อาการกลัวเลขสิบสาม

ความกลัวสำหรับตัวเลข 13
(เปลี่ยนทางจาก อาการกลัวเลขสิบเจ็ด)

อาการกลัวเลขสิบสาม (อังกฤษ: triskaidekaphobia) คืออาการกลัวในการพบเห็นจำนวน 13 และหลีกเลี่ยงที่จะใช้มัน ซึ่งเป็นความเชื่องมงายชนิดหนึ่งและเกี่ยวข้องกับอาการกลัวจำเพาะวันศุกร์ที่สิบสาม ศัพท์คำนี้มีการใช้เป็นครั้งแรกโดย อิซาดอร์ คอเรียต ในหนังสือ แอบนอร์มัล ไซคอลอจี (จิตวิทยาผิดปรกติ) [1]

หมายเลขคอกม้าที่ Santa Anita Park ไล่จาก 12 ไป 12A ไป 14

จุดเริ่มต้น

แก้

มีเรื่องปรัมปราเรื่องหนึ่งว่า การอ้างถึงแรกสุดที่บอกว่าเลขสิบสามเป็นเลขแห่งความโชคร้ายหรือความชั่วร้าย มาจากประมวลกฎหมายฮัมมูราบีของชาวบาบิโลน (ประมาณ 1780 ปีก่อน ค.ศ.) โดยกฎหมายบทที่ 13 หายไป แต่ในข้อเท็จจริง ประมวลกฎหมายฮัมมูราบีมิได้มีการนับเลข การแปลของ แอล.ดับเบิลยู. คิง (ค.ศ. 1910) ที่ปรับปรุงโดยริชาร์ด ฮุกเกอร์ ได้ตกหล่นไปหนึ่งบท ดังนี้

ถ้าผู้ขายเป็นไปตามชะตากรรม[เสียชีวิต] ผู้ซื้อจะได้ชดเชยความเสียหายในกรณีดังกล่าวห้าเท่าจากมรดกของผู้ขาย

การแปลประมวลกฎหมายโดยบุคคลอื่น ๆ ตัวอย่างเช่นโรเบิร์ต ฟรานซิส ฮาร์เปอร์ มีบทที่ 13 รวมอยู่ [2]

ประเพณีของชาวคริสต์บางกลุ่มมีความเชื่อเรื่องความโชคร้ายจากอาหารค่ำมื้อสุดท้าย นักบุญยูดาส อิสคาริโอท ผู้ซึ่งทรยศต่อพระเยซูนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ 13 ของโต๊ะ [3] อย่างไรก็ตาม คัมภีร์ไบเบิลเองก็มิได้บอกลำดับที่นั่งของเหล่าอัครทูตแต่อย่างใด นอกจากนี้เลขสิบสามก็มิได้เลวร้ายไปทั้งหมดในประเพณีจูเดโอ-คริสเตียน ตัวอย่างเช่น คุณลักษณะของพระเป็นเจ้า (Thirteen Attributes of Mercy) ได้แจกแจงไว้ในโทราห์ (อพยพ 34:6–7) โบสถ์คริสต์สมัยใหม่บางแห่งก็ใช้คุณลักษณะของพระเป็นเจ้าทั้งสิบสามข้อในบทเทศน์

อาการกลัวเลขสิบสามก็มีผลกระทบต่อชาวไวกิง คือเชื่อว่าโลกิจากเทพปกรณัมนอร์สเป็นเทพองค์ที่ 13 กล่าวโดยละเอียดก็คือ โลกิถูกเชื่อว่าเป็นผู้วางแผนสังหารบัลเดอร์ และเป็นแขกคนที่ 13 ที่มาร่วมงานศพ [4] อาจเป็นได้ว่าสิ่งนี้ทำให้เกิดความเชื่องมงายที่ว่า ถ้ามีคน 13 คนอยู่รวมกัน หนึ่งคนในกลุ่มนั้นจะเสียชีวิตในปีหน้า ประเพณีนอร์สอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องปรัมปราของนอร์นา-เกสต์ (Norna-Gests þáttr) คือเมื่อนอร์น (norn) สามตนปรากฏขึ้นในงานฉลองวันเกิดของนอร์นา-เกสต์โดยไม่ได้รับเชิญ ทำให้จำนวนแขกเพิ่มขึ้นจาก 10 คนเป็น 13 คน นอร์นเหล่านั้นได้สาปให้ทารกมีอายุขัยผูกกับเทียนไขเวทย์ที่พวกนางมอบให้เป็นของขวัญ

ชาวเปอร์เซียโบราณเชื่อว่ากลุ่มดาวสิบสองราศีเป็นผู้ควบคุมเดือนต่าง ๆ ของปี และแต่ละราศีก็มีอิทธิพลต่อโลกเป็นเวลาหนึ่งพันปีหลังจากสิ้นสุดหายนะที่ฟ้าดินถล่มทลาย ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้เลข 13 ถูกบ่งบอกว่าเป็นหายนะ และเป็นเหตุผลที่ทำให้ชาวเปอร์เซียต้องออกจากบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงความโชคร้ายในวันที่ 13 ของปฏิทินเปอร์เซีย ซึ่งตามประเพณีเรียกว่า ซิซดาฮ์เบดัร (เปอร์เซีย: سیزده‌به‌در)

อาการกลัวอื่น ๆ ที่คล้ายกัน

แก้
 
ลิฟต์ในอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ไม่มีปุ่มกดชั้น 4, 13, 14 แถมยังมีชั้นติดลบด้วย

อ้างอิงและเชิงอรรถ

แก้
  1. "Abnormal Psychology" p. 319, published in 1910, Moffat, Yard and company (New York). Library of Congress Control No. 10011167.
  2. English translation of the Code of Hammurabi เก็บถาวร 2008-10-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Online Library of Liberty.
  3. Cecil Adams (1992-11-06). "Why is the number 13 considered unlucky?". The Straight Dope. สืบค้นเมื่อ 2011-05-13.
  4. Oberon Zell-Ravenheart, "Companion for the Apprentice Wizard", Career Press (2006), p 200.
  5. Harris, Nick (15 November 2007). "Bad omen for Italy as their unlucky number comes up". The Independent. London.
  • Lachenmeyer, Nathaniel (2004). 13: The Story of the World's Most Popular Superstition. New York: ISBN 1-56858-306-0.
  • Havil, Julian (2007). Nonplussed: Mathematical Proof of Implausible Ideas (Hardcover). Princeton University Press. p. 152. ISBN 0-691-12056-0.
  • O'Neil, Daniel (2008). "Fear of 13: Tales over dinner."
  • Coriat, I.H. (1910). "Abnormal Psychology", p. 319, published in, Moffat, Yard and company (New York). Library of Congress Control No. 10011167.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้