กลุ่มนิวเคลียส pulvinar

(เปลี่ยนทางจาก Pulvinar nuclei)

กลุ่มนิวเคลียส pulvinar (อังกฤษ: pulvinar nuclei, pulvinar thalami, nuclei pulvinaris) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า pulvinar เป็นกลุ่มนิวเคลียสที่อยู่ในทาลามัส

กลุ่มนิวเคลียส pulvinar
(Pulvinar nuclei)
สมองส่วนหลัง (hindbrain) และสมองส่วนกลาง (midbrain) มองจากด้านข้างด้านหลัง (postero-lateral) โดยที่กลุ่มนิวเคลียส Pulvinar เห็นได้ที่ด้านบน
กลุ่มนิวเคลียสในทาลามัส:
MNG = Midline nuclear group
AN = Anterior nuclear group
MD = Medial dorsal nucleus
VNG = Ventral nuclear group
VA = Ventral anterior nucleus
VL = Ventral lateral nucleus
VPL = Ventral posterolateral nucleus
VPM = Ventral posteromedial nucleus
LNG = Lateral nuclear group
PUL = Pulvinar
MTh = Metathalamus
LG = Lateral geniculate nucleus
MG = Medial geniculate nucleus
รายละเอียด
ตัวระบุ
ภาษาละตินpulvinar thalami, nuclei pulvinaris
MeSHD020649
นิวโรเนมส์328
นิวโรเล็กซ์ IDbirnlex_824
TA98A14.1.08.104
A14.1.08.610
TA25665, 5698
FMA62178
ศัพท์ทางกายวิภาคของประสาทกายวิภาคศาสตร์

pulvinar ปกติจัดอยู่ในกลุ่มนิวเคลียส lateral thalamic nuclei ในสัตว์ฟันแทะและสัตว์กินเนื้อ แต่เป็นคอมเพล็กซ์ต่างหากในไพรเมต เป็นคำที่ย่อมาจากคำในภาษาละตินว่า "pulvinus" ซึ่งแปลว่า เบาะ ในศาสนาของโรมโบราณ เป็นคำที่หมายถึงเก้าอี้ยาวมีเบาะสำหรับให้เทพใช้

องค์ประกอบ

แก้

โดยทั่ว ๆ ไป pulvinar แบ่งออกเป็น ส่วนหน้า (anterior) ส่วนล่าง (inferior) ส่วนข้าง (lateral) และส่วนใน (medial) แต่ละส่วนมีนิวเคลียสหลายกลุ่ม

  • pulvinar ส่วนข้างและส่วนล่างมีการเชื่อมต่ออย่างหนาแน่นกับเขตประมวลผลต้น ๆ ของคอร์เทกซ์สายตา
  • pulvinar ส่วนข้างด้านหลัง (dorsal) มีการเชื่อมต่อหลัก ๆ กับสมองกลีบข้างด้านหลัง และทางสัญญาณด้านหลัง (dorsal stream) ซึ่งเป็นวิถีประสาทเกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งวัตถุที่เห็นทางตา
  • นอกจากนั้นแล้ว pulvinar ยังรับสัญญาณเข้าจาก superior colliculus[2] ไปที่ส่วนล่าง ส่วนข้าง และส่วนใน ซึ่งปรากฏว่าสำคัญในการเริ่มและการปรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวตาแบบ saccade[3][4][5] และทั้งในการควบคุมความใส่ใจทางตา (visual attention)[6][7]

ความแตกต่างกันระหว่างสปีชีส์

แก้

pulvinar มีความสำคัญแตกต่างกันในสัตว์ต่าง ๆ กัน เช่น หนูแทบจะไม่มีเขตนี้เลย และแมวมีเขตนี้แต่เล็ก จึงมีการพิจารณาว่าอยู่ในกลุ่มของ lateral posterior-pulvinar complex ซึ่งเป็นกลุ่มนิวเคลียสของทาลามัสด้านข้างส่วนหลัง (lateral posterior thalamic nucleus) ส่วนในมนุษย์ pulvinar เป็นส่วนที่มีขนาด 40% ของทาลามัสทั้งหมด จึงเป็นกลุ่มนิวเคลียสที่ใหญ่ที่สุดในทาลามัส[8]

พยาธิ

แก้

รอยโรคใน pulvinar สามารถมีผลเป็นภาวะละเลยกึ่งปริภูมิ (neglect syndromes) และโรคสมาธิสั้น[9]

เชิงอรรถและอ้างอิง

แก้
  1. cingulate cortex เป็นเขตสมองที่ด้านใน (medial) ของเปลือกสมองรวมบริเวณทั้งที่ cingulate gyrus และ cingulate sulcus เป็นส่วนของระบบลิมบิกที่รับสัญญาณเข้าจากทาลามัสและคอร์เทกซ์ใหม่ มีส่วนในการเกิดและการแปลผลเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก การเรียนรู้ และความทรงจำ
  2. superior colliculus (SC) เป็นโครงสร้างในเทคตัมของสมองส่วนกลาง มีลักษณะเป็นชั้น ๆ โดยที่ชั้นต่าง ๆ รวมกันทำหน้าที่เป็นแผนที่ภูมิลักษณ์ของเรตินา SC มีบทบาททั้งในการเคลื่อนไหวตาอย่างเร็ว ๆ ที่เรียกว่า saccades
  3. Saccade หมายถึงการเคลื่อนไหวอย่างเร็ว ๆ ของตา ของศีรษะ หรือของส่วนอื่นในร่างกาย หรือของอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง และยังหมายถึงการเปลี่ยนความถี่อย่างรวดเร็วของสัญญาณส่ง หรือความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างอื่น ๆ ได้อีกด้วย Saccades (พหูพจน์) เป็นการเคลื่อนไหวตาทั้งสองข้างไปยังทิศทางเดียวกันอย่างรวดเร็ว
  4. Berman, R., & Wurtz, R. (2011) . Signals conveyed in the pulvinar pathway from superiorcolliculus to cortical area mt. The Journal of Neuroscience, 31 (2), 373-384.
  5. Robinson, D., & Petersen, S. (1985) . Responses of pulvinar neurons to real and self-induced stimulus movement. Brain research, 338 (2), 392-394.
  6. Petersen, S., Robinson, D., & Morris, J. (1987) . Contributions of the pulvinar to visual spatial attention. Neuropsychologia, 25 (1), 97-105.
  7. Chalupa, L. (1991) . Visual function of the pulvinar. The Neural Basis of Visual Function. CRC Press, Boca Raton, Florida, pp. 140-159.
  8. LaBerge, D. (1999) . Attention pp. 44-98. In Cognitive science (Handbook of Perception and Cognition, Second Edition), Bly BM, Rumelhart DE. (edits) . Academic Press ISBN 978-0-12-601730-4 p. 73
  9. Arend, I., Rafal, R., & Ward, R. (2008) . Spatial and temporal deficits are regionally dissociable in patients with pulvinar lesions. Brain, 131 (8), 2140-2152.

ภาพต่าง ๆ

แก้

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้