หม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร
หม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร (19 เมษายน พ.ศ. 2452 - 19 สิงหาคม พ.ศ. 2530) อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพงษาดิศรมหิป ประสูติแต่หม่อมถม
หม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร | |
---|---|
หม่อมเจ้า ชั้น 4 | |
ประสูติ | 19 เมษายน พ.ศ. 2452 |
สิ้นชีพตักษัย | 19 สิงหาคม พ.ศ. 2530 (78 ปี) |
หม่อม | หม่อมแมรี ชยางกูร ณ อยุธยา หม่อมละไม ชยางกูร ณ อยุธยา |
พระบุตร | 2 คน |
ราชสกุล | ชยางกูร |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพงษาดิศรมหิป |
พระมารดา | หม่อมถม ชยางกูร ณ อยุธยา |
พระประวัติ
แก้หม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร คนส่วนมากมักจะเรียกท่านว่า "ท่านวงษ์" เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพงษาดิศรมหิป ประสูติแต่หม่อมถม เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2452 ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีโสทรภราดาและโสทรภคินี 4 องค์ ดังนี้
- ประไพพงศ์ ศิริเวทิน
- หม่อมเจ้าทิพย์ลักษณ์สุดา ชยางกูร
- หม่อมเจ้าโสภาเพียงจันทร์ จันทรทัต
- หม่อมเจ้าสรรพไชยา ชยางกูร
หม่อมเจ้าวงษ์มหิปเสกสมรสกับหม่อมแมรี่ ชยางกูร ณ อยุธยา มีโอรส 2 คน คือ
- หม่อมราชวงศ์อรรควงษ์ เอกเซล ชยางกูร
- หม่อมราชวงศ์พงษ์ชัย แพทริก ชยางกูร
และเสกสมรสอีกครั้งกับหม่อมละไม ชยางกูร ณ อยุธยา (สกุลเดิม จันทร์งาม) โดยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานน้ำสังข์ และเงินทำขวัญเนื่องในการเสกสมรส เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493[1]
หม่อมเจ้าวงษ์มหิปมีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวแทนฝ่ายไทยในการขึ้นศาลโลกในคดีเขาพระวิหาร
หม่อมหลวงปิ่น มาลากุลได้กล่าวถึงหม่อมเจ้าวงษ์มหิป ในจดหมายการลาออกจากการเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่ยื่นแก่จอมพลแปลก พิบูลสงคราม เมื่อราวเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2487 ดังนี้
ตามที่ได้มาเรียนปติบัติข้อราชการนะโรงเรียนลูกกำพร้าสงครามเมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ศกนี้ และพนะท่านได้แสดความเห็นใจว่า ในตำแหน่งอธิบดีกรมสามัญสึกสา ย่อมมีงานที่จะต้องปติบัติอยู่มากแล้ว ให้หาคนแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมสึกสานั้น นับว่าเป็นความกรุณาของพนะท่านเป็นอย่างยิ่ง จึงขอเชื่อและปติบัติตามคำแนะนำของพนะท่านด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
ในโอกาสนี้ขอประทานกราบเรียนว่า นับตั้งแต่ พนะท่านได้เรียกไปกะซวงกลาโหม เมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๔๘๐ เพื่อชี้แจงนโยบาย และมอบหมายให้จัดตั้งโรงเรียนเตรียมอุดมสึกสาเป็นต้นมา ก็ได้ตั้งใจ ปติบัติงานอย่างเต็มสติกำลัง และพยายามรักสานโยบายของพนะท่านไว้เป็นนิจ จำนวนนักเรียนทวีขึ้นจาก ๓๕๐ คน ในปีแรก จนถึง ๓,๕๐๐ คนในปัจจุบัน การงานมิได้มีติดขัดประการได จนกระทั่งประเทศเข้าสู่ภาวะสงคราม ซึ่งย่อมมีอุปสรรคเป็นธรรมดา แต่ก็แก้ไขให้ลุล่วงไปได้ ภายใต้การบังคับบัญชาสูงสุดของพนะท่าน และพนะท่านรองอธิการบดี
การเปลี่ยนแปลงตัวผู้อำนวยการนั้น ขอประทานกราบเรียนว่ารู้สึกเป็นห่วงหยู่ไม่น้อย แต่หม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร ก็เป็นผู้ที่มีความสามารถในการสั่งสอนอบรมนักเรียนเป็นอย่างดี และเป็นอาจารย์ที่ได้หยู่ช่วยเหลือผู้อำนวยการมาเป็นอันมาก ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งโรงเรียน จึงเป็นการเหมาะสมที่จะตั้งเป็นผู้อำนวยการต่อไป ดีกว่าเลือกบุคคลซึ่งยังไม่เคยร่วมงานนี้มาแต่ก่อน
ส่วนไนทางไจนั้น รู้สึกมีความอาลัยเป็นอย่างมากในการที่จะไปจากโรงเรียนเตรียมอุดมสึกสา เมื่อมาคำนึงว่า ตลอดเวลา ๖ ปีครึ่ง ที่ทำมานี้ มีตำแหน่งประจำอยู่ทางแผนกฝึกหัดครูคณะอักสรศาสตร์และวิทยาสาสตร์ในชั้นต้น และทางกรมสามัญสึกสาในเวลาต่อมา งานไนโรงเรียนเตรียมอุดมสึกสาเป็นงาน พิเสส ซึ่งมิได้มีตำแหน่งเงินเดือนหรือเงินเพิ่มพิเสสแต่อย่างใด แต่ก็ได้ทำมาด้วยความรักและการเสียสละไนทุกทาง เพราะเป็นงานชิ้นแรกที่พนะท่านมอบหมายให้ทำด้วยความไว้วางไจ และได้มีโอกาสสร้างครูอาจารย์ที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นเป็นจำนวนร้อย และอบรมกล่อมเกลานักเรียนจำนวนพัน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นกำลังแก่ประเทศชาติไนภายหน้าได้ ก็บังเกิดความพากพูมไจและความสุขไจ ซึ่งเป็นรางวัลที่พนะท่านได้ให้มาในทางอ้อม… จึงค่อยปลดเปลื้องความอาลัยให้บรรเทาลงได้บ้าง
