หมีขอ
หมีขอ | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Carnivora |
วงศ์: | Viverridae |
วงศ์ย่อย: | Paradoxurinae |
สกุล: | Arctictis Temminck, 1824 |
สปีชีส์: | A. binturong |
ชื่อทวินาม | |
Arctictis binturong (Raffles, 1821) | |
ชนิดย่อย | |
| |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ |
หมีขอ หรือ หมีกระรอก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Arctictis binturong; อีสาน: เหง็นหางขอ, เหง็นหมี) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม แม้จะมีหน้าตาคล้ายหมีจนได้ชื่อว่าหมี แต่เป็นสัตว์จำพวกชะมดและอีเห็น (Viverridae) ที่ใหญ่ที่สุด จัดเป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวในสกุล Arctictis
หมีขอมีขนสีดำตามลำตัวซึ่งค่อนข้างยาวและหยาบ สีขนบริเวณหัวอาจมีสีเทา มีใบหูกลม บริเวณขอบหูมีสีขาว หมีขอมีหางยาวเป็นพวงคล้ายกระรอก ซึ่งสามารถม้วนงอได้และสามารถใช้เกาะเกี่ยวต้นไม้ได้เป็นอย่างดี หมีขอมีความยาวลำตัวและหัว 61-96 เซนติเมตร ความยาวหาง 50-84 เซนติเมตร น้ำหนัก 10–20 กิโลกรัม
หมีขอมีต่อมสร้างสารกลิ่นฉุนอยู่ข้างทวารหนัก ตัวผู้จะอยู่เหนืออัณฑะขึ้นมา ส่วนตัวเมียมีต่อมข้างช่องคลอด ซึ่งจะผลิตฟีโรโมนออกมาควบคู่กัน ระดับแอมโมเนียที่สร้างขึ้นมามีความเข้มข้นเพียงพอจะทำให้กลิ่นนั้นแปรสภาพเป็นกลิ่นคล้ายเนยหอมที่ผสมในป็อปคอร์น
หมีขอมีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางตั้งแต่ภูฏาน, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย, ภาคตะวันตกของพม่า, ไทย, ลาว, กัมพูชา, พรมแดนระหว่างเวียดนามติดกับลาวและกัมพูชา, มาเลเซีย, เกาะสุมาตรา, เกาะบอร์เนียวในอินโดนีเซีย และเกาะปาลาวันในฟิลิปปินส์
หมีขอเป็นสัตว์หากินในเวลากลางคืน อาศัยและหากินตามลำพัง แต่ในบางครั้งอาจอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ประกอบไปด้วย แม่และลูก ในเวลากลางวันจะอาศัยโพรงไม้เป็นที่หลับนอน อาหารได้แก่ ผลไม้และสัตว์ที่มีขนาดเล็กชนิดต่าง ๆ บนต้นไม้ทั้งแมลงและสัตว์เลื้อยคลาน ปีนต้นไม้ได้เก่งมาก โดยใช้หางที่ยาวเกาะเกี่ยวกิ่งไม้จากต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังสามารถว่ายน้ำได้อีกด้วย มีการผสมพันธุ์กันได้ตลอดทั้งปี ใช้เวลาตั้งท้องนาน 92 วัน ออกลูกครั้งละ 1–3 ตัว หมีขอตัวเมียจะมีเต้านมทั้งหมด 2 คู่ ลูกที่เกิดใหม่จะยังไม่สามารถใช้หางเกี่ยวกิ่งไม้ได้เหมือนตัวพ่อแม่ [2]
หมีขอเป็นสัตว์ที่เลี้ยงตั้งแต่เล็กแล้วจะเชื่องจนสามารถนำมาฝึกให้แสดงโชว์ต่าง ๆ ได้ตามสวนสัตว์ สถานะปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
ศัพทมูลวิทยา
แก้คำว่า "หมีขอ" มาจากการที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับหมี ประกอบกับมีพฤติกรรมเมื่อพบปะมนุษย์ แม้แต่จะเป็นหมีขอที่เป็นสัตว์ป่าแท้ ๆ ก็มักจะไม่เกรงกลัว แต่กลับจะมีพฤติกรรมอยากรู้ อยากเห็น และจะยื่นตีนหน้าไปเหมือนแบมือขอของสุนัขที่ฝึกมาแล้ว เมื่อมีใครยื่นอะไรสักอย่างให้ เช่น เงิน ก็จะคว้าแล้ววิ่งหายไปในพงไม้
และชื่อ "หมีกระรอก" นั้นก็มาจากขนหางที่เป็นพวงฟูเหมือนกระรอก[3]
อ้างอิง
แก้- ↑ Widmann, P., De Leon, J. and Duckworth, J. W. (2008). "Arctictis binturong". IUCN Red List of Threatened Species. Version 2013.1.
{{cite web}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ หน้า 87-88 สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน. 256 หน้า โดย กองทุนสัตว์ป่าโลก สำนักงานประเทศไทย (กรุงเทพมหานคร, 2543) ISBN 974-87081-5-2
- ↑ หน้า 124, สัตว์สวยป่างาม โดยชมรมนิเวศวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล (สิงหาคม, 2518)
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Arctictis binturong ที่วิกิสปีชีส์
- แฟ้มสัตว์โลก:หมีขอ[ลิงก์เสีย]
- มูลนิธิสืบนาคะเสถียร:“เรื่องของหมีขอที่เราควรรู้”