วาฬ
วาฬ หรือที่นิยมเรียกกันติดปากว่า ปลาวาฬ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่อาศัยอยู่แต่เฉพาะในทะเลหรือมหาสมุทร เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายปลา คือ รูปร่างเพรียวยาว มีครีบและมีหางเหมือนปลา แต่หางของวาฬจะเป็นไปในลักษณะแนวนอน ไม่ใช่แนวตั้งเหมือนปลา วาฬไม่ใช่ปลา[2] แต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีสายรก ที่จัดอยู่ในอันดับฐานวาฬและโลมา (Cetacea) ใน อันดับ Artiodactyla
วาฬ กลุ่มที่ไม่เป็นทางการ ภายในอันดับฐาน Cetacea | |
---|---|
Southern right whale | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต Eukaryota |
อาณาจักร: | สัตว์ Animalia |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง Chordata |
ชั้น: | สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม Mammalia |
อันดับ: | สัตว์กีบคู่ Artiodactyla |
เคลด: | Cetaceamorpha Cetaceamorpha |
อันดับฐาน: | วาฬและโลมา Cetacea |
กลุ่มที่รวมอยู่ด้วย | |
| |
หน่วยที่รวมโดยแคลดิสติกส์แต่ไม่รวมโดยดั้งเดิม | |
|
บรรพบุรุษของวาฬ เป็นสัตว์กินเนื้อบนบกมี 4 ขา ในยุคพาลีโอจีน เมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อน มีชื่อว่า "มีโซนิก" จากนั้นก็วิวัฒนาการเริ่มใช้ชีวิตแบบสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำภายในเวลาเพียง 10 ล้านปีต่อมาในยุคอีโอซีน หรือเมื่อประมาณ 55 ล้านปีก่อน โดยจากสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจากนั้นขาหลังก็ค่อยหดและเล็กลงจนต่อมาเมื่อประมาณ 24-26 ล้านปี ก่อนกระดูกและข้อต่อก็หดเล็กลงจนไม่มีโผล่ออกมาให้เห็น แต่ในปัจจุบันกระดูกส่วนของขาหลังก็ยังคงมีอยู่โดยเป็นอวัยวะภายในที่มีขนาดเล็ก และทำหน้าที่เพียงเป็นที่ยึดติดของอวัยวะสืบพันธุ์เท่านั้น
วาฬ เป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ นับเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แม้จะอาศัยอยู่แต่เฉพาะในทะเล มีรูปร่างคล้ายปลา แต่ไม่ใช่ปลา ด้วยเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แม้จะไม่มีขนปกคลุมลำตัวเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอันดับอื่น ๆ แต่วาฬจะรักษาความอบอุ่นในร่างกายด้วยไขมันในชั้นใต้ผิวหนัง
วาฬ เป็นสัตว์ที่หายใจด้วยปอด เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอันดับอื่น ๆ วาฬสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นานนับชั่วโมง (โดยเฉลี่ยประมาณ 20 นาที) ด้วยการเก็บออกซิเจนปริมาณมากไว้ในปอด เมื่อใช้ออกซิเจนหมด วาฬจะขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำเพื่อปล่อยลมหายใจออก ซึ่งขณะที่ปล่อยลมหายใจออกนั้นจะมีไอน้ำและฝอยน้ำพ่นออกมาจากอวัยวะพิเศษที่อยู่ตรงส่วนหัวเป็นรูกลม ๆ เหมือนน้ำพุด้วย เพราะวาฬมีกล้ามเนื้อพิเศษปิดรูจมูกไว้แน่นเพื่อกันไม่ให้น้ำเข้าไปจมูกซึ่งเป็นอวัยวะที่ติดต่อกับปอดโดยตรง ส่วนปากนั้นไม่มีทางติดต่อกับปอดและจมูกเลย ทั้งนี้เพื่อจะกันไม่ให้น้ำเข้าสู่ปอดในขณะที่ดำน้ำ ในวาฬขนาดใหญ่อย่าง วาฬสีน้ำเงิน สามารถพ่นน้ำได้สูงถึง 9 เมตร[3]
วาฬ อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกของวาฬจะกินนมจากเต้านมของแม่เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป เต้านมของวาฬมี 1 คู่ อยู่ในร่องท้องของวาฬตัวเมีย ขณะที่กินนมลูกวาฬจะว่ายน้ำเคียงข้างไปพร้อมกับแม่ จึงจำเป็นต้องใช้เวลาให้น้อยที่สุด โดยเพียงแค่จ่อปากที่หัวนม แม่วาฬจะปล่อยน้ำนมเข้าปากลูก เป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เมื่อลูกวาฬคลอดออกมาใหม่ ๆ จะพุ่งตัวขึ้นผิวน้ำเพื่อหายใจทันที แม่วาฬจะช่วยดันลูกขึ้นสู่ผิวน้ำด้วยส่วนหัว และขณะที่แม่วาฬคลอดลูกนั้น วาฬตัวอื่น ๆ ในฝูง โดยเฉพาะวาฬตัวเมียจะช่วยกันปกป้องแม่และลูกวาฬไม่ให้ได้รับอันตราย ลูกวาฬเมื่อแรกเกิดจะมีลำตัวประมาณร้อยละ 40 ของแม่วาฬ และในบางชนิดจะมีขนติดตัวมาด้วยในช่วงแนวปากบนเมื่อแรกเกิด และจะหายไปเมื่อโตขึ้น[4]
วาฬ เป็นสัตว์ที่มีนัยน์ตาขนาดเล็ก จึงไม่ได้ใช้ประสาทการมองเห็นเท่าใดนัก อีกทั้งระบบประสาทการรับกลิ่นก็ไม่มีประสิทธิภาพที่ดีด้วย หากแต่วาฬจะใช้ระบบการรับฟังเสียงเป็นประสาทสัมผัสเป็นหลัก คล้ายกับระบบโซนาร์ หรือเอคโคโลเคชั่น ที่ส่งคลื่นเสียงไปกระทบกับวัตถุต่าง ๆ แล้วสะท้อนกลับมาสู่ประสาทหูของวาฬเพื่อคำนวณระยะทางและขนาดของวัตถุ[5] นอกจากนี้แล้ววาฬยังใช้เสียงต่าง ๆ ในการติดต่อสื่อสารกันในฝูงและในกลุ่มเดียวกัน สามารถร้องได้ด้วยเสียงต่าง ๆ กันมากมาย มีการศึกษาจากนักวิชาการพบว่า วาฬหลังค่อมสามารถส่งเสียงต่าง ๆ ได้มากถึง 34 ประเภท เหมือนกับการร้องเพลง และก้องกังวาลไปไกลนับเป็นร้อย ๆ กิโลเมตร และอยู่ได้นานถึงชั่วโมง[6] และในการศึกษาวาฬนั้น ผู้ศึกษาจะสังเกตจากครีบหางและรอยแผลต่าง ๆ บนลำตัวซึ่งจะแตกต่างกันออกไปเป็นลักษณะเฉพาะ[7]
วาฬ เป็นสัตว์ที่มนุษย์รู้จักและผูกพันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในอดีตเคยมีความเชื่อว่าวาฬเป็นปลา เช่น นักปราชญ์อย่างอริสโตเติล[8] แต่ในปี ค.ศ. 1693 จอห์น เรย์ นักชีววิทยาชาวอังกฤษเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่ตระหนักว่าวาฬเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มิใช่ปลา ด้วยมีการคลอดลูกเป็นตัว และมีระยะเวลาตั้งท้องนานกว่าปี เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ทั่วไป[9] วาฬเป็นสัตว์ที่มนุษย์นิยมล่าเพื่อนำเนื้อ, หนัง, บาลีน, ฟัน, กระดูก รวมทั้งน้ำมันและไขมันในชั้นผิวหนังในการอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ จนกระทั่งถึงในปี ค.ศ. 1966 ประชากรวาฬลดลงเหลือเพียง 12,000 ตัวเท่านั้น จึงมีกฎหมายและการอนุรักษ์วาฬขึ้นมาอย่างจริงจัง[9]
การจำแนก
แก้วาฬสามารถจำแนกออกได้เป็น 2 กลุ่ม (อันดับย่อย) ใหญ่ ๆ ได้แก่
- วาฬบาลีน (Mysticeti): วาฬกลุ่มนี้มีลักษณะคือใช้แผ่นกระดูกเรียกว่า "บาลีน" มีลักษณะเป็นซี่คล้ายหวีกรองอาหารซึ่งได้แก่ แพลงก์ตอนต่าง ๆ จากน้ำทะเล วาฬที่อยู่ในกลุ่มนี้เป็นวาฬขนาดใหญ่เช่น วาฬสีน้ำเงิน ที่มีความยาวได้ถึง 80 ฟุต ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมาด้วย เป็นวาฬที่มีช่องหายใจ 2 ช่อง
- วาฬมีฟัน (Odonceti): ลักษณะโดยทั่วไปจะมีขนาดเล็กกว่าวาฬบาลีน รวมทั้งโลมาทุกชนิด, วาฬเพชฌฆาต และนาร์วาฬ เป็นวาฬที่มีช่องหายใจเพียงช่องเดียว เป็นวาฬที่เป็นสัตว์นักล่า ล่าสัตว์น้ำต่าง ๆ เป็นอาหาร ในวาฬเพชฌฆาตมีพฤติกรรมรวมฝูงกันล่าปลาขนาดใหญ่ อย่าง ฉลามขาว และแม้แต่วาฬด้วยกันหรือโลมาเป็นอาหารด้วย[2]
ศัพทมูลวิทยา
แก้คำว่า "วาฬ" ในภาษาไทย มาจากภาษาบาลีซึ่งออกเสียงได้ว่า "วาน" หรือ "วาละ" มีความหมายว่า "สัตว์ร้าย หรือ สัตว์ขนาดใหญ่"[10] ซึ่งสอดคล้องกับความคิดแบบตะวันตก ที่คิดว่าวาฬเป็นสัตว์ร้าย ตามในเทพปกรณัมกรีก อันโดรเมดา ธิดาของแคสซิโอเปีย ราชินีแห่งเอธิโอเปีย ถูกมัดล่ามโซ่ไว้กับโขดหินริมทะเลเพื่อสังเวยแก่ ซีตัส สัตว์ร้ายแห่งท้องทะเล จนกระทั่งเพอร์ซิอุสได้ผ่านมาพบเห็นและจัดการสังหารซีตัส ช่วยนางออกมาได้ ซึ่งคำว่าซีตัสนั้นเป็นภาษากรีก (Κῆτος) แปลว่า "สัตว์ร้าย หรือ สัตว์ประหลาดทะเล" อันหมายถึง วาฬ และกลุ่มดาวซีตัส ซึ่งเป็นกลุ่มดาวในซีกฟ้าใต้ ก็คือกลุ่มดาวรูปวาฬ[11][7]
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ "When whales walked on four legs". www.nhm.ac.uk (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-03-12.
- ↑ 2.0 2.1 วาฬและโลมา หน้า 1
- ↑ ปลาวาฬพ่นน้ำทำไม จากสนุกดอตคอม
- ↑ ชีววิทยาเบื้องต้น[ลิงก์เสีย]
- ↑ วาฬและโลมา หน้า 4
- ↑ 10 วาฬที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- ↑ 7.0 7.1 วาฬและโลมา หน้า 7
- ↑ "ธรรมชาติของปลาวาฬ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-02. สืบค้นเมื่อ 2012-12-10.
- ↑ 9.0 9.1 วาฬและโลมาหน้า 3
- ↑ วาฬ ๑ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542
- ↑ Karl Kerenyi, The Heroes of the Greeks 1959:53; Euripides' drama is lost, save some fragments
- Carwardine, M., Whales, Dolphins and Porpoises, Dorling Kindersley, 2000. ISBN 0-7513-2781-6
- Williams, Heathcote, Whale Nation, New York, Harmony Books, 1988. ISBN 978-0-517-56932-0
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- WikiAnswers: questions and answers about whales
- Whale Evolution
- Greenpeace work defending whales เก็บถาวร 2006-06-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Save the Whales, founded in 1977 เก็บถาวร 2009-04-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- AquaNetwork Marine Mammal Project เก็บถาวร 2018-12-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Oldest whale fossil confirms amphibious origins
- Research on dolphins and whales from Science Daily
- Whale and Dolphin Conservation Society – latest news and information on whales and dolphins
- The Oceania Project – Caring for whales and dolphins
- Whales Tohorā Exhibition Minisite from the Museum of New Zealand Te Papa Tongarewa
- Whales in Te Ara the Encyclopedia of New Zealand เก็บถาวร 2008-10-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Orca and other whales video at Squid Force
- www.whales.org.za Whales information portal
- World Wide Fund for Nature (WWF) – information on whales, dolphins, and porpoises
- Whale Trackers – An online documentary series about whales, dolphins and porpoises เก็บถาวร 2017-02-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน