สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ (4 กันยายน พ.ศ. 2422 — 25 กันยายน พ.ศ. 2422) เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เป็นพระโสทรานุชาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นพระโสทรเชษฐภาดาในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และเป็นพระปิตุลาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ | |
---|---|
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 5 เจ้าฟ้าชั้นเอก | |
ประสูติ | 4 กันยายน พ.ศ. 2422 พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพพระมหานคร |
สิ้นพระชนม์ | 25 กันยายน พ.ศ. 2422 (0 ปี 21 วัน) พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพพระมหานคร |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระมารดา | สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า |
พระประวัติ
แก้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ ประสูติวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ บรมนริศรสมบัติเทวราช จุฬาลงกรณ์นาถปรมางกูร สมบูรณอุกฤษฐศักดิ์ อุโภตปักษ์วิสุทธิพงศ์ มหามกุฎราชรวิวงศ์วราวัตรลักษณสมบัติ ขัตติยราชกุมาร
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ สิ้นพระชนม์ในเขตพระราชฐานชั้นใน เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2422 พระชันษา 21 วัน ได้เชิญพระศพออกทางประตูพรหมศรีสวัสดิ์ไปตั้งยังหอธรรมสังเวช[1]
หลังพระองค์สิ้นพระชนม์ครบ 100 วัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชเทวีทรงสถาปนาพระพุทธรูปปางสมาธิ เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ โดยโปรดให้ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นั้นไว้ที่ศาลาการเปรียญ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร[2] ปัจจุบันอัญเชิญไปไว้ในพระอุโบสถวัดนิเวศธรรมประวัติ ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา[3]
ในการบำเพ็ญพระราชกุศลทุกวันที่ 31 พฤษภาคม เพื่ออุทิศถวายสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์ที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดให้เชิญพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพาหุรัตมณีมัย พระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ พระอัฐิสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง พระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวิจิตรจิรประภา พระอัฐิพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ออกตั้งด้วย[4] ดังปรากฏในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวันว่า[5]
"...เจ้าพนักงานเชิญพระอังคารขึ้นยานุมาศมีกระบวนแห่เทวดาเครื่องสูงกลองชะนะไปลงท่าพระ เชิญพระอังคารลงเรือชัย ๒ ลำมีเรือแห่ไปลอยที่หน้าวัดปทุมคงคาตามอย่างโบราณประเพณี แล้วกระบวนแห่ซึ่งเชิญพระอังคารไปส่งลงเรือ แล้วกลับเข้ามารับพระบรมอัฏฐิจากพระบรมมหาราชวัง เชิญออกพระที่นั่งทรงธรรมสดับปกรณ์ดังเช่นแต่ก่อน พระบรมอัฏฐิที่เชิญออกมาวันนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ๑ สมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ ๑ เชิญสถิตย์บนบุษบกทองคำเปลวกลางพระที่นั่งทรงธรรม สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรไชย พระองค์เจ้าอิศรวงศ์วรราชกุมาร พระองค์เจ้านภางค์พิพัทธพงศ์ เชิญสถิตย์ในบุษบกห้ายอดแล้วพระราชทานรางวัลเจ้านายข้าราชการที่ถวายของในการพระเมรุ แล้วเสด็จขึ้นข้างใน…"
พระเกียรติยศ
แก้ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ | |
---|---|
การทูล | ใต้ฝ่าพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ |
พระอิสริยยศ
แก้- สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ (4 กันยายน พ.ศ. 2422 - 25 กันยายน พ.ศ. 2422)
ภายหลังสิ้นพระชนม์
- สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ (23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 - 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2478)
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศริยาลงกรณ์ (10 กรกฎาคม พ.ศ. 2478)
พงศาวลี
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ หอธรรมสังเวช หอนิเพทพิทยา และ หออุเทศทักษิณา ที่ตั้งสำหรับตั้งพระศพเจ้านายฝ่ายใน หอบรรณสารสนเทศ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- ↑ สมบัติ จำปาเงิน. รัชกาลที่ ๕ : พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช. กรุงเทพฯ : 2020 เวิลด์ มีเดีย จำกัด, 2541.[ระบุข้อมูลทางบรรณานุกรมไม่ครบ]
- ↑ ประมวลจารึกสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ที่พบในภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง. กรุงเทพฯ : คณะกรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์ สำนักนายกรัฐมนตรี, 2517, 95-96
- ↑ การพระราชกุศล วันที่ ๓๑ พฤษภาคม หอสมุดพระวชิรญาณ
- ↑ จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน ฉบับประจำวันที่ ๔๕๐๔ วันพฤหัสบดีแรม ๓ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒[ระบุข้อมูลทางบรรณานุกรมไม่ครบ]