อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
อัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก (อังกฤษ: Alfred Hitchcock; 13 สิงหาคม 1899 — 29 เมษายน 1980) ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงมากในแนวระทึกขวัญหรือ ทริลเลอร์ ฮิตช์ค็อกได้เริ่มต้นกำกับภาพยนตร์ในอังกฤษ ก่อนที่จะไปกำกับที่อเมริกาในปี 1939
อัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก | |
---|---|
สารนิเทศภูมิหลัง | |
เกิด | 13 สิงหาคม ค.ศ. 1899 เซอร์ อัลเฟร็ด โจเซฟ ฮิตช์ค็อก |
เสียชีวิต | 29 เมษายน ค.ศ. 1980 ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา | (80 ปี)
คู่สมรส | อัลม่า เรวิลล์ |
รางวัล | |
ออสการ์ | เสนอชื่อ ผู้กำกับยอดเยี่ยม 1940 – Rebecca 1944 – Lifeboat 1945 – Spellbound 1954 – Rear Window |
ฐานข้อมูล | |
IMDb |
ฮิตช์ค็อกถือเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่เป็นตำนานบนแผ่นฟิล์มของฮอลลีวู้ดและของโลก ในด้านการทำภาพยนตร์แนวทริลเลอร์ และผู้กำกับภาพยนตร์รุ่นหลัง ๆ ต่อมา ก็มีหลายคน ที่ยกย่องฮิตช์ค็อกซ์ และเอาสไตล์ของฮิตช์ค็อกเป็นต้นแบบในการทำหนัง
ถึงแม้ภายในช่วงชีวิตของฮิตช์ค็อกเมื่ออยู่ในอเมริกานั้นเขาจะโด่งดังและมีชื่อเสียงมาก แต่กลับไม่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีนักจากนักวิจารณ์ในสมัยนั้น
ภาพยนตร์ของเขาส่วนใหญ่ที่สร้างขึ้น จะเน้นทางด้านความแฟนตาซี และความหวาดกลัวของมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ และชอบใช้เหตุการณ์ที่มีตัวละครที่ไม่รู้ประสีประสา ให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของตัวละครนั้น ๆ ซึ่งนักวิจารณ์หลายคนกล่าวว่า ฮิตช์ค็อกนั้นไม่ได้กำกับภาพยนตร์แต่กำกับอารมณ์ของคนดูมากกว่า และตัวฮิตช์ค็อกเองก็เคยกล่าวว่า เขาสนุกกับการได้เล่นกับความรู้สึกของคนดู
ฮิตช์ค็อกเปิดเผยว่า เมื่อตอนอายุได้ 5 ขวบ เขาจำได้ว่าเคยถูกพ่อส่งตัวไปให้ตำรวจจับเข้าคุกเป็นเวลา 10 นาที เป็นการลงโทษเนื่องจากความซุกซน นั่นทำให้เขาหวาดกลัวมาก และเป็นอิทธิพลส่งผลให้ผลงานภาพยนตร์แต่ละเรื่องของเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือนักสืบผู้เชี่ยวชาญจะไม่ใช่ตัวละครสำคัญหรือเป็นเงื่อนไขในการคลี่คลายปมลับเลย ซ้ำในบางเรื่องยังทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิมหรือยุ่งยากยิ่งขึ้นไปอีก
นอกจากนี้แล้ว อัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก ยังมีรูปแบบการมีส่วนร่วมในภาพยนตร์ของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร ไม่เพียงแต่กำกับเท่านั้น เขายังมักปรากฏตัวในหนังแต่ละเรื่องด้วย โดย การเดินผ่านไปมาหน้ากล้อง หรือโผล่มาเป็นตัวประกอบในฉากต่าง ๆ ซึ่งทางภาษาภาพยนตร์เรียกว่า cameo
ประวัติ
แก้อัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก มีชื่อเต็มว่า อัลเฟร็ด โจเซฟ ฮิตช์ค็อก (Alfred Joseph Hitchcock) เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 1899 ที่กรุงลอนดอน ในครอบครัวคาทอลิกที่เคร่งครัดและรักการละคร โดยครอบครัวมีกิจการค้าขายสินค้าทางการเกษตร ในวัยเด็กฮิตช์ค็อกเริ่มเรียนหนังสือกับโรงเรียนคณะเยซูอิต ทั้งที่ครอบครัวเป็นคาทอลิกที่เคร่งครัด แต่เขาเรียนไม่จบ ในเวลาต่อมา เขาอยากจะเป็นวิศวกร จึงถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนวิศวกรรมและการเดินเรือ จึงทำให้ฮิตช์ค็อกได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานด้านเครื่องกล ไฟฟ้าเสียง และการเดินเรือ ฮิตช์ค็อกทำงานครั้งแรกเมื่ออายุได้ 19 ปี เป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์งบประมาณทางเทคนิคของบริษัทโทรเลขแห่งหนึ่ง ขณะเดียวกันก็เข้าเรียนศิลปะในมหาวิทยาลัยลอนดอนไปด้วย ทั้งนี้เป็นเพราะเขาสนใจในงานด้านภาพยนตร์มาตั้งแต่อายุ 16 ปี
จากนั้นฮิตช์ค็อกได้ย้ายไปทำงานด้านศิลป์และเป็นผู้ช่วยงานด้านเลย์เอ๊าท์ในแผนกโฆษณาของบริษัท ในปี 1920 ฮิตช์ค็อกมีผลงานด้านภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ในฐานะเป็นผู้ออกแบบไตเติล ให้กับบริษัทภาพยนตร์ที่ชื่อ เฟมัส เพลเยอร์ส-ลาสกี้ (Famous Players-Lasky ซึ่งต่อมาก็คือ บริษัท พาราเม้าท์ พิคเจอร์) ที่มาเปิดสาขาในกรุงลอนดอน ในเวลาไม่นานนัก ฮิตช์ค็อกก็ได้เลื่อนเป็นหