ก๋วยเตี๋ยว
ก๋วยเตี๋ยว เป็นหนึ่งในอาหารประเภทเส้นของจีนที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าโดยมากจะลวกให้สุกในน้ำเดือด สะเด็ดน้ำ แล้วนำมาใส่เครื่องปรุงชนิดต่างๆ นิยมรับประทานทั้งแบบน้ำและแบบแห้ง นิยมใช้ตะเกียบเป็นเครื่องมือช่วยรับประทาน
![]() ก๋วยเตี๋ยวในร้านอาหาร | |
จาน | อาหารเช้า กลางวัน หรือ เย็น |
---|---|
แหล่งกำเนิด | จีน |
ส่วนผสมหลัก | เส้น ซุปกระดูกหมู |
จานอื่นที่คล้ายกัน | hủ tiếu |
|
คำว่า "ก๋วยเตี๋ยว" อาจจะมาจากภาษาจีนฮกเกี้ยนหรือภาษาจีนแต้จิ๋วคำว่า 粿条/粿條 โดยแต้จิ๋วอ่าน "ก๋วยเตี๊ยว" ฮกเกี้ยนอ่าน "ก๊วยเตี๋ยว" ส่วนในจีนกลางจะอ่านว่า "กั่วเถียว" (guǒtiáo) แปลว่า เส้นข้าวสุก เป็นคนละคำกับ 粉条/粉條 (fěntiáo) ที่หมายถึงวุ้นเส้น หรือ 面条/麵條 (miàntiáo) ที่หมายถึงบะหมี่
ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารประเภทเส้นของชาวจีนแต้จิ๋วและฮกเกี้ยน มีลักษณะคล้ายกับป่านเถียว (粄条/粄條, bǎntiáo) ของชาวจีนฮากกา, เหอเฝิ่น (河粉, héfěn) ของชาวจีนกวางตุ้ง เฝอของชาวเวียดนาม และข้าวซอยก็นับเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านทางภาคเหนือของไทย ส่วนก๋วยเตี๋ยวที่ไม่ใส่เส้นจะเรียกว่าเกาเหลา[1]
ประวัติแก้ไข
สันนิษฐานกันว่าก๋วยเตี๋ยวในประเทศไทยมีมาเมื่อประมาณสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช[2] ซึ่งเป็นช่วงที่ไทยมีการติดต่อกับชาวต่างชาติมากมาย และชาวจีนก็ได้นำเอาก๋วยเตี๋ยวเข้ามากินกันในเรือ โดยต้มในน้ำซุป มีการใส่หมู ใส่ผักและเครื่องปรุงเพื่อความอร่อย แต่สำหรับคนไทยแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ในยุคนั้น และได้นำมาประกอบเป็นอาหารอื่นๆ บริโภคกันจนมีความเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี และเริ่มมีการทำเส้นก๋วยเตี๋ยวในประเทศไทย
ในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายรัฐนิยมที่สนับสนุนให้ประชาชนบริโภคก๋วยเตี๋ยว ซึ่งจอมพล ป. เห็นว่าหากประชาชนหันมาร่วมกันบริโภคก๋วยเตี๋ยว จะเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจของชาติในตอนนั้น เพื่อให้เงินหมุนเวียนในประเทศ ดังคำกล่าวของจอมพล ป. ในสมัยนั้นว่า [3]
|
||
– จอมพล ป.พิบูลสงคราม |
สมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นช่วงหลังสงครามครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างในคนทุกระดับชั้น การรณรงค์ให้บริโภคก๋วยเตี๋ยวถือว่าเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสมัยนั้น
สำหรับส่วนประกอบของก๋วยเตี๋ยวนั้น ตั้งแต่ประเทศไทยรับเอาอิทธิพลบริโภคก๋วยเตี๋ยวมาจากชาวจีน จะไม่มีการใส่ถั่วงอกลวกในก๋วยเตี๋ยวดังเช่นในปัจจุบัน แต่การใส่ถั่วงอกเกิดจากแนวความคิดและนโยบายของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ได้ลองนำถั่วงอกใส่เพิ่มเข้าไปเมื่อรับประทานแล้วรสชาดอร่อย จึงสั่งให้ใส่ถั่วงอกเพิ่มเข้าไปในก๋วยเตี๋ยวด้วย และที่สำคัญเป็นการเพิ่มอาชีพเพาะถั่วงอกขาย เพื่อให้มารองรับนโยบายสนับสนุนให้คนไทยบริโภคก๋วยเตี๋ยว จึงถือได้ว่าก๋วยเตี๋ยวในประเทศไทยเพิ่งจะใส่ถั่วงอกเพิ่มในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม นี่เอง
ในประเทศไทย ณ ตอนนี้มีหลายร้านที่ใช้สูตรการผลิตและปรุงใ้เป็นที่นิยมและสร้างเอกลักษณ์ของอาหารขึ้นมา แต่มีร้านเก่าแก่อย่าง ร้านแม่แดงก๋วยเตี๋ยวเรือโบราณ ที่ยังคงรักษากรรมวิธีการผลิตและรักษารสชาติดังเดิมคงไว้ กว่า 20ปี ประกอบลูกค้าที่ติดใจในคุณภาพบริการ และกลื่นไอของความเป็นเอกลักษณ์นี้
ชนิดของเส้นก๋วยเตี๋ยวแก้ไข
- เส้นหมี่ หรือภาษาท้องถิ่นบางที่เรียก "หมี่ขาว" หรือ "เส้นหมี่ขาว" เพื่อป้องกันการสับสนระหว่างบะหมี่ ทำมาจากแป้งข้าวเจ้า เป็นเส้นเรียวเล็ก ยาว มักใช้เครื่องจักรผลิต ก่อนนำมาทำอาหาร ต้องนำไปแช่น้ำเสียก่อน
- เส้นเล็ก ลักษณะกว้างกว่าเส้นหมี่ และตัดเป็นท่อนๆ เพื่อความง่ายในการรับประทาน เมื่อลวกเสร็จแล้วจะเหนียวกว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวอื่นๆ มักจะใช้นำไปทำผัดไทย ก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก
- เส้นใหญ่ มีขนาดความกว้างกว่าเส้นเล็ก ประมาณ 3-4 เท่าตัว เมื่อลวกเสร็จแล้วจะนิ่ม รับประทานง่าย มักนำไปทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ผัดซีอิ๊ว เย็นตาโฟ และราดหน้า
- กวยจั๊บ เส้นมีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยม เมื่อนำไปต้มในน้ำร้อนก็จะม้วนตัวเป็นหลอด
- เกี๊ยมอี๋ ลักษณะคล้ายลอดช่อง มีสีขาว มักทำเป็นก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยมอี๋
อาหารเส้นของชาติต่างๆแก้ไข
อาหารประเภทเส้นนอกจากก๋วยเตี๋ยวในอาหารไทยแล้ว ยังพบในอาหารของชาติอื่นอีก ดังนี้ [4]
- จีน ส่วนใหญ่เป็นบะหมี่น้ำบะหมี่แห้ง มีหลายรูปแบบและหลายรสชาติตามภาคต่างๆของประเทศ
- ญี่ปุ่น อาหารประเภทเส้นของญี่ปุ่นมีหลายแบบ ได้แก่
- เกาหลี มีเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เช่น เส้นแนงเมียน ทำจากบักวีตผสมแป้งมันฝรั่ง ดาวเมียน ทำจากแป้งมันเทศ เป็นต้น
- เวียดนาม เรียกเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าว่า เฝอ ส่วนเส้นที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าหมักเคลือบด้วยแป้งมันสำปะหลังเรียก จ๋าว คนไทยเรียกจ๋าวว่าก๋วยจั๊บญวน
- ลาว พบทางชายแดนที่ติดกับจีน ซึ่งชาวไทลื้อและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ มีข้าวซอยแบบเดียวกับชาวไทใหญ่และชาวไทลื้อในจีน
- พม่า มีอาหารเส้นที่คล้ายข้าวซอยของทางภาคเหนือของไทย เรียกเข้าโซย ได้รับอิทธิพลจากชาวไทใหญ่
- ชาวมลายูในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย มีอาหารเส้นเรียกละก์ซา ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจาก lakhsha ในภาษาเปอร์เซีย ละก์ซาในแต่ละถิ่นจะต่างกันไป เช่น ละก์ซาในรัฐกลันตันคล้ายขนมจีนน้ำยาของไทย ส่วนละก์ซาปีนังใช้เส้นหมี่ขาว ละก์ซาเลอมักใช้เส้นที่คล้ายจ๋าวของเวียดนาม เป็นต้น
- ฟิลิปปินส์ เรียกอาหารเส้นว่าปันสิด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากคนจีนที่เข้ามาค้าขายในฟิลิปปินส์ คำว่าปันสิด มาจาก pan it sit ในภาษาจีนฮกเกี้ยน
- อิตาลี อาหารเส้นที่มีชื่อเสียงคือพาสตา อาจจะมาจากขนมปังสมัยกรีก-โรมันหรือจาก lakhsha ของชาวอาหรับ พาสตาของอิตาลีมีหลายแบบ แบบหนึ่งที่เป็นที่รู้จักทั่วไปคือมะกะโรนี
- ไทย ก๋วยเตี๋ยวโบราณ มีจุดเด่นที่น้ำซุบที่ใช้ ทำจากเครือเทศและสมุนไพร เรียกว่าน้ซุบคือหัวใจหลักของ ก๋วยเตี๋ยวโบราณ และได้พัฒนาเป็นสิ่งที่คนนิยมพูดการว่าก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวเรื่อโบราณ
ชนิดของอาหารที่ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวแก้ไข
มีมากมายดังนี้
- ก๋วยเตี๋ยวหมู ไก่ เป็ด เนื้อ ปลา
- เย็นตาโฟ
- ก๋วยเตี๋ยวเรือ หรือก๋วยเตี๋ยวน้ำตก
- ก๋วยเตี๋ยวคั่ว
- ผัดซีอิ๊ว
- ก๋วยจั๊บ
- ผัดไทย หรือ ผัดไท
- ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย หรือ ก๋วยเตี๋ยวชากังราว
- ราดหน้า
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ ราชบัณฑิตยสถาน (2552). พจนานุกรมคำใหม่ เล่ม 2 ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (PDF). กรุงเทพฯ: ยูเนียนอุลตร้าไวโอเร็ต. p. 11.
- ↑ ตำนานก๋วยเตี๋ยว จาก วิชาการ.คอม
- ↑ พินิจนคร รายการ คลองรังสิตประยูรศักดิ์ สายน้ำพระราชทานในรัชกาลที่ 5 เมืองข้าว เมืองนาแห่งราชอาณาจักรสยาม :วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ทางไทยพีบีเอส]
- ↑ อาหารเส้นนานาชาติ. กทม. แสงแดด. 2550