องค์การสุรา กรมสรรพสามิต
องค์การสุรา กรมสรรพสามิต (อังกฤษ: The Liquor Distillery Organization) เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ก่อตั้งเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2506 ในรัฐบาลสมัย จอมพลถนอม กิตติขจร เพื่อดำเนินการตามนโยบายพิเศษ ทางด้านพาณิยชกรรมและอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ เดิมมีทั้งหมด 6 สาขา คือ พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท สระบุรี นครราชสีมา ลพบุรี และกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่
The Liquor Distillery Organization | |
ตราสัญลักษณ์ | |
เครื่องหมายการค้า | |
ภาพรวมองค์การ | |
---|---|
ก่อตั้ง | 25 กันยายน พ.ศ. 2506 |
ประเภท | รัฐวิสาหกิจ (ประเภท 2) |
สำนักงานใหญ่ | 67 หมู่ที่ 4 ตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา 24110 |
บุคลากร | 176 คน (พ.ศ. 2562)[1] |
งบประมาณต่อปี | 83,039,426,960 บาท (พ.ศ. 2562)[1] |
ฝ่ายบริหารองค์การ |
|
ต้นสังกัดองค์การ | กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ขององค์การ |
ประวัติ
แก้องค์การสุรา กรมสรรพสามิต ได้จัดตั้งโรงงานผลิตสุราและผลิตภัณฑ์จากวัตถุพลอยได้จากการผลิตสุรา หรือผลิตภัณฑ์อันเป็นอุปกรณ์ในการผลิตสุรา เพื่อหารายได้ให้รัฐ ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกันหรือต่อเนื่องกับการผลิต รวมถึงเป็นตัวแทนจำหน่าย
องค์การสุรา กรมสรรพสามิต ได้จัดตั้งขึ้นตามคำสั่งที่ 24367/2506 ลงวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2506 ให้จัดตั้งองค์การสุรา กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง เป็นรัฐวิสาหกิจ ประเภท 2 ซึ่งไม่เป็นนิติบุคคล[2] มีคณะกรรมการบริหารกิจการซึ่งประกอบด้วย อธิบดีกรมสรรพสามิต เป็นประธานกรรมการและรองอธิบดีกรมสรรพสามิต เป็นรองประธานกรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการอื่น ๆ อีกไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 11 คน รวมทั้งผู้แทนกระทรวงการคลัง 1 คน ผู้อำนวยการองค์การสุราเป็นกรรมการ และเลขานุการในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการให้ดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี ต่อมาเหลือเพียง 3 ปี ตามพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518
คณะกรรมการบริหารกิจการองค์การสุรา มีหน้าที่ควบคุมดูแลทั่วไปซึ่งกิจการขององค์การสุรา กำหนดนโยบายและวิจัย ของพนักงานองค์การสุรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีอำนาจควบคุมกิจการทั่วไปขององค์การสุรา และมีอำนาจแต่งตั้ง ถอดถอนและกำหนดเงินเดือนของผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการมีอำนาจหน้าที่ในการจัดการและดำเนินกิจการขององค์การสุราให้เป็นไปตามนโยบาย ข้อบังคับและระเบียบแบบแผนที่คณะกรรมการบริการกิจการกำหนดไว้ และมีอำนาจบังคับบัญชาพนักงานทุกตำแหน่ง
องค์การสุรา มีสำนักงานอยู่เลขที่ 1488 ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ในบริเวณกรมสรรพสามิต มีโรงงานดำเนินการผลิตสุราและแอลกอฮอล์ อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้เริ่มย้ายไปผลิต ณ โรงงานสุรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2540 และยังมีโรงงานสาขาอีก 4 โรงคือ โรงงานสาขานครราชสีมา โรงงานสาขาสระบุรี โรงงานสาขาลพบุรี และโรงงานสาขาชัยนาท
การส่งมอบโรงงานสุราจังหวัดพระนครศรีอยุธยาคืนแก่กรมธนารักษ์
แก้โรงงานสุราขององค์การสุรา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่ประมาณ 199 ไร่ได้ดำเนินการผลิตสุราขาว-ผสม ต่อมาจึงดำเนินการผลิตแต่เพียง แอลกอฮอล์ หรือสุราสามทับเพียงอย่างเดียว สุราสามทับนี้เป็นสุรากลั่นที่ปราศจากเครื่องย้อมหรือสิ่งผสมปรุงแต่ง มีแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 80 ดีกรีขึ้นไป ทั้งนี้องค์การสุรา เป็นผู้ได้สิทธิพิเศษในการผูกขาดการผลิต และจำหน่ายแอลกอฮอล์ในประเทศแต่เพียงผู้เดียว เพราะถือว่าเป็นสินค้ายุทธปัจจัยตามกฎหมาย
โรงงานสุราจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีกำลังการผลิต 40,000 ลิตรต่อวัน ใช้วัตถุดิบจากกากน้ำตาลเป็นหลัก ผลิตเพื่อจำหน่ายให้แก่อุตสาหกรรมภายในประเทศ ที่ต้องใช้แอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม เช่น อุตสาหกรรมการผลิตสี และการใช้ในธุรกิจสถานพยาบาลต่าง ๆ ปัจจุบันความต้องการใช้แอลกอฮอล์ภายในประเทศมีประมาณ 50,000 ลิตรต่อวัน ซึ่งการผลิตในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อการจำหน่ายสุราที่องค์การสุรามีข้อผูกพันจำหน่ายให้กับ ผู้ขายส่งในเขต 8 จังหวัด กรมสรรพสามิตจึงจัดทำข้อตกลงให้กลุ่มบริษัทสุราทิพย์ จำกัด ทำการผลิตสุราขาวบรรจุขวดจำหน่ายแทนโดยมอบผลประโยชน์เป็นรายเดือน เป็นจำนวนเงินที่แน่นอนให้กับองค์การสุรา
โรงงานสุราที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เริ่มหยุดผลิตมาตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา ทั้งนี้เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2536 ให้เความเห็นชอบกับแผนแม่บท นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โรงงานสุราอยุธยาซึ่งถูกกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ ที่เป็นนครประวัติศาสตร์ ต้องดำเนินการย้ายออกจากพื้นที่เดิมภายในปี พ.ศ. 2539 องค์การสุราได้เสนอขออนุมัติสร้างโรงงานผลิตสุราแห่งใหม่ที่อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้นมีนโยบายไม่ให้ก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ แต่ให้ขอโรงงานสุรากรมสรรพสามิตบางแห่งคืน จากกลุ่มสุราทิพย์ จำกัด โดยมอบหมายให้กรมสรรพสามิตเป็นผู้ดำเนินการเจรจา ในที่สุดองค์การสุราได้รับมอบโรงงานสุรา กรมสรรพสามิต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อทดแทนโรงงานเดิมโดยแลกเปลี่ยนกับโรงานสาขาขององค์การสุรา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา ขณะเดียวกันก็ได้ทำการเคลื่อนย้ายบางส่วนของโรงงานเดิม และปรับปรุงพื้นที่เพื่อส่งมอบคืนให้แก่กรมธนารักษ์ และองค์การมรดกโลก
โรงงานแห่งใหม่จังหวัดฉะเชิงเทรา
แก้โรงงานสุรา กรมสรรพสามิต จังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่ ณ อำเภอบางคล้า มีเนื้อที่ประมาณ 164 ไร่ มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 ลิตรต่อวัน เดิมเป็นโรงงานผลิตสุราขาวหนึ่งในจำนวน 12 โรง ของกลุ่มสุราทิพย์ (มหาชน) จำกัด ซึ่งได้สร้างไว้ตามเงื่อนไขของการได้รับสัมปทาน ทางองค์การสุราพยายามปรับปรุงเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสุราสามทับ หรือแอลกอฮอล์ให้เป็น 60,000 ลิตรและ 100,000 ลิตรต่อวันตามลำดับ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนองตอบต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ และเป็นการเตรียมพร้อมในการขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศในอนาคต
องค์การสุรามีแผนงานหลายด้านในการปรับปรุง และพัฒนาการผลิตแอลกอฮอล์ในอนาคต เช่น การเปลี่ยนการใช้วัตถุดิบ จากกากน้ำตาลมาเป็นมันสำปะหลัง การเปลี่ยนระบบการผลิตให้ดีขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ การแปรสภาพองค์การสุราให้เป็นนิติบุคคล[3]
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 รายงานประจำปี 2562 องค์การสุรา กรมสรรพสามิต
- ↑ ประกาศองค์การสุรา กรมสรรพสามิต เรื่อง โครงสร้างและการจัดองค์กร อำนาจหน้าที่ วิธีการดำเนินการ และสถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารขององค์การสุรา
- ↑ "ความคืบหน้าการแปรรูปองค์การสุรา เป็นนิติบุคคล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-01. สืบค้นเมื่อ 2011-04-05.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- เว็บไซต์ขององค์การสุรา เก็บถาวร 2005-12-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน