เวอร์จินออสเตรเลีย
เวอร์จินออสเตรเลีย (อังกฤษ: Virgin Australia) เป็นสายการบินสัญชาติออสเตรเลีย สายการบินเริ่มดำเนินงานในปีค.ศ. 2000 ในชื่อเวอร์จินบลู[1][2] เวอร์จินออสเตรเลียมีฐานการบิน 3 แห่งในบริสเบน, เมลเบิร์น, และซิดนีย์[3]
| |||||||
เริ่มดำเนินงาน | 29 สิงหาคม ค.ศ. 2000 (24 ปี) | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ท่าหลัก | บริสเบน เมลเบิร์น ซิดนีย์-คิงส์ฟอร์ดสมิธ | ||||||
เมืองสำคัญ | แอดิเลด โกลด์โคสต์ (รัฐควีนส์แลนด์) เพิร์ธ อลิซสปริงส์ | ||||||
สะสมไมล์ | วิลอซิตี้ | ||||||
ขนาดฝูงบิน | 70 | ||||||
จุดหมาย | 30 | ||||||
บริษัทแม่ | เวอร์จินออสเตรเลียโฮลดิ้ง | ||||||
สำนักงานใหญ่ | บริสเบน, ประเทศออสเตรเลีย | ||||||
บุคลากรหลัก | Jayne Hrdlicka (CEO) ริชาร์ด แบรนสัน (ผู้ร่วมก่อตั้ง) Philippe Calavia (ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO) | ||||||
เว็บไซต์ | virginaustralia.com |
เวอร์จินออสเตรเลียเป็นหนึ่งในสายการบินในเวอร์จินกรุ๊ป และเป็นสายการบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวอร์จินกรุ๊ปในด้านของจำนวนฝูงบิน
ประวัติ
แก้เวอร์จินออสเตรเลียเปิดตัวในชื่อเวอร์จินบลูในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2000 ด้วยเครื่องบินโบอิง 737-400 จำนวนสองลำ โดยหนึ่งในนั้นได้เช่าจากเวอร์จินเอกซ์เพรส อีกสายการบินหนึ่งของเวอร์จินกรุ๊ป[4][5] โดยเริ่มทำการบินระหว่างบริสเบนและซิดนีย์
ในช่วงต้นปีค.ศ. 2006 ได้มีการประกาศแผนการทำเที่ยวบินนานาชาติไปยังจุดหมายปลายทางในสหรัฐอเมริกา โดยเวอร์จินออสเตรเลียได้สร้างสายการบินลูกใหม่ ในชื่อว่าวีออสเตรเลียและมีโบอิง 777-300อีอาร์ จำนวนห้าลำในฝูงบิน
ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 เวอร์จินบลูได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นเวอร์จินออสเตรเลีย สายการบินแปซิฟิกบลูและวีออสเตรเลียได้ถูกผนวกกิจการเข้ากับเวอร์จินออสเตรเลียในเวลาต่อมา[6][7]
กิจการองค์กร
แก้สำนักงานใหญ่
แก้ก่อนที่จะย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังเซาท์แลงก์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2020 สำนักงานใหญ่ของเวอร์จินออสเตรเลีย คือ เวอร์จินวิลเลจ ในบริสเบน[8]
บริษัทลูก
แก้เวอร์จินออสเตรเลียมีบริษัทลูกดังนี้
- แปซิฟิกบลูแอร์ไลน์ - ให้บริการตั้งแต่ปีค.ศ. 2004 - 2020 แปซิฟิกบลูให้บริการเที่ยวบินต้นทุนต่ำภายในประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย
- วีออสเตรเลีย - ให้บริการตั้งแต่ปีค.ศ. 2009 - 2011 โดยให้บริการเที่ยวบินระยะไกลระหว่างออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา[9]
- ไทเกอร์แอร์ออสเตรเลีย - ถูกซื้อโดยเวอร์จินออสเตรเลียโฮลดิ้งในปีค.ศ. 2014 ปิดตัวในปีค.ศ. 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19[10]
- เวอร์จินออสเตรเลียเรจินัลแอร์ไลน์ - เดิมชื่อสกายเวสต์แอร์ไลน์ ถูกซื้อโดยเวอร์จินออสเตรเลียโฮลดิ้งในปีค.ศ. 2013 โดยให้บริการเที่ยวบินในภูมิภาค[11]
จุดหมายปลายทาง
แก้ข้อตกลงการทำการบินร่วม
แก้เวอร์จินออสเตรเลียได้ทำข้อตกลงการบินร่วมกับสายการบินดังต่อไนี้:[12]
ฝูงบิน
แก้เวอร์จินออสเตรเลียมีฝูงบินดังนี้:[17][18]
เครื่องบิน | ประจำการ | คำสั่งซื้อ | ผู้โดยสาร[19] | หมายเหตุ | ||
---|---|---|---|---|---|---|
J | Y | รวม | ||||
โบอิง 737-700 | 2 | — | 8 | 120 | 128 | จะถูกโอนย้ายไปยังเวอร์จินออสเตรเลียเรจินัลแอร์ไลน์ |
โบอิง 737-800 | 75 | — | 8 | 162 | 170 | |
168 | 176 | ได้รับต่อมาจากซิลค์แอร์[20][21] | ||||
โบอิง 737 MAX 8 | — | 4 | TBA | เริ่มส่งมอบในปีค.ศ. 2023[22] | ||
โบอิง 737 MAX 10 | — | 25 | TBA | เริ่มส่งมอบในปีค.ศ. 2023[23] | ||
ฝูงบินของเวอร์จินออสเตรเลียเรจินัลแอร์ไลน์ | ||||||
แอร์บัส เอ320-200 | 7 | — | — | 168 | 168 | |
โบอิง 737-700 | — | 15 | — | 149 | 149 | ทดแทนฟอกเกอร์ 100 |
ฟอกเกอร์ 100 | 10 | — | — | 100 | 100 | จะถูกทดแทนด้วยโบอิง 737-700 ในต้นปีค.ศ. 2023 |
ฝูงบินของเวอร์จินออสเตรเลียคาร์โก้ | ||||||
โบอิง 737-300F | 1 | — | สินค้า | เช่ามาจากแอร์เวิร์ก | ||
บริติชแอร์โรสเปซ 146-200QC | 1 | — | สินค้า | เช่ามาจากไฟออนแอร์ออสเตรเลีย | ||
บริติชแอร์โรสเปซ 146-200QT | 2 | — | สินค้า | |||
รวม | 98 | 44 |
อ้างอิง
แก้- ↑ "Virgin Australia to replace Virgin Blue, V Australia, Pacific Blue airline names -- Polynesian Blue too? - Executive Traveller". www.executivetraveller.com (ภาษาอังกฤษ). 2011-05-04.
- ↑ "Virgin Australia company overview | Virgin Australia". www.virginaustralia.com.
- ↑ "Virgin Australia Route Map". web.archive.org. 2019-12-29. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-29. สืบค้นเมื่อ 2022-07-30.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "Low-cost blueprint lets Virgin soar". The Age (ภาษาอังกฤษ). 2003-11-16.
- ↑ "Virgin Australia Newsroom". Virgin Australia Newsroom (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ http://www.theaustralian.com.au/travel/news/rebranded-virgin-prepares-for-a-tough-battle/story-e6frg8ro-1226050900146
- ↑ O'sullivan, Matt (2011-05-04). "Virgin wins stalemate over brand name rights". The Sydney Morning Herald (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ http://www.theaustralian.com.au/business/aviation/virgin-blue-seeks-shelter-in-brisbane/story-e6frg95x-1111117782097
- ↑ "V Australia to take off". The Sydney Morning Herald (ภาษาอังกฤษ). 2007-07-25.
- ↑ "Virgin does deals with Singapore, Tiger, Skywest". The Sydney Morning Herald (ภาษาอังกฤษ). 2012-10-29.
- ↑ "Virgin Australia Newsroom". Virgin Australia Newsroom (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Airline Partners". Virgin Australia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-01-08. สืบค้นเมื่อ 26 January 2020.
- ↑ "Airline Partners". Virgin Australia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-01-08. สืบค้นเมื่อ 11 February 2020.
- ↑ "Virgin Australia and Hainan Airlines launch codeshare". Finder.com.au. 4 June 2018. สืบค้นเมื่อ 5 June 2018.
- ↑ "Hong Kong Airlines and Virgin Australia to Launch Codeshare Partnership". Hong Kong Airlines. 6 June 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-14. สืบค้นเมื่อ 5 June 2018.
- ↑ "Virgin Australia and United Airlines launch codeshare". Virgin.com. 15 December 2021. สืบค้นเมื่อ 22 December 2021.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-28. สืบค้นเมื่อ 2022-07-30.
- ↑ "Virgin Australia's freighter aircraft take off". Australian Aviation (ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย).
- ↑ "Our fleet - flying with us | Virgin Australia". www.virginaustralia.com.
- ↑ "Virgin Australia Fleet Details and History". www.planespotters.net. สืบค้นเมื่อ 2022-05-30.
- ↑ "Virgin Australia unveils interior design prototype of the future". Virgin Australia Newsroom (ภาษาอังกฤษ). 2021-11-11. สืบค้นเมื่อ 2022-05-30.
- ↑ "Virgin Australia To Take Four Boeing 737 MAX 8s From February 2023". Simple Flying. 2 May 2022.
- ↑ "Virgin Australia begins its countdown to the Boeing 737 MAX - Executive Traveller". www.executivetraveller.com (ภาษาอังกฤษ). 2021-08-27. สืบค้นเมื่อ 2022-05-04.