ: Purson) เป็นราชาผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 22 กอง ชื่ออื่นๆของพูรซอนก็คือพูรซัน (อังกฤษ: Pursan) และ คูรซอน (อังกฤษ: Curson)

ในหนังสือแกรนด์กริมมัวร์นั้นระบุว่าพูรซอนเป็นหนึ่งในปิศาจใต้บังคับบัญชาของฟลูเรตี

มาแรกซ์

ปิศาจตนที่ 21ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 15 มาแรกซ์(อังกฤษ: Marax) เป็นเอิร์ลและประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง ชื่ออื่นๆของมาแรกซ์ก็คือมอแรกซ์ (อังกฤษ: Morax), ฟอราอี (อังกฤษ: Foraii) และฟอร์แฟกซ์(อังกฤษ: Forfax)

อิพอส

ปิศาจตนที่ 22ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 16 อิพอส(อังกฤษ: Ipos) เป็นเอิร์ลและเจ้าฟ้าผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 36 กอง ชื่ออื่นๆของอิพอสก็คืออิเพส (อังกฤษ: Ipes), อายโพรอส (อังกฤษ: Ayporos) และอายเพเรส(อังกฤษ: Ayperos)

ไอม์

ปิศาจตนที่ 23ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 57 ไอม์(อังกฤษ: Aim หรือ อังกฤษ: Aym) เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 26 กอง ชื่ออื่นๆของไอม์ก็คือไอนิ (อังกฤษ: Aini) และฮาโบริม (อังกฤษ: Haborym)

ไอม์นั้นมีอำนาจให้เกิดไฟไหม้เมือง ปราสาท หรือสถานที่สำคัญอื่นๆได้ ทั้งยังทำให้ผู้คนฉลาดขึ้น และสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวได้อย่างเที่ยงตรง

ลักษณะของไอม์เป็นผู้ชายซึ่งมีสามหัว โดยหัวแรกเป็นงู หัวที่สองเป็นมนุษย์ซึ่งมีสัญลักษณ์ดอกจันสองอันบนหน้าผาก และหัวที่สามเป็นแมว มีงูพิษเป็นพาหนะและถือคบไฟซึ่งไอม์ใช้วางเพลิงสถานที่ต่างๆ

นาเบเรียส

ปิศาจตนที่ 24ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 17 นาเบเรียส(อังกฤษ: Naberius เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 19 กอง ชื่ออื่นๆของนาเบเรียสก็คือนาเบรุส (อังกฤษ: Naberus) เนบิรอส (อังกฤษ: Nebiros) และ เซอร์เบอรัส (อังกฤษ: Cerberus)

กลาเซีย ลาโบลัส

ปิศาจตนที่ 25ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 18 กลาเซีย ลาโบลัส(อังกฤษ: Glasya-Labolas เป็นประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 36 กอง ชื่ออื่นๆของกลาเซีย ลาโบลัสก็คือคาคริโนลาส (อังกฤษ: Caacrinolaas) และคาสซิโมลาร์(อังกฤษ: Caassimolar)

บูเน

ปิศาจตนที่ 26ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 24 บูเน(อังกฤษ: Bune เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง ชื่ออื่นๆของบูเนก็คือบิม (อังกฤษ: Bim) และบิเม(อังกฤษ: Bime)

โรโนเว

โรโนเว

ปิศาจตนที่ 27ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 26 โรโนเว(อังกฤษ: Ronove) เป็นมาควิสและเอิร์ลผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 19 กอง ชื่ออื่นๆของโรโนเวก็คือโรเนเว (อังกฤษ: Roneve) และรอนเว(อังกฤษ: Ronwe)

เบริธ

ปิศาจตนที่ 28ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 27 เบริธ(อังกฤษ: Berith) เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 26 กอง ชื่ออื่นๆของเบริธก็คือโบฟรี (อังกฤษ: Bofry) และบอลฟราย (อังกฤษ: Bolfry)

เบริธสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และ อนาคตได้อย่างแม่นยำ มีอำนาจเปลี่ยนโลหะใดๆเป็นทองคำ รวมทั้งสามารถมอบมอบศักดิ์ศรีให้แก่ผู้คนได้ ลักษณะของเบริธเป็นทหารชุดแดง ขี่ม้าสีแดง และสวมมงกุฎทองคำ น้ำเสียงของเบริธนั้นชัดเจนและนุ่มนวล แต่จะพูดเรื่องหลอกลวงในยามที่ไม่ได้ตอบคำถามของผู้อัญเชิญ ในพิธีอัญเชิญเบริธนั้น ผู้ทำพิธีเรียกจะต้องสวมแหวนเงินให้เบริธเห็นด้วย

ชื่อของเบริธมาจากบาอัลเบริธ ซึ่งเป็นปางของบาอัลที่นับถือกันในฟินิเชีย แถบเบรุตในปัจจุบัน เซบาสเตียน มิคาเอริส นักล่าแม่มดชาวฝรั่งเศสในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ได้ระบุว่าเบริธเป็นปิศาจที่ชักนำมนุษย์สู่การฆาตกรรมและเรื่องเหลวไหล ศัตรูของเบริธก็คือนักบุญบาร์นาบัส

ในการเล่นแร่แปรธาตุ ชิ่อเบริธเป็นธาตุที่ใช้ผสมเปลี่ยนโลหะเป็นทองคำได้

แอสทารอธ

แอสทารอธ

ปิศาจตนที่ 29ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 28 แอสทารอธ (อังกฤษ: Astaroth) เป็นดยุคผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 40 กอง บางครั้งก็เรียกว่า แอชทารอธ (อังกฤษ: Ashtaroth) หรือ อัสเทรอธ (อังกฤษ: Asteroth)

ฟอร์เนียส

ปิศาจตนที่ 30ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 25 ฟอร์เนียส (อังกฤษ: Forneus) เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 29 กอง

ฟอราส

ปิศาจตนที่ 31ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 29 ฟอราส (อังกฤษ: Foras) หรือ ฟอร์คาส (อังกฤษ: Forcas) เป็นประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 29 กอง

มาร์โชซิอัส

มาร์โชซิอัส

ปิศาจตนที่ 35ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 30 มาร์โชซิอัส(อังกฤษ: Marchosias)หรือมาร์โชคิอัส(อังกฤษ: Marchocias)เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง

มาร์โชซิอัสนั้นมีกำลังมากและต่อสู้เก่ง จะตอบคำถามและทำตามคำสั่งของผู้อัญเชิญด้วยความสัตย์ซื่อ มาร์โชซิอัสนั้นเคยเป็นเทวทูตคณะโดมิเนียน และได้บอกกับโซโลมอนว่าตนจะได้กลับเป็นเทวทูตเมื่อรับใช้มนุษย์เป็นเวลา1200ปี

มาร์โชซิอัสจะปรากฏกายเป็นสุนัขป่า(ซึ่งซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัมระบุว่าเป็นเพศเมีย) มีปีกของกริฟฟิน หางเป็นงูพิษ และพ่นไฟจากปาก แต่สามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้ตามคำสั่งของผู้อัญเชิญ

สโทลาส

สโทลาส

ปิศาจตนที่ 36ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 69 สโทลาส(อังกฤษ: Stolas)เป็นเจ้าฟ้าผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 26 กอง

สโทลาสสามารถสอนวิชาด้านดาราศาสตร์ เรื่องของสมุนไพร พืชมีพิษ และหินอัญมณีมีค่า ให้ผู้อัญเชิญได้ สโทลาสจะปรากฏกายเป็นนกฮูกสวมมงกุฏและมีขายาว หรือนกเรเวน แต่สามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้

ชื่ออื่นๆของสโทลาสประกอบด้วย สโทลอส(อังกฤษ: Stolos)และโซลาส(อังกฤษ: Solas)

เฟเนกซ์

ปิศาจตนที่ 37ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 68 เฟเนกซ์ (อังกฤษ: Phenex) หรือ ฟีนิกซ์ (อังกฤษ: Phoenix) เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 20 กอง

ฮัลฟาส

ปิศาจตนที่ 38ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 43 ฮัลฟาส (อังกฤษ: Halphas) เป็นเอิร์ลผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 26 กอง บางครั้งก็เรียกว่า ฮัลปัส (อังกฤษ: Halpas)หรือมัลธัส (อังกฤษ: Malthus, อังกฤษ: Malthous หรือ อังกฤษ: Malthas)

มาลฟาส

ปิศาจตนที่ 39ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 32 มาลฟาส (อังกฤษ: Malphas) เป็นประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 40 กอง

ราอุม

ปิศาจตนที่ 40ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 42 ราอุม (อังกฤษ: Malphas) หรือ ราอิม (อังกฤษ: Raim หรือ อังกฤษ: Raym) เป็นเอิร์ลผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง

ฟอคาลอร์

ปิศาจตนที่ 41ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 44 ฟอคาลอร์ (อังกฤษ: Focalor หรือ อังกฤษ: Forcalor) หรือ ฟูร์คาลอร์ (อังกฤษ: Furcalor) เป็น[ดยุก]]ผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง

เวพาร์

ปิศาจตนที่ 42ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 33 เวพาร์ (อังกฤษ: Vepar)เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 29 กอง บางครั้งก็เรียกว่า เซพาร์ (อังกฤษ: Separ) หรือ เวฟาร์ (อังกฤษ: Vephar)

เวพาร์มีอำนาจควบคุมห้วงน้ำและสามารถนำทางเรือรบได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ทะเลเกิดพายุและสร้างภาพลวงตาให้ดูเหมือนมีเรือเต็มไปหมดได้ เวพาร์ยังมีอำนาจทำให้คนเกิดแผลเน่าเปื่อยซึ่งเต็มไปด้วยหนอนและตายในสามวัน แต่ถ้าผู้อัญเชิญต้องการ เวพาร์ก็จะสามารถทำให้แผลนั้นหายดีได้เช่นกัน

เวพาร์มีลักษณะเป็นนางเงือก ซึ่ง72ปิศาจในอาร์สโกเอเทียนั้นมีเพียงเวพาร์และ เกรโมรี ที่เป็นเพศหญิง

แซบนอค

ปิศาจตนที่ 43ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 34 แซบนอค(อังกฤษ: Sabnock)เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 50 กอง ชื่ออื่นๆของแซบนอคประกอบด้วย แซบนัค (อังกฤษ: Sabnac) ซัลมาค (อังกฤษ: Salmac) และ ซัฟนอค (อังกฤษ: Savnock)

แซบนอคมีอำนาจสร้างหอคอย ปราสาท และเมือง ซึ่งเต็มไปด้วยอาวุธให้ผู้อัญเชิญ มอบสัตว์รับใช้ให้ และสามารถทำให้ศัตรูบาดเจ็บเป็นแผลเน่าเฟะเต็มไปด้วยหนอน ร่างของซับนอคเป็นทหารสวมเกราะ ถืออาวุธ หัวเป็นสิงห์โตและขี่ม้าสีซีด

แชกซ์

ปิศาจตนที่ 44ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 36 แชกซ์(อังกฤษ: Shax หรือ อังกฤษ: Chax)เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง ชื่ออื่นๆของแชกซ์ประกอบด้วย สคอกซ์ (อังกฤษ: Scox) ชาน (อังกฤษ: Shan) แชส (อังกฤษ: Shass) และ ชาซ (อังกฤษ: Shaz)

วิเน

ปิศาจซึ่งทั้ง อาร์สโกเอเทีย และซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 45 วิเน(อังกฤษ: Vine หรือ อังกฤษ: Viné)หรือวิเนีย(อังกฤษ: Vinea)เป็นเอิร์ลหรือราชาผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 36 กอง

วิเนปรากฏกายเป็นสิงห์โตซึ่งถืองูไว้ในมือ และมีพาหนะเป็นม้าสีดำ มีอำนาจทำนายเหตุการในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต หาตัวผู้เป็นแม่มดและสิ่งของที่ถูกซ่อนไว้ เรียกลมพายุซึ่งทำให้ท้องทะเลปั่นป่วน และทำให้หอคอยหรือกำแพงพังทลาย

บิฟรอนส์

ปิศาจซึ่งทั้ง อาร์สโกเอเทีย และซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 46 บิฟรอนส์(อังกฤษ: Bifrons)เป็นเอิร์ลผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 6 กอง

วูอัล

ปิศาจตนที่ 47ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 66 วูอัล(อังกฤษ: Vual เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 37 กอง ชื่ออื่นๆของวูอัลประกอบด้วย อูวาล (อังกฤษ: Uvall) และ วอวัล (อังกฤษ: Voval)

ฮาเกนทิ

ปิศาจตนที่ 48ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 67 ฮาเกนทิ(อังกฤษ: Haagenti เป็นประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 33 กอง

ครอเคล

ปิศาจตนที่ 49ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 38 ครอเคล(อังกฤษ: Crocell เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 48 กอง ชื่ออื่นๆของครอเคลประกอบด้วย พรอเคล (อังกฤษ: Procel) พูเคล (อังกฤษ: Pucel) และ โพเคล (อังกฤษ: Pocel)

ฟูรแคส

ปิศาจตนที่ 50ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 39 ฟูรแคส(อังกฤษ: Furcas)เป็นอัศวินผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 20 กอง ซึ่งฟูรแคสเป็นปิศาจเพียงตนเดียวที่มียศอัศวิน

ฟูรแคสสามารถสอนวิชาด้านดาราศาสตร์ ปรัชญา วาทศาสตร์ ตรรกศาสตร์ และการพยากรณ์ด้วยการดูลายมือและการดูไฟ ฟูรแคสจะปรากฏร่างเป็นชายชราผู้มีผมและเคราหงอกยาว นั่งมาบนหลังม้าและถืออาวุธเป็นหอกง่ามแหลมคม

ตามศัพทมูลวิทยา ชื่อของฟูรแคสนั้นน่าจะมาจาก furca ซึ่งเป็นภาษาละตินหมายถึงส้อม หรือภาษากรีก-โรมันหมายถึงที่เก็บศพ

บาลัม

ปิศาจตนที่ 51ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 63 บาลัม(อังกฤษ: Balam หรือ อังกฤษ: Balaam) หรือที่บางครั้งเรียกว่าบาลัน (อังกฤษ: Balan) เป็นราชาผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 40 กอง

อัลโลเซส

ปิศาจตนที่ 52ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 64 อัลโลเซส(อังกฤษ: Alloces) หรืออัลโลเซอร์ (อังกฤษ: Allocer) เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 36 กอง

ไคม์

ไคม์ในร่างนก

ปิศาจตนที่ 53ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 41 ไคม์(อังกฤษ: Caim หรือ อังกฤษ: Caym) หรือที่บางครั้งเรียกว่าคามิโอ (อังกฤษ: Camio) เป็นประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง

เมื่อปรากฏกายนั้น ไคม์จะเป็นนกสีดำขนาดใหญ่ แต่จะแปลงร่างเป็นมนุษย์ถือดาบได้ บางครั้งไคม์จะปรากฏร่างเป็นมนุษย์ผู้แต่งกายหรูหราและมีปีกเหมือนนก ไคม์นั้นมีความสามารถในด้านโต้วาทีกับผู้อื่น และมีอำนาจที่ทำให้ผู้อัญเชิญสามารถเข้าใจความหมายของเสียงร้องของสัตว์ต่างๆและเสียงของน้ำได้ นอกจากนั้นยังสามารถตอบคำถามของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแม่นยำ เมื่อตอบคำถามนั้น ไคม์จะยืนอยู่บนขี้เถ้าของถ่านหิน

ที่มาของชื่อของไคม์นั้นไม่แน่ชัดนัก เชื่อว่ามาจาก เคน(อังกฤษ: Cain) ฆาตกรคนแรกตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ หรือ คามุส (อังกฤษ: Chamus) /คามอส (อังกฤษ: Chamos) ซึ่งหมายถึงบาอัลพีออร์ หรือ ไคอุม (อังกฤษ: Chium) ซึ่งเป็นภาษาฮิบรูที่ใช้เรียกเทพของชาวอัสซีเรียและบาบิโลน

ตามความเชื่อของอารยธรรมเคลต์นั้น ไคม์เป็นชื่อของวิญญาณที่คุ้มครองมนุษย์ เมื่อรับศาสนาคริสต์เข้ามาแล้วจึงได้กลายเป็นชื่อของบทสวดขอความคุ้มครองแทน

มูรมูร

ปิศาจตนที่ 54ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 40 มูรมูร(อังกฤษ: Murmur) เป็นดยุกหรือเอิร์ลผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง ชื่ออื่นๆของมูรมูรก็คือมูรมุส (อังกฤษ: Murmus)และมูรมุกซ์ (อังกฤษ: Murmux)

มูรมูรจะสอนปรัชญาและสามารถเรียกวิญญาณของคนที่ตายไปแล้วให้ปรากฏต่อผู้อัญเชิญเพื่อถามคำถามต่างๆได้ตามต้องการ มูรมูรจะปรากฏตัวเป็นทหารผู้มีกริฟฟอนหรือแร้งเป็นพาหนะ ก่อนมูรมูรปรากฏตัวนั้นจะมีทูตเป่าแตรทรัมเป็ตนำมาด้วยสองตน

ชื่อมูรมูรนั้นมาจากภาษาละติน หมายถึงเสียงกระซิบ เสียงพึมพำ หรือ เสียงแตร

โอโรบัส

โอโรบัส

ปิศาจตนที่ 55ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 58 โอโรบัส(อังกฤษ: Orobas)เป็นเจ้าฟ้าผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 20 กอง

โอโรบัสสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงเรื่องของพระผู้เป็นเจ้าและการสร้างโลก โอโรบัสยังมีอำนาจที่จะมอบศักดิ์ศรีหรือบรรดาศักดิ์ให้ผู้อัญเชิญได้ รวมถึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบทั้งต่อผู้ที่เป็นมิตรและศัตรู

โอโรบัสมีลักษณะเป็นม้าและสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้เมื่อผู้อัญเชิญต้องการ โอโรบัสเป็นปิศาจที่มีความภักดีต่อผู้อัญเชิญ โดยจะไม่ยอมให้ภูติผีใดๆทำร้ายผู้อัญเชิญและยังเป็นปิศาจที่ไม่เคยหลอกลวงผู้อื่นอีกด้วย

ชื่อของโอโรบัสนั้นคาดว่ามาจากภาษาละติน โอโรบิอัส ซึ่งเป็นเครื่องหอมชนิดหนึ่ง

เกรโมรี

ปิศาจตนที่ 56ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 51 เกรโมรี (อังกฤษ: Gremory)เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 26 กอง บางครั้งก็เรียกว่า โกโมรี (อังกฤษ: Gomory) หรือ เกโมรี (อังกฤษ: Gemory)

เกรโมรีสามารถบอกเล่าเรื่องต่างๆในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้ รวมถึงสามารถบอกผู้อัญเชิญเรื่องสมบัติที่ถูกซ่อนไว้ รวมทั้งยังทำให้สตรีทั้งเยาว์วัยและผู้มีอายุหลงรักได้ แต่พลังด้านความรักของเกรโมรีนี้จะได้ผลกับหญิงสาวมากกว่า

เกรโมรีปรากฏกายเป็นสตรีผู้งดงามซึ่งคาดมงกุฏไว้รอบเอวและนั่งมาบนหลังของอูฐ ซึ่งในปิศาจ 72 ตนนั้นมีเพียงเกรโมรีและ เวพาร์ ที่มีลักษณะเป็นเพศหญิง

โอเซ

ปิศาจตนที่ 57ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 56 โอเซ หรือ ออซ (อังกฤษ: Ose หรือ อังกฤษ: Oze) เป็นประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 3 กอง ชื่ออื่นๆของโอเซก็คือโอโซ (อังกฤษ: Oso) และ โวโซ (อังกฤษ: Voso)

อามี

ปิศาจตนที่ 58ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 61 อามี (อังกฤษ: Amy) หรือ อัฟนัส (อังกฤษ: Avnas) เป็นประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 36 กอง

โอริอัส

ปิศาจตนที่ 59ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 49 โอริอัส (อังกฤษ: Orias) หรือ โอริแอ็กซ์ (อังกฤษ: Oriax) เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง

วาพูลา

ปิศาจตนที่ 60ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 59 วาพูลา (อังกฤษ: Vapula) หรือ นาฟูลา (อังกฤษ: Naphula) เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 36 กอง

ซากัน

ปิศาจตนที่ 61ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 48 ซากัน(อังกฤษ: Zagan)หรือซากัม(อังกฤษ: Zagam) เป็นราชาหรือประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 33 กอง

ซากันมีอำนาจทำให้คนฉลาดขึ้น สามารถเปลี่ยนไวน์เป็นน้ำ และเปลี่ยนน้ำกับเลือดให้เป็นไวน์ได้ (ซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัมระบุว่า เปลี่ยนเลือดเป็นน้ำมัน เปลี่ยนน้ำมันเป็นเลือด) ทั้งยังสามารถแปลงโลหะให้เป็นเหรียญที่ทำจากโลหะนั้นได้

ซากันมีลักษณะเป็นกระทิงซึ่งมีปีกเหมือนกริฟฟอน และแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้

วาลัค

ปิศาจตนที่ 62ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 50 วาลัค(อังกฤษ: Valac) เป็นประธานผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง ชื่ออื่นๆของวาลัคก็คือวอลัค (อังกฤษ: Volac) วาลิค (อังกฤษ: Valic) และออลัค (อังกฤษ: Ualac)

วาลัคสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับสมบัติที่ถูกซ่อนไว้ได้ รวมถึงสามารถหาที่อยู่ของงูพิษและจับตัวมาให้ผู้อัญเชิญได้ วาลัคจะปรากฏกายต่อผู้อัญเชิญในรูปของเด็กชายตัวเล็กๆผู้มีปีกของทูตสวรรค์และขี่มังกรสองหัว

แอนดราส

แอนดราส

ปิศาจตนที่ 63ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 54 แอนดราส(อังกฤษ: Andras) เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง

แอนดาสมีลักษณะเป็นทูตสวรรค์มีปีก แต่ส่วนหัวจะเป็นนกฮูกหรือนกเรเวน ขี่สุนัขป่าสีดำและถือดาบอันคมกริบซึ่งส่องแสงเป็นประกาย บางครั้งแอนดราสจะปรากฏตัวเมื่อมนุษย์ทะเลาะเบาะแว้งกันและทำให้ความบาดหมางรุนแรงยิ่งขึ้น

ผู้อัญเชิญแอนดราสจะสามารถใช้ให้แอนดราสไปสังหารศัตรูได้ แต่แอนดราสนั้นเป็นปิศาจที่ดุร้ายอย่างมาก หากผู้อัญเชิญไม่ระมัดระวังและประกอบพิธีผิดพลาดก็จะถูกแอนดราสฆ่าตายเสียเอง แอนดราสยังจะพยายามหลอกล่อให้ผู้อัญเชิญก้าวออกมานอกวงเวทซึ่งใช้ป้องกันตัวเพื่อฆ่าทิ้งอยู่เสมออีกด้วย

ฟลอรอส

ปิศาจตนที่ 64ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 62 ฟลอรอส(อังกฤษ: Flauros) เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 36 กอง ชื่ออื่นๆของฟลอรอสก็คือฮาวรัส(อังกฤษ: Hauras)และฮาวเรส (อังกฤษ: Haures หรือ อังกฤษ: Havres)

แอนเดรียลฟัส

ปิศาจตนที่ 65ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 55 แอนเดรียลฟัส(อังกฤษ: Andrealphus) หรืออันโดรอัลฟัส (อังกฤษ: Androalphus) เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง

คิเมียส

ปิศาจตนที่ 66ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 60 ซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม คิเมียส (อังกฤษ: Cimeies) เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 20 กอง ชื่ออื่นๆของคิเมียสก็คือ คิเมเรียส (อังกฤษ: Cimeries) และ คิมาริส (อังกฤษ: Kimaris)

แอมดุสเคียส

แอมดุสเคียส

ปิศาจตนที่ 67ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 53 แอมดุสเคียส (อังกฤษ: Amduscias) เป็นดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 29 กอง ชื่ออื่นๆของแอมดุสเคียสก็คือ แอมดูเคียส (อังกฤษ: Amdukias), แอมบุสเคียส (อังกฤษ: Ambuscias) และ แอมดูเซียส (อังกฤษ: Amdusias)

เบเลียล

ปิศาจตนที่ 68ใน อาร์สโกเอเทีย และเป็นหนึ่งในปิศาจซึ่งไม่ปรากฏใน ซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม เบเลียล (อังกฤษ: Belial) เป็นราชาผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 80 กอง

เดคาราเบีย

ปิศาจตนที่ 69ใน อาร์สโกเอเทีย ส่วนซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ระบุถึงเป็นตนที่ 52 เดคาราเบีย(อังกฤษ: Decarabia) หรือ คาราเบีย(อังกฤษ: Carabia) เป็นมาควิสผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 30 กอง

เดคาราเบียนั้นปรากฏกายเป็นรูปดาวห้าเหลี่ยมแต่จะแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ตามคำสั่งของผู้อัญเชิญ

เดคาราเบียนั้นมีความรู้ด้านสมุนไพรและหินมีค่า ทั้งยังมีอำนาจเรียกให้นกพันธุ์ใดๆบินมาหาผู้อัญเชิญได้ และนกนั้นจะกินอาหาร ร้อง และทำพฤติกรรมตามธรรมชาติเหมือนไม่มีผู้อัญเชิญอยู่

ซีเร

ปิศาจตนที่ 70ใน อาร์สโกเอเทีย และเป็นหนึ่งในปิศาจซึ่งไม่ปรากฏใน ซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ซีเร (อังกฤษ: Seere) เป็นเจ้าฟ้าผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 26 กอง ชื่ออื่นๆของซีเรก็คือ ซีอาร์ (อังกฤษ: Sear) และ เซอิร (อังกฤษ: Seir)

ดันทาเลียน

ปิศาจตนที่ 71ใน อาร์สโกเอเทีย และเป็นหนึ่งในปิศาจซึ่งไม่ปรากฏใน ซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม ดันทาเลียน (อังกฤษ: Dantalion หรือ อังกฤษ: Dantalian) เป็น[ดยุก]]ผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 36 กอง

อันโดรมาเลียส

ปิศาจตนที่ 72ใน อาร์สโกเอเทีย และเป็นหนึ่งในปิศาจซึ่งไม่ปรากฏใน ซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม อันโดรมาเลียส (อังกฤษ: Andromalius) เป็นเอิร์ลผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 36 กอง

อันโดรมาเลียสมีลักษณะเป็นชายผู้ใช้มือกุมงูพิษขนาดใหญ่ไว้ มีอำนาจในการทำให้หัวขโมยและของที่ถูกขโมยไปกลับมาหาผู้อัญเชิญ อันโดรมาเลียสยังมีอำนาจในการลงโทษหัวขโมยและคนชั่วอื่นๆ เปิดเผยถึงความชั่วร้ายต่างๆและสัญญาข้อตกลงอันไม่เป็นธรรม รวมทั้งยังสามารถหาสมบติที่ถูกซ่อนไว้ได้อีกด้วย

พรูฟลัส

พรูฟลัส

ปิศาจเพียงตนเดียวที่ปรากฏใน ซูโดโมนาร์เชีย แดโมนัม โดยเป็นปิศาจตนที่ 4 แต่ไม่ปรากฏใน อาร์สโกเอเทีย พรูฟลัส(อังกฤษ: Pruflas) หรือบูฟาส (อังกฤษ: Bufas) เป็นเจ้าฟ้าหรือดยุกผู้มีอสูรใต้บังคับบัญชา 26 กอง

พรูฟลัสมีอำนาจทำให้ผู้คนทะเลาะเบาแว้ง บาดหมาง หลอกลวงกัน และทำให้เป็นที่รังเกียจของผู้อื่น แต่จะตอบคำถามของผู้อัญเชิญด้วยความสัตย์ซื่อและดีงาม

พรูฟลัสนั้นมีรูปร่างเป็นกองเพลิงนอกหอคอยบาเบลซึ่งพรูฟลัสเคยพำนักอยู่และบางครั้งจะมีส่วนหัวเป็นเหยี่ยว แต่ใน Dictionnaire Infernal นั้นวาดพรูฟลัสไว้เป็นผู้ชายซึ่งมีหัวเป็นสิงห์โตและนั่งอยู่บนหมี

ในหนังสือแกรนด์กริมมัวร์ ระบุว่าพรูฟลัสเป็นหนึ่งในปิศาจใต้บังคับบัญชาของซาตานาเกีย

อ้างอิง

• S. L. MacGregor Mathers, A. Crowley, The Goetia: The Lesser Key of Solomon the King (1904). 1995 reprint: ISBN 0-87728-847-X.
• Johann Weyer, Pseudomonarchia Daemonum, Twilit Grotto: Archives of Western Esoterica (อังกฤษ)
• Crowley Aleister, The Lesser Key of Solomon, Goetia (อังกฤษ)
• Waite, A.E., Concerning the Descending Hierarchy:The Names and Offices of Evil Spirits The Book of Ceremonial Magic(1913), The Internet Sacred Text Archive (อังกฤษ)

หมวดหมู่:ปิศาจ