หม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร สิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2530 สิริชันษา 78 ปี พระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ปีเดียวกัน[2]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้หม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร ทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งไทยและต่างประเทศ ดังนี้
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
แก้- พ.ศ. 2511 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[3]
- พ.ศ. 2508 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)[4]
- พ.ศ. 2514 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายหน้า)[5]
- พ.ศ. 2506 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[6]
- พ.ศ. 2504 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 3 (ภ.ป.ร.3)[7]
- พ.ศ. 2454 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6 (ร.ร.ศ.6)
- พ.ศ. 2468 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 (ร.ร.ศ.7)
- พ.ศ. 2493 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 9 (ร.ร.ศ.9)
- พ.ศ. 2475 – เหรียญเฉลิมพระนคร 150 ปี (ร.ฉ.พ.)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
แก้- ลาว :
- พ.ศ. 2499 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์ล้านช้างร่มขาว ชั้นที่ 2[8]
- เบลเยียม :
- พ.ศ. 2504 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎเบลเยียม ชั้นที่ 1[9]
- เนเธอร์แลนด์ :
- พ.ศ. 2504 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งราชวงศ์ออเรนจ์ ชั้นที่ 1[9]
- ลักเซมเบิร์ก :
- พ.ศ. 2504 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อดอล์ฟแห่งนัสเซา ชั้นที่ 1[10]
- มาเลเซีย :
- พ.ศ. 2507 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์ปังกวนเนการา ชั้นที่ 3[11]
พงศาวลี
แก้พงศาวลีของหม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
แก้- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวในพระราชสำนัก วันเสาร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๓ เล่ม 67 ตอนที่ 63 หน้า 5999 วันที่ 21 พฤศจิกายน 2493
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวในพระราชสำนัก วันเสาร์ที่ ๒๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ เล่ม 104 ตอนที่ 176 หน้า 6279 วันที่ 3 กันยายน 2530
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๕ ตอนที่ ๑๒๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๘, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๒ ตอนที่ ๑๑๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๘, ๒๓ ธันวาคม ๒๕๐๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า, เล่ม ๘๘ ตอนที่ ๔๙ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๘, ๑๓ พฤษภาคม ๒๖๑๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๘๐ ตอนที่ ๑๒๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๖๔๕, ๒๗ ธันวาคม ๒๕๐๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๗๘ ตอนที่ ๑๗ ง หน้า ๔๕๑, ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๗๓ ตอนที่ ๔๒ ง หน้า ๑๔๑๖, ๒๒ พฤษภาคม ๒๔๙๙
- ↑ 9.0 9.1 ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๗๘ ตอนที่ ๕๘ ง หน้า ๑๖๙๑, ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๐๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๗๘ ตอนที่ ๕๖ ง หน้า ๑๕๗๒, ๔ กรกฎาคม ๒๕๐๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๘๑ ตอนที่ ๘๘ ง หน้า ๒๓๙๓, ๑๕ กันยายน ๒๕๐๗
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- งานแนะแนว โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
- คดีเขาพระวิหาร เก็บถาวร 2008-02-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน