ดอกส้มสีทอง
บทความนี้ต้องการข้อความอธิบายความสำคัญที่กระชับ และสรุปเนื้อหาไว้ย่อหน้าแรกของบทความ |
ดอกส้มสีทอง เป็นละครแนวดราม่า สะท้อนสังคม ออกฉายทางช่อง 3 เอชดี เมื่อปี 2554 โดยเป็นภาคต่อจากละครเรื่องมงกุฎดอกส้ม ละครพัฒนาจากบทประพันธ์ในชื่อเดียวกันเรื่อง ดอกส้มสีทอง บทประพันธ์ของ ถ่ายเถา สุจริตกุล[1]
ดอกส้มสีทอง | |
---|---|
สร้างโดย | บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด |
บทประพันธ์ | บทประพันธ์: ถ่ายเถา สุจริตกุล บทโทรทัศน์: ศัลยา |
กำกับโดย | โชติรัตน์ รักษ์เริ่มวงษ์ |
นักแสดง | วิทยา วสุไกรไพศาล อารยา เอ ฮาร์เก็ต มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล หลุยส์ สก็อต อภิษฎา เครือคงคา ฉัตรชัย เปล่งพานิช จริยา แอนโฟเน่ รินลณี ศรีเพ็ญ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ |
จำนวนตอน | 16 ตอน |
การผลิต | |
ผู้จัดละคร | ประวิทย์ มาลีนนท์ อรุโณชา ภาณุพันธ์ |
ความยาวตอน | 120 นาที |
ออกอากาศ | |
สถานีโทรทัศน์ | ช่อง 3 เอชดี |
ออกอากาศ | 30 มีนาคม 2554 – 19 พฤษภาคม 2554 |
ละครเรื่องก่อนหน้า | มงกุฎดอกส้ม |
โครงเรื่อง
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ (พฤษภาคม 2024) |
เรยา วงศ์เศวต หญิงสาววัยประมาณ 20 ปี สาวสวยหน้าตาคมเข้ม ผิวคล้ำนวลเนียน หน้าตากระเดียดไปทางแขกมากกว่าไทย เรยาเกลียดการเรียนหนังสือตั้งแต่เล็ก และมักหาข้ออ้างในการหลีกเลี่ยงไม่ไปโรงเรียนเสมอ จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย เรยาแต่งตัวออกจากบ้านทุกวันในชุดนักศึกษาแต่ไม่เคยไปถึงมหาวิทยาลัยเลย
วันนี้เธอกำลังเข้ารับการสัมภาษณ์โดย สินธร ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบุคคลบริษัทสยามทรานเนชั่นแอร์เวย์ส ซึ่งถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในธุรกิจการบิน เธอมาสมัครเป็นแอร์โฮสเตส อาชีพซึ่งหญิงสาวแทบทุกคนใฝ่ฝัน เพราะเป็นอาชีพที่สะดวกสบาย ได้เดินทางและได้พบปะกับบุคคลต่าง ๆ มากมายจากทั่วทุกมุมโลก เรยาเสี่ยงเข้ามาสมัครทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่จบการศึกษาในชั้นปีที่สามเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้า ทำให้เธอกล้าโกงอายุตนเองและแม้กระทั่งวุฒิทางการศึกษาด้วย สินธรคือคนที่เรยาใฝ่ฝันว่าจะเป็นผู้ที่บันดาลอนาคตที่งดงามให้กับเธอ เขารู้ในทันทีถึงความต้องการของตนเองและของสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้า อีกอย่างสินธรมีเวลาในการสานสัมพันธ์กับสาวน้อยผู้นี้ไม่มากนัก เนื่องจากเขาต้องรีบกลับบ้านให้ตรงเวลาตามที่ เด่นจันทร์ ชลธี ภรรยาของเขาเป็นผู้กำหนด สินธรจำต้องเกรงกลัวภรรยาอย่างไม่มีทางเลือก เนื่องจากชีวิตความร่ำรวย อำนาจ บารมีต่าง ๆ ที่เขามีได้อย่างทุกวันนี้ ล้วนมาจากอำนาจภรรยาบันดาลให้ทั้งสิ้น
เด่นจันทร์ ชลธี บุตรสาวสวยเพียงคนเดียวของ นายเดช ชลธี คหบดีผู้มั่งคั่งและร่ำรวยอิทธิพลแห่งเมืองชลบุรี นายเดชนั้นทั้งรักและตามใจธิดาคนเดียวเป็นที่สุด เนื่องจากกำพร้ามารดาตั้งแต่ยังเล็ก เด่นจันทร์เจอสินธรเมื่อเธอนั้นไปศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ สองเดือนต่อมาทั้งคู่ก็เข้าพิธีวิวาห์ยิ่งใหญ่แห่งรอบปี โดยที่เด่นจันทร์เองก็ไม่สนใจจะเรียนต่อให้จบอีกต่อไป รวมทั้งไม่สนใจด้วยว่าเจ้าบ่าวของเธอจะเป็นใครมาจากไหน เธอยืนกรานที่จะแต่งงานกับสินธรอย่างแน่นอน โดยที่นายเดชเองก็ไม่อาจจะคัดค้านได้ และด้วยอำนาจเงินและบารมีล้นฟ้า วงสังคมเมืองไทยต่างสรรเสริญว่าเด่นจันทร์ช่างฉลาดนักในการเลือกเจ้าบ่าวซึ่งรูปสวยรวยวิชามาเป็นสามี
คฤหาสน์แดงเก่าคลาคล่ำริมคลองภาษีเจริญของ ท่านเจ้าสัวเชงสือเกียง คือสถานที่กำเนิดของเรยา มารดาของเธอคือ นางลำยอง หรือ ด๊วด สาวเชื้อสายมอญ ยายของเรยานั้นคือ นางลำเพา เป็นสาวสวยเชื้อสายมอญแถบปากลัด ลำเพานั้นเป็นหลานของ ยายพุ่ม แม่ครัวไทยเพียงคนเดียวของอาณาจักรจีนแห่งนี้ นางพาลำยองมาฝากให้นางพุ่มเลี้ยงดูเพราะนางกำลังจะแต่งงานใหม่กับ อาจารย์บุญสม หมอเสน่ห์ชื่อดังแห่งเมืองกาญจน์ ซึ่งเป็นสามีคนที่เท่าไหร่ไม่ทราบได้ นางพุ่มเองก็เบื่อพฤติกรรมของญาติผู้น้องคนนี้เต็มที แต่ก็เต็มใจรับลำยองเอาไว้เลี้ยงดูโดยให้เป็นลูกมือช่วยทำอาหารในครัว
ลำยองเป็นเด็กสาวหน้าตาสะสวย กิริยามารยาทเรียบร้อยสงบเสงี่ยม ไม่ช่างพูดช่างเจรจาเหมือนมารดา ลำยองทำงานรับใช้อยู่ในครัวเป็นปกติ แต่ยามว่างเธอก็ขึ้นไปรับใช้คุณนายต่าง ๆ ของท่านเจ้าสัวบ้าง คุณนายของท่านเจ้าสัวมีทั้งหมด 4 คน คนแรกคือ เม่งฮวย คุณนายใหญ่จากเมืองจีน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลบ่าวไพร่และจัดการบริหารควบคุมดูแลทุกเรื่องในบ้าน เยนหลิง คุณนายที่สอง หลานสาวท่านทูต ผู้มีหน้าตาท่าทางอ่อนหวาน กิริยามารยาทนุ่มนวล แต่ซ่อนความอิจฉาริษยาความดุร้ายไว้อย่างแนบเนียน เหม่เกว่ หรือ โรส คุณนายที่สาม อดีตนางเอกคณะอุปรากรจีน ชอบร้องเพลงร่ายรำเกือบตลอดทั้งวัน เธอเป็นคนโผงผางและตรงไปตรงมา คำแก้ว คุณนายคนสุดท้ายหรือคุณนายที่สี่ของท่านเจ้าสัว เธอเป็นคนใจดีและใจเย็น เรียบร้อย อ่อนโยน พูดจาอ่อนหวานสมดังความเป็นชาวเหนือของเธออย่างแท้จริง
ลำยองมักจะถูกเยนหลิงเรียกให้ไปรับใช้บ่อยที่สุด เนื่องจากเธอมักวางท่าเป็นลูกผู้ลากมากผู้ดีอยู่เสมอ เธอทนไม่ได้กับกิริยามารยาทเลวทรามเหลือจะขัดเกลาของเด็กรับใช้คนเก่า ด้วยท่าทางเรียบร้อย กิริยามารยาทที่นอบน้อม ทำให้เยนหลิงเอ่ยปากขอลำยองไปเป็นเด็กรับใช้ประจำตัว ร้อนถึงนางพุ่มซึ่งรู้อยู่เต็มอกว่าเยนหลิงเป็นคนเช่นไร นางไม่อยากให้หลานสาวไปเป็นเด็กรับใช้ประจำตัวของคุณนายที่สองผู้ร้ายกาจคนนี้เลย นางจึงแกล้งเป็นลมครั้งใหญ่ทำให้ในครัวเกิดความโกลาหล เมื่อขาดแม่ครัวใหญ่และผู้ทำอาหารได้ดีที่สุดในขณะนั้น ก็มีเพียงลำยองคนเดียว ทำให้ลำยองจำต้องกลับมาเป็นลูกมือและผู้ช่วยคนสำคัญในครัวดังเดิม ซึ่งลำยองเองก็ดีใจมากที่ไม่ต้องคอยนั่งตัวลีบต่อหน้าคุณนายเยนหลิงอีกต่อไปแล้ว ด้วยสังขารที่อ้วนพีเกินความจำเป็นของนางพุ่มและโรคภัยไข้เจ็บที่มาพร้อมวัยที่เปลี่ยนไป ทำให้นางเริ่มขี้เกียจออกไปจ่ายตลาด นางจึงมอบหมายหน้าที่นี้ให้เป็นของลำยองแต่เพียงผู้เดียว
ลำยองออกไปจ่ายตลาดทุกวันจนได้พบกับ บังดุล หรือ นายอดุลย์ แขกยามซึ่งทำงานอยู่ที่ตึกของ คุณหลวงเจริญนิติเวช ชาวอังกฤษนายฝรั่งข้าง ๆ คฤหาสน์แดง ลำยองรู้สึกถูกชะตาบังดุลมากเนื่องจากในคฤหาสน์ที่เธออาศัยอยู่มีแต่คนจีนหน้าตาจืดชืด ไม่คมเข้มอย่างบังดุลเลย ส่วนบังดุลเองก็รู้สึกชอบสาวน้อยหน้าตาสะสวย อ่อนหวาน กิริยามารยาทเรียบร้อยคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียว ทั้งสองต่างพึงพอใจและรักกันในที่สุด และเมื่อความรักสุกงอมเป็นไปตามครรลองธรรมชาติ ฝ่ายหญิงก็ตั้งท้องขึ้น ลำยองเองรู้สึกหวาดกลัวต่อเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะในตึกแดงท่านเจ้าสัวออกกฎอย่างเคร่งครัด หากรักใคร่ชอบพอกันจะจัดการสู่ขอให้อยู่กินกันตามประเพณีเลย ห้ามลักลอบได้เสียกันอย่างเด็ดขาด บังดุลได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างเป็นมั่นเหมาะกับลำยองไม่ให้หวาดกลัว เขาจะมาสู่ขอเธออย่างถูกต้องตามประเพณีอย่างแน่นอน
แต่แล้วดังเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เกิดมีโจรขึ้นขโมยของในตึกนายฝรั่ง บังดุลเข้าทำหน้าที่ของเขาอย่างกล้าหาญจนถูกโจรแทงตาย ลำยองร้องไห้หัวใจแทบแตกสลาย เมื่อไม่สามารถจัดการชีวิตของตนเองได้อีกต่อไป เธอจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษานางพุ่ม นางพุ่มแทบอกแตกตายเมื่อรู้พฤติกรรมของหลานสาว นางใช้เวลาคิดทบทวนอยู่หลายวัน จึงตัดสินใจพาลำยองไปขอความเมตตาจากเยนหลิง เพราะรู้ดีว่านาทีนี้เยนหลิงเป็นคุณนายเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยชีวิตลำยองได้ เยนหลิงพูดจาดูถูกแดกดันลำยองอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจช่วยลำยอง สองสัปดาห์ต่อจากนั้นไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อท่านเจ้าสัวเชงค้างคืนกับคุณนายเยนหลิงตลอดสองสัปดาห์นั้น วันหนึ่งท่านเจ้าสัวออกปากกับทุกคนกลางโต๊ะอาหารเรื่องการตั้งครรภ์ของลำยอง ให้ทุกคนช่วยดูแลด้วย เม่งฮวยอยากจะคัดค้านที่สุดแต่ก็ไม่กล้า ทุกคนที่คฤหาสน์แดงจึงต้องช่วยกันดูแลลำยองอย่างไม่ปริปากบ่น
วันคืนผ่านไปลำยองคลอดบุตรสาวออกมา หน้าตาน่ารักน่าชังเหมือนบังดุลผู้เป็นพ่ออย่างยิ่ง ด้วยความรักและความสงสารที่ลูกเกิดมากำพร้าพ่อ ลำยองจึงตามใจลูกสาวคนเดียวในทุก ๆ เรื่อง ด้วยความที่เกิดมาหน้าตาเหมือนแขก ทุกคนรวมทั้งมารดาจึงเรียกเธอว่า แขก ซึ่งเรยาเกลียดนักหนา เธอไม่ชอบให้ใครมาล้อกำพืดของตนเอง เด็กน้อยแม้อายุเพียง 5 ขวบแต่ก็มีท่าทางก้าวร้าว ไม่กลัวใคร ทะเยอทะยาน หัวสูงจนหลายต่อหลายครั้งลำยองรู้สึกอ่อนใจในพฤติกรรมของบุตรสาว แต่ด้วยความรักลูกนางจึงปล่อยเลยตามเลย ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับพฤติกรรมแย่ ๆ ของบุตรสาว
เรยามักเรียกแทนตัวเองเสมอว่า ฟ้า ซึ่งเด็กน้อยใฝ่ฝันจะเป็นนางฟ้าที่สูงส่งให้ได้สักวันในอนาคต ทุกคนที่คฤหาสน์แดงมักจะหัวเราะอย่างขบขันเมื่อได้ยินชื่อที่เรียกแทนตัวเองของเธอ บรรดาบุตรสาวและบุตรชายของท่านเจ้าสัว อันประกอบด้วย คุณกองแก้ว และ คุณกรรณิการ์ บุตรสาวของเยนหลิง คุณเกียรติกร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของโรส ทุกคนรุมกันล้อเรยาอย่างตลกขบขันในความเป็นลูกแขก เรยาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง และตอบโต้บรรดาเจ้านายเล็กอย่างรุนแรงและหยาบคาย หลายครั้งที่ผ่านมาเรยามักรอดตัวเสมอ เพราะเหตุการณ์มักยุติลงก่อนที่จะมีผู้ใหญ่คนใดมาร่วมรับรู้ หากแต่วันนี้โชคไม่เข้าข้างเรยาเหมือนครั้งก่อน ๆ เมื่อเยนหลิงเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี เรยาจึงโดนเฆี่ยนไปหลายที เด็กสาวร้องไห้อย่างเจ็บแค้นและเจ็บปวด ผลจากน้ำตาก็นับว่าคุ้มค่า ในวันนั้นมารดาของเธอเรียกบุตรสาวว่าฟ้าโดยที่ไม่เรียกชื่อแขกอีกเลย
ทุกคนที่คฤหาสน์แดงต่างตกใจเป็นอันมากที่รู้ว่าท่านเจ้าสัวพาคุณนายแหม่ม ซิลเวีย กลับมาด้วย ความอิจฉาริษยา ชิงดีชิงเด่นในหมู่ภรรยากลับมาอีกครั้ง เม่งฮวยเกลียดชังนังอั้งม้อผู้นี้ยิ่งนัก เนื่องจากการแสดงออกในความรักอย่างพร่ำเพรื่อไม่เลือกกาลเทศะ เวลา หรือสถานที่ของซิลเวียตามแบบชาวตะวันตก จึงเป็นที่ขัดลูกตาของเม่งฮวยเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเยนหลิงเธอเกลียดแสนเกลียดคุณนายฝรั่งผู้นี้จับใจ เธอจึงคอยหาทางปะทะคารมด้วยวาจาที่เชือดเฉือนอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ แต่วาจาอันดุเด็ดเผ็ดร้อนของเยนหลิงก็ไม่เป็นผลอันใดเลย เมื่ออีกฝ่ายซึ่งมีความรู้ทางภาษาไทยน้อยเต็มทีไม่สามารถเข้าใจความหมายได้ เยนหลิงจึงแทบอกแตกตายอยู่นั่นเอง การทำศัลยกรรมของท่านเจ้าสัวให้ผลดีแต่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น หากแต่ภายในไม่เป็นแต่อย่างใดเลย ท่านยังคงเป็นชายชราอายุ 60 ปีดังเดิม คุณนายแหม่มคนใหม่มักชวนให้ท่านออกไปสังสรรค์ ปาร์ตี้เข้าสังคมหรูหราเป็นประจำทุกค่ำคืน จนสุขภาพร่างกายทรุดโทรมเพราะไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ จนล้มป่วยลงในเวลาต่อมา
เยนหลิงคิดหากลอุบายใหม่ด้วยวิธีทางไสยศาสตร์ เธอจึงสั่งให้ลำยองเดินทางไปที่กาญจนบุรีอีกครั้ง เพื่อนำอาคมคาถาวิเศษมาทำลายซิลเวีย ลำยองเองเคยเดินทางไปเอาของมาให้เยนหลิงแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีกลาย และแล้วเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ นานาก็เกิดขึ้นในบ้าน เมื่อคุณนายที่สามกระโดดบ่อน้ำตายอย่างปริศนา คุณนายที่สี่วิกลจริตอย่างน่าสงสาร รวมทั้งเด็กรับใช้อีกหนึ่งคนป่วยตายอย่างน่าเวทนา ลำยองไม่รู้จะปฏิเสธเยนหลิงได้อย่างไร เธอสำนึกในบาปบุญคุณโทษ และคิดว่าตนเองคือต้นเหตุที่ทำให้สามชีวิตนั้นต้องพบจุดจบอย่างน่าอนาถ ในที่สุดลำยองจึงตัดสินใจไปพึ่งใบบุญเก่าของสามี ด้วยการเข้าไปหานายฝรั่งซึ่งเป็นเจ้านายของบังดุลเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อทราบเรื่องนายฝรั่งจึงจัดการฝากฝังให้ลำยองได้ไปทำงานที่บ้านเพื่อนของเขาในย่านบางกะปิ ซึ่งอยู่ไกลจากคลองภาษีเจริญแห่งนี้ ในวันที่ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปกาญจนบุรีจึงเป็นวันเดียวกับที่ลำยองพาเรยาบุตรสาวของเธอจากคฤหาสน์แห่งนี้ไปอย่างไม่หวนกลับมา
เรยาและสินธรมักลอบพบกันและฮันนีมูนตามประเทศต่าง ๆ อยู่เสมอ แต่ครั้งนี้โชคไม่เข้าข้าง เมื่อเพื่อนผู้หวังดีผู้หนึ่งของเด่นจันทร์เห็นเธอและสินธรเข้าที่นิวซีแลนด์ สายทางไกลจากนิวซีแลนด์ถึงกรุงเทพฯ จึงเกิดขึ้น เด่นจันทร์รู้ดีว่าสามีของเธอเจ้าชู้เพียงใด แต่การกระทำครั้งนี้มันหยามเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และทำลายความรู้สึกของเธอมากเหลือเกิน เมื่อกลับจากนิวซีแลนด์สินธรต้องพบกับคำขาดทันที เมื่อเด่นจันทร์ออกคำสั่งให้เขายุติความสัมพันธ์กับนางฟ้าตาหวานคนนี้ และต้องไม่มีเธอในบริษัทสยามทรานเนชั่นแอร์เวย์สอีกต่อไป หากไม่เป็นไปตามนั้นสินธรต้องออกจากชีวิตเด่นจันทร์ทันที
เรยารู้สึกเสียใจแต่ก็เพียงนิดเดียวเมื่อสินธรเป็นฝ่ายเลิกรากับเธอ โดยยื่นทรัพย์สินให้เธอเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งตำแหน่งงานใหม่ในสายการบินอเมริกันชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอย้ายออกจากคอนโดมาอยู่บ้านหลังใหม่ พร้อมทั้งรับลำยองมาอยู่ด้วย ลำยองเห็นความเจริญก้าวหน้าของบุตรสาวเพียงวัตถุที่เห็น จึงชื่นชมโสมนัสไปด้วยโดยที่ไม่รู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร
ผู้โดยสารชั้นหนึ่งเพียงคนเดียวของสายการบินจากเมืองไทยสู่นิวซีแลนด์ ทำให้หัวใจเรยารู้สึกสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก เธอจึงรีบเช็คดูทันทีว่าเขาเป็นใคร เขาคือ ก้องเกียรติ เจนพานิชย์สกุล บุตรชายคนโตของท่านเจ้าสัวเชงสือเกียงนั่นเอง เธอรีบเข้าไปทำความรู้จักกับเขาทันที การเดินทางรอบโลกอันยาวนานเพื่อเจรจาธุรกิจของเขาในครั้งนี้ค่อนข้างน่าเบื่อ เขาจึงคิดจะแวะมาพักผ่อนกับน้องชายซึ่งเรียนอยู่ที่นิวซีแลนด์ ก่อนจะบินกลับยุโรปเพื่อไปรับ ณฤดี บุตรสาวเอกอัครราชทูตผู้เป็นภรรยาก่อนบินกลับเมืองไทย เรยาสามารถล้วงข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างไม่ยากนัก เป็นที่แน่นอนว่าเขามีเจ้าของแล้ว แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลสำคัญอันใดสำหรับเรยา เธอหมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่า อย่างไรเสียเธอจะทำทุกสิ่งให้คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเจ้าสัวผู้นี้ทิ้งหัวใจไว้ที่นิวซีแลนด์ให้จงได้
ก้องเกียรติรู้สึกตัวตื่นขึ้นตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่สาง มีร่างใครคนหนึ่งซึ่งนอนข้าง ๆ โผเข้ากอดอย่างรวดเร็ว ก้องเกียรตินึกโกรธตัวเองนัก ตามกำหนดการเดิมของเขาคือมาเยี่ยมน้องชาย แต่เนื่องจากไม่ได้นัดกับน้องชายจึงคลาดเคลื่อนกัน มีเพียงเสียงข้อความที่อัดไว้ว่าเขาจะไม่อยู่บ้านตลอดทั้งเดือน ทีแรกก้องเกียรติคิดว่าจะกลับไปหาณฤดีและพักผ่อนอยู่กับเธอที่ยุโรปสักพัก และรับเธอกลับกรุงเทพฯ พร้อมกัน แต่แล้วด้วยเสียงรบเร้าและก่อกวนจากนางฟ้าแสนสวยผู้นี้ ก็ทำให้เขาใจอ่อนยอมให้เธอพาเที่ยวเล่นไปรอบ ๆ เมืองอยู่หลายวัน สมดังความตั้งใจของนางฟ้าตาหวานโดยแท้ เพราะความใจอ่อนของเขาอีกครั้ง ก้องเกียรติคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พา เรืองยศ เข้ามาสนิทสนมจนทำให้คำแก้วแม่เลี้ยงสาวของเขาต้องวิกลจริตไปก่อนวัยอันควร เมื่อเห็นภาพความสัมพันธ์อันอุจาดตาในค่ำคืนนั้น ความสัมพันธ์ในคืนนั้นที่เขาเผลอตัวไป ทำให้เรื่องยศเข้าใจผิดตีความเป็นอย่างอื่น จนสุดท้ายต้องจบชีวิตลงท่ามกลางมหาสมุทร เพียงเพราะการไม่ยอมรับความรักที่ผิดรูปแบบแผนปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งเช่นกันที่ก้องเกียรติรู้สึกว่าชีวิตของตนเองเลวร้ายลงไปทุกที
เรยายื่นข้อเสนอให้ก้องเกียรติเป็นผู้เลี้ยงดูเธอเช่นเดียวกับที่สินธรเคยกระทำ ก้องเกียรติจำต้องรับภาระข้อนี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ชีวิตสมรสระหว่างเขาและณฤดีไม่เคยมีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ทุกอย่างดำเนินมาอย่างราบเรียบและผาสุก ขาดเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นคือลูก ซึ่งเปรียบเสมือนโซ่ทองคล้องใจพ่อแม่ แม้เวลาจะล่วงเลยมานานสักเพียงใดการรอคอยก็ไม่เป็นผลเลย ณฤดีเองก็ร้าวรานใจอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยความเข้มแข็งที่มีภายในใจทำให้เธอไม่แสดงออกมาให้ใครได้เห็นเลย แม้กระทั่งก้องเกียรติก็ตาม
ก้องเกียรติมักค้างคืนกับเรยาบ้างตามแต่โชคชะตาและโอกาสจะอำนวย แต่ส่วนใหญ่เขามักจะอยู่กับณฤดี ซึ่งนั่นทำให้เรยายิ่งคั่งแค้นหนักขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งลำยองได้รู้ความจริงว่าลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนเป็นภรรยาน้อยบุตรชายท่านเจ้าสัวใหญ่ผู้หนึ่ง เรยาบังคับให้มารดาไปเอาคุณไสยวิเศษจากตาที่กาญจนบุรีมาทำเสน่ห์ให้ก้องเกียรติหลงใหลตนแต่เพียงผู้เดียว ลำยองร้องไห้หัวใจแทบแตกสลาย บุตรสาวที่หล่อนรักปานแก้วตาดวงใจ ทำไมถึงไม่รู้สึกสำนึกในบาปบุญคุณโทษบ้างเลย คนเดียวที่ลำยองนึกถึงยามเกิดปัญหาคราวนี้ก็มีเพียงนางพุ่มเท่านั้น ที่จะเป็นคู่คิดให้คำปรึกษาและหาทางออกให้แก่ลำยองได้ นางจึงตัดสินใจเดินทางไปยังคฤหาสน์แดงริมคลองภาษีเจริญซึ่งเป็นที่อยู่เก่าทันที
เวลาเนิ่นนานที่จากที่นี่ไปทำให้ลำยองไม่กล้าเดินเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผยเหมือนดังเก่า เธอจึงได้แต่ยืนจด ๆ จ้อง ๆ อยู่ริมคลองนั่นเอง แต่แล้วบุคคลที่เธอไม่อยากเจอที่สุดในชีวิตก็ก้าวเข้ามา เยนหลิงหรือคุณนายที่สองนั่นเอง เยนหลิงบอกเล่าให้ลำยองรับรู้ว่าภายหลังจากการหนีไปของลำยองในครั้งนั้น เธอคั่งแค้นมากจึงแกล้งกุเรื่องว่าลำยองได้ขโมยของมีค่าและหลบหนีออกจากบ้านไป ทำให้นางพุ่มโดนจับเข้าคุกฐานสมรู้ร่วมคิด นางพุ่มโวยวายฟูมฟายอยู่ได้แค่ไม่นานนักก็หัวใจวายสิ้นใจตายทันที เยนหลิงขู่อาฆาตลำยองรวมทั้งจะทำร้ายเรยาอีกด้วย แต่ลำยองไม่ได้ยินเสียงใด ๆ อีกต่อไปแล้ว นางเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุการตายของนางพุ่ม ผู้ซึ่งนางรักเคารพและบูชาเป็นที่สุด นางวิ่งร้องไห้ออกจากบ้านไปอย่างเสียสติและถูกรถชนตายในเวลาต่อมาตรงตึกสีนวลที่เธอและบังดุลเคยลักลอบเข้าไปจนเกิดเป็นพยานรักขึ้นนั่นเอง
เมื่อแม่ลำยองด่วนจากไปอย่างไม่คาดคิด ยิ่งไม่มีแม่ยิ่งต้องคิดหนักว่าจะไปต่อไปอย่างไรให้สวย และแล้วคำตอบก็หยุดอยู่ตรงที่การมีลูกให้เขาเชยชม เรยายอมตั้งครรภ์เพื่อที่จะมัดก้องเกียรติไว้กับตัว และแล้วความหวังของเธอก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อเธอตั้งครรภ์ เธอจึงตัดสินใจลาออกจากสายการบินให้ก้องเกียรติดูแลเธออย่างเต็มตัว การตั้งครรภ์ครั้งนี้นำความปลาบปลื้มยินดีมาให้ก้องเกียรติยิ่งนัก เขาจึงมาคอยดูแลเอาอกเอาใจพะเน้าพะนอเธอผิดไปจากเมื่อก่อน แต่ยังคงซ่อนความหนักอกหนักใจที่ต้องปิดบังณฤดีและครอบครัวเช่นเดิม และการกลับบ้านในแต่ละครั้งของก้องเกียรติสร้างความโศกาอาดูรแก่เรยาเป็นอย่างมาก จนก้องเกียรติอ่อนใจ สถานที่ ๆ เรยามักจะไปในยามว่างคือสถานเสริมความงามต่าง ๆ เป็นที่รู้กันในร้านว่า คุณฟ้าคือลูกค้ารายใหญ่ต้องเอาอกเอาใจ ห้ามละเลยอย่างเด็ดขาด แม้คุณฟ้าจะเป็นเพียงอนุของบุตรชายท่านเจ้าสัวใหญ่ผู้หนึ่ง และเธอจะภูมิใจกับตำแหน่งนี้จนต้องอวดอ้างไปกระทบหูใครคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทณฤดีก็ตาม
ณฤดีฟังเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยความไม่สบายใจ แต่เธอก็ฉลาดพอที่จะเก็บมันไว้ในใจแต่เพียงผู้เดียว ณฤดียังคงไปเยี่ยมเยียนเม่งฮวยมารดาสามีที่คฤหาสน์แดงตามปกติ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ผัวจีนและลูกสะใภ้ไทยคู่นี้ดำเนินมาอย่างราบรื่น เม่งฮวยรักและเอ็นดูณฤดีมาก ถึงแม้ว่าเม่งฮวยจะไม่รู้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตครอบครัวบุตรชาย แต่เธอก็ให้คำมั่นว่าจะยอมรับสะใภ้ที่แต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณีเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้คำพูดเพียงไม่กี่คำแต่ก็สร้างความสบายใจให้แก่ณฤดีได้ไม่น้อยเลย
บรรยากาศในคฤหาสน์แดงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เมื่อท่านเจ้าสัวประมุขใหญ่ล้มป่วยลงเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากวัยและร่างกายที่อ่อนแอ ประกอบกับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอและความหึงหวงที่ท่านเจ้าสัวมักพบเห็น โดยเฉพาะกับ ไทรรัตน์ บุตรชายนายพลสหายเก่าแก่ผู้หนึ่งของท่าน ซึ่งท่านเจ้าสัวและเม่งฮวยหมายตาจะให้มาเป็นคู่ชีวิตของกรองกาญจน์บุตรสาว กรองกาญจน์นั้นไม่เคยสนใจชายหนุ่มที่บิดามารดาพยายามจัดหาให้เลย ยังคงชอบใช้ชีวิตโสดและวุ่นวายกับการสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น ท่านเจ้าสัวมักเก็บตัวอยู่แต่ในห้องกุหลาบ ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของโรสคุณนายที่สามผู้ล่วงลับไปแล้ว ตามคำแนะนำของนายแพทย์ประจำตัว ผู้ที่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้มีเพียงก้องเกียรติเท่านั้น ทุกคนไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งท่านเจ้าสัวเลย ยกเว้นคุณนายแหม่มที่ลอบเข้าไปบ่อย ๆ เพียงคนเดียวเท่านั้น
อาการล้มหมอนนอนเสื่อของท่านเจ้าสัว ทำให้ซิลเวียค่อนข้างเหงามาก เธอเริ่มเบื่อชีวิตเงียบเหงาในคฤหาสน์แดงที่ทุกคนดำรงชีวิตอย่างต่างคนต่างอยู่ ไม่มีใครสนใจกันเลย มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันระหว่างภรรยาตลอดเวลา บุคคลเดียวที่ซิลเวียค่อนข้างสนใจเป็นพิเศษคือสตรีร่างบางในชุดขาว คุณนายที่สี่ชาวเหนือที่มักวนเวียนอยู่แถวบ่อร้างหลังคฤหาสน์เป็นประจำสม่ำเสมอ เธอเคยได้ยินหญิงสาวผู้นั้นพึมพำบางอย่างเป็นภาษาอังกฤษบ่อยครั้ง ซิลเวียดีใจเป็นอย่างยิ่งที่มีคนสามารถพูดคุยภาษาเดียวกันกับเธอ หลายต่อหลายครั้งที่เธอพยายามเพียรพูดคุยกับสตรีผู้นั้น แต่คำตอบที่ได้รับคือความว่างเปล่าและความไม่เข้าใจกันอยู่เสมอ
อรุณรุ่งของเช้าวันหนึ่ง ท่านเจ้าสัวตื่นนอนประมาณยามสาม ท่านควานหาร่างคุณนายแหม่มของท่านตามความเคยชินแต่ไม่พบ ด้วยอารมณ์หึงหวงที่เกิดขึ้นเพราะคิดไปเองว่าคุณนายแหม่มแอบลอบลงไปหาคบชู้อย่างแน่นอน อารมณ์ร้อนรุ่มกลัดกลุ้มที่อยู่ภายในทำให้ท่านนอนไม่หลับ และเริ่มมีอาการแน่นหน้าอกขึ้นมาเป็นระยะ ๆ ประมาณยามสี่ ท่านเจ้าสัวได้ยินสียงเพลงทำนองหวานเศร้าสร้อยดังกังวานขึ้น ท่านผุดลุกนั่ง อนุสติที่มีเหลืออยู่แม้เพียงน้อยนิด แต่ภาพซิลเวียที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับไทรรัตน์ในบึงน้ำ ยังคงล่องลอยหลอกหลอนอยู่ไม่เสื่อมคลาย ท่านค่อย ๆ โผเผลุกขึ้นเพื่อจะไปจับให้ได้คาหนังคาเขา หากเป็นความจริงจะจับเธอโยนลงบ่อเหมือนดังคนอื่น ๆ ที่เคยประสบมา
เสียงเพลงยังคงดังกังวานตลอดเวลา หากแต่เสียงคนร้องช่างเหมือนเหม่เกว่ หรือคุณนายที่สามผู้ลาลับเสียนี่กระไร ท่านเจ้าสัวก้าวเดินมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงบ่อร้าง ภาพสุดท้ายที่ท่านเห็นคือคุณนายที่สามกำลังร่ายรำอย่างงดงาม ก่อนที่จิตสุดท้ายของท่านจะลาจากโลกนี้ไป คำแก้วตื่นขึ้นมาเพราะเสียงกาเหว่าท้ายสวน เธอเดินเลื่อนลอยออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงบ่อนรกนั้น ร่างชายชราที่พาดอยู่ปากบ่อชวนให้นึกถึงวันสูญเสียบิดาในอดีต คำแก้วกรีดร้องอย่างโหยหวน และเป็นลมสิ้นสติอยู่ข้างศพท่านเจ้าสัวนั่นเอง
ทุกคนในคฤหาสน์แดงต่างเศร้าโศกเสียใจต่อการจากไปของท่านเจ้าสัวทุกคน ยกเว้นแต่คุณนายแหม่มเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับใครเขา ไม่มีแม้น้ำตาสักหยดที่จะให้กับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ หล่อนคาดหวังว่าจะได้มรดกก้อนใหญ่เพื่อเปลี่ยนฐานะของตนให้กลายเป็นแม่ม่ายทรงเครื่อง แล้วหล่อนก็จะโบยบินไปสู่สหรัฐอเมริกาดินแดนแห่งอิสระเสรีทันที เยนหลิงพยายามยุยงทุกคนให้เห็นพ้องต้องกันกับหล่อนว่าคำแก้วเป็นคนฆาตกรรมท่านเจ้าสัว แต่อาการวิกลจริตทางจิตของคำแก้วทำให้ไม่มีใครยอมเชื่อเยนหลิงเลยแม้แต่คนเดียว
ในที่สุดความหวังทั้งหมดของเรยาก็เป็นความจริง เมื่อเธอได้คลอดลูกชายตัวน้อย ๆ เป็นผู้สืบแซ่คนแรกของตระกูลเชงเลยทีเดียว ก้องเกียรติค่อนข้างรักและเห่อลูกชายอยู่มิใช่น้อย ในขณะที่เรยาค่อนข้างเบื่อหน่ายสภาพความเป็นแม่ในดินแดนที่ห่างไกลถึงนิวซีแลนด์นี้เต็มที เธอจ้างแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ไว้คอยเลี้ยงดูบุตรชาย ในขณะที่ตัวเธอเองไม่ทำอะไรเลย เรยามักหงุดหงิดและอาละวาดอยู่เสมอ ทำให้ไม่มีแม่บ้านคนใดอยากมาที่นี่นัก ยกเว้นแต่ต้องการรายได้ที่สูงลิบลิ่วเท่านั้น เรยาเรียกร้องให้ก้องเกียรติหย่าขาดกับณฤดีให้ถูกต้อง แต่ก้องเกียรติยังคงผลัดวันประกันพรุ่งมาโดยตลอด ทำให้เรยาเริ่มเปิดเผยตนเองด้วยการโทรไปยังบ้านก้องเกียรติ โดยมีณฤดีเป็นผู้รับสายหลายต่อหลายครั้ง แล้ววางหูไปเฉย ๆ ความกลัวเริ่มกัดกินใจณฤดีทีละน้อย เธอตัดสินใจไม่รับโทรศัพท์เองอีกเลย ยิ่งนานวันก้องเกียรติเริ่มรู้ตัวดีว่าเขาไม่ได้รักเรยาเลยแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงความหลงใหลชั่ววูบ ทุกสิ่งที่ประกอบกันเป็นเรยาไม่ได้ให้ความรู้สึกอบอุ่น งดงามควรค่าแก่ความรักที่เขาจะมอบให้ได้เลยแม้แต่น้อย เขาตัดสินใจกลับเมืองไทยเพื่อห่างเธอสักพัก
เรยาร้องห่มร้องไห้ตีโพยตีพายตามปกติเมื่อก้องเกียรติเดินทางกลับเมืองไทยทุกครั้ง แต่เพียงไม่นานนักอารมณ์เหล่านั้นก็เลือนหาย เธอเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างเดิม ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อหรูหราอย่างเดิม ตราบใดที่ยังมีเงิน ตราบนั้นเรยาไม่เคยกลัวสิ่งใด เธอเริ่มกลับสู่สังคมไฮโซตามสปอร์ตคลับ ที่นั่นเธอได้พบกับจิตแพทย์หนุ่มรูปงามเศรษฐีชาวเอเชียผู้หนึ่ง ใคร ๆ ต่างเรียกเขาว่า ซี.เค. เรยารู้สึกถูกใจเขาตั้งแต่แรกเห็น เธอจึงพยายามพาตัวเองเข้าไปทำความรู้จักสนิทสนมกับเขา ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่แสดงทีท่ารังเกียจแต่อย่างใด แม้จะรู้ว่าเธอมีลูกและมีสามีแล้วยิ่งทำให้เรยาลำพองใจยิ่งนัก แต่ซี.เค.ยังคงรักษาระยะห่างระหว่างเขาและเรยาอย่างเหนียวแน่น ทำให้เรยายิ่งรู้สึกถึงความเป็นสุภาพบุรุษของเขายิ่งนัก ความรักและลุ่มหลงในตัวซี.เค.นับวันจะมีมากขึ้นตามลำดับ เธอลืมหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ความเป็นแม่หรือภรรยาที่ดีของก้องเกียรติ
เรยาตัดสินใจนำบุตรชายของตนเองเดินทางกลับเมืองไทยเพื่อยกให้กับณฤดี ในที่สุดความกลัวที่ณฤดีรู้สึกมาโดยตลอดก็บังเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่มีชีวิตอยู่ตรงหน้า เรยาผลักไสทารกน้อยให้เธออย่างไม่แยแส พร้อมท่าทางจากไปราวกับนางพญาก็ไม่ปาน ใครกันแน่ที่เป็นผู้แพ้ชนะในเรื่องนี้ ไม่มีใครให้คำตอบได้ มีเพียงความเย็นเยียบราวพายุฝนซึ่งตั้งเค้าภายในเรือนหอที่เคยอบอวลไปด้วยความรักหลังนั้น
เกียรติกรกลับเมืองไทยโดยที่ไม่เคยบอกกล่าวเรยา คฤหาสน์แดงริมคลองภาษีเจริญที่เขาเคยอาศัยอยู่ยังคงแฝงไว้ด้วยความทรงจำในอดีตมากมายก่อนการจากไกลของเขา คนไข้คนสำคัญที่สุดของก้องเกียรติกำลังรอคอยการรักษาจากจิตแพทย์ชื่อดังจากนิวซีแลนด์อย่างเขาอยู่ คำแก้วคือคนไข้รายแรกของเขาที่เมืองไทย ที่เขาให้คำมั่นกับก้องเกียรติว่าเธอจะต้องหายเป็นปกติอย่างแน่นอน เรยากลับไปตามหาซี.เค.ของเธอที่บ้านริมน้ำที่นิวซีแลนด์ แต่ที่นั่นเธอต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อรู้ว่าเขากลับไปเมืองไทยเสียแล้วและจะไม่กลับมาที่นี่อีก เรยาตัดสินใจตามหาซี.เค.แทบพลิกแผ่นดิน ในที่สุดความหวังของเธอก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อเธอตามเจอที่อยู่ของเขาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของเขา
คฤหาสน์แดงริมคลองภาษีเจริญได้มีโอกาสต้อนรับการกลับมาของเรยาอีกครั้ง ซี.เค.ยืนอยู่ที่นั่น หน้ายังคงระบายไปด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ เหมือนทุกครั้งยามมองดูเธอเสมอ ดั่งฟ้าผ่าลงมากลางใจ เมื่อซี.เค.นำเธอกลับสู่อดีตที่เธอไม่เคยคิดจะจดจำอีกครั้งหนึ่ง เขาคือ เกียรติกร เจนพานิชย์สกุล หรือ คุณชายเล็ก แห่งตระกูลเชงนั่นเอง ซี. คือตัวย่อของเชง ส่วนเค. คือเกียรติกร เรยาแทบล้มทั้งยืนเมื่อเกียรติกรยืนยันว่าเขาไม่เคยคิดรักเธอเลยแม้แต่น้อย หากทำไปเพราะแค่ลองใจเท่านั้น เธอยังคงเป็นนางฟ้าที่สวยแต่รูป เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะสามารถโตทันเป็นภรรยาน้อยของพี่ชายของเขาเอง เรยาจึงจากคฤหาสน์แดงมาอย่างเจ็บปวดรวดร้าวเป็นที่สุด
นักแสดง
แก้บทบาทในเรื่อง | นักแสดงปี พ.ศ. 2554 |
เรยา วงษ์เศวต (ฟ้า) | อารยา เอ ฮาร์เก็ต |
ก้องเกียรติ เจนพานิชย์สกุล (คุณชายใหญ่) | วิทยา วสุไกรไพศาล |
ณฤดี เจนพานิชย์สกุล (คุณดี๋) | มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล |
สินธร ชลธี (สิน) | วรวุฒิ นิยมทรัพย์ |
เด่นจันทร์ ชลธี (เด่น) | อภิษฎา เครือคงคา |
เกียรติกร เจนพานิชย์สกุล (ซีเค) | หลุยส์ สก็อต |
เจ้าสัวเชงสือเกียง | ฉัตรชัย เปล่งพานิช |
เม่งฮวย (คุณนายที่ 1) | จริยา แอนโฟเน่ |
เยนหลิง (คุณนายที่ 2) | รินลณี ศรีเพ็ญ |
ซิลเวีย (คุณนายที่ 5) | เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ |
ลำยอง วงษ์เศวต (แม่เรยา) | ปวีณา ชารีฟสกุล |
นัท | ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ |
โจ | โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว |
อาอื้ม | พิศมัย วิไลศักดิ์ |
พุ่ม | อัญชลี ไชยศิริ |
อาจิว | วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ |
อาเง็ก | จรรยา ธนาสว่างกุล |
อาฮุ้ง | อณูวรรณ ปรีญานนท์ |
อาจู | ปาจรีย์ ณ นคร |
นักแสดงรับเชิญ | |
---|---|
คำแก้ว (คุณนายที่ 4) | วนิดา เติมธนาภรณ์ |
เหมเกว่/โรส (คุณนายที่ 3) | ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ |
กรองกาญจน์ เจนพานิชย์สกุล (หมวยใหญ่) | ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ |
คุณนายแหม่ม | บอนนี่ เซลเลอร์แบ็ค |
ไทรรัตน์ | โชคชัย บุญวรเมธี |
เรืองยศ | สุพจน์ จันทร์เจริญ |
เดช ชลธี | สุเชาว์ พงษ์วิไล |
ดาว | กฤติยา วุฒิหิรัญปรีดา |
อาโกวตี้ | พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา |
อาเซ็ง | เพทาย พลอยมีค่า |
เรยา (วัยเด็ก) | ด.ญ.ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา |
กองแก้ว | ด.ญ.นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล |
กรรณิการ์ | ด.ญ.กัญปภัส ฤดีขจรไชย |
เกียรติกร (วัยเด็ก) | ด.ช.รจนกร อยู่หน้า |
การวิจารณ์
แก้กระแสวิจารณ์เชิงลบ
แก้เมื่อออกฉาย กระแสของละครเรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง โดยมีผู้ต้องการให้เปลี่ยนเนื้อหา โดยเรียกร้องผ่านไปยังกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องจากมองว่าตัวละครเอก คือ เรยา มีพฤติกรรมชอบแย่งสามีคนอื่นและมีฉากเพศสัมพันธ์มากเกินไป ไม่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน[2] แต่ทางผู้จัดอ้างว่าไม่สามารถเปลี่ยนเนื้อหาได้[3] ซึ่งละครเรื่องนี้ได้ถูกจัดเรตให้เป็น น.13+ ต่อมาได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นเรต น.18+ [4] ในที่สุดหลังการถกกับ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสื่อมวลชนภายในประเทศ ได้ข้อสรุปว่า จะตัดบางฉากที่ไม่เหมาะสมออก[5]
วลี "ฟ้ารักพ่อ"
แก้ในปี พ.ศ. 2562 ช่วงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 วลี "ฟ้ารักพ่อ" ที่มาจากละครเรื่องนี้ ได้รับความนิยมในโลกออนไลน์สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยสมาชิกพรรคได้เดินทางไปชมงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์–จุฬาฯ ครั้งที่ 73 ณ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ ระหว่างนั้นก็มีนักศึกษาทั้งสองสถาบันได้ขอเข้าไปทักทายและขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จึงได้ใช้แฮชแท็กดังกล่าวสะท้อนความนิยม และธนาธรก็ใช้วลี "พ่อก็รักฟ้า" เพื่อขอบคุณผู้ที่เข้ามาทักทาย และขอคะแนนเสียงให้กับพรรคฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้[6] ตั้งแต่นั้นมากลุ่มผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่จึงเรียกแทนตนเองว่า "ฟ้า" และมักเรียกนายธนาธรว่า "พ่อ" หรือ "พ่อฟ้า"
ในปี พ.ศ. 2566 วันเฉลิม จำเนียรพล ยูทูบเบอร์ชาวไทยในนามศิลปิน แบดมิกซี ออกเพลง "ฟ้ารักพ่อ" ร้องรับเชิญโดยนักร้องเพลงลูกทุ่งหญิง ยุ้ย ญาติเยอะ โดยวลี "ฟ้ารักพ่อ" และ "ถ้าฟ้าต้องเสียตัว ฟ้าต้องได้เป็นแอร์" ถูกนำมาใช้ในเนื้อเพลง รวมถึงมิวสิกวิดีโอที่ถ่ายทำเลียนแบบการแสดงของตัวละครหลักในละคร[7]
รางวัล
แก้- คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 9 ประจำปี พ.ศ. 2554 นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม อารยา เอ ฮาร์เก็ต
- คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 9 ประจำปี พ.ศ. 2554 บทละครโทรทัศน์ยอดเยี่ยม ศัลยา (ศัลยา สุขะนิวัตติ์)[8]
- โทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 26 ประจำปี พ.ศ. 2554 นักแสดงสนับสนุนชายยอดเยี่ยม หลุยส์ สก็อต
- โทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 26 ประจำปี พ.ศ. 2554 นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม อารยา เอ ฮาร์เก็ต[9]
- รางวัลเมขลา ครั้งที่ 24 ประจำปี พ.ศ. 2554 นักแสดงนำหญิงมหานิยม อารยา เอ ฮาร์เก็ต
- รางวัลเมขลา ครั้งที่ 24 ประจำปี พ.ศ. 2554 บทโทรทัศน์เมขลามหานิยม ศัลยา[10]
- รางวัล Bang Awards 2012 จาก BANGCHANNEL Favorite Cast ทีมนักแสดงนำโด่ง ดอกส้มสีทอง
- รางวัล Bang Awards 2012 จาก BANGCHANNEL Favorite Scene Eater ขโมยซีนยอดเยี่ยม ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ ถ่ายเถา สุจริตกุล, ดอกส้มสีทอง, ISBN 9786165081504
- ↑ ดอกส้มสีทอง แรงเกิน! ผู้ปกครอง ร้อง ระงับฉาย จากสนุกดอตคอม
- ↑ นิพิฏฐ์ฉุนขาด ดอกส้มสีทอง ไม่เปลี่ยนบท! จากเดลินิวส์
- ↑ ปรับเรต“ดอกส้มสีทอง”น.18+ จากเดลินิวส์
- ↑ [1]เก็บถาวร 2011-05-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน "ดอกส้มฯ"เฮ!ไม่แบนช่อง3ยอมหั่นฉากแรง จากสยามดารา
- ↑ เปิดที่มา ปรากฏการณ์ร้อนกับ #ฟ้ารักพ่อ และ #พ่อก็รักฟ้า กระแสแรงจากงานบอล
- ↑ หทัยธาร ฉัตรเลิศมงคล (4 ธันวาคม 2566). "Bad Story อัลบั้มของ Badmixy มิกซ์ เฉลิมศรี ที่ทำดีและทำถึง!". เดอะสแตนดาร์ด. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 ธันวาคม 2566. สืบค้นเมื่อ 16 ธันวาคม 2023.
- ↑ ประกาศรางวัลคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 9 จากสนุกดอตคอม
- ↑ เดลินิวส์: หน้า 10 ฉบับวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 แรม 8 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ
- ↑ ณเดชน์-ชมพู่ คว้ารางวัลเมขลา จากเดลินิวส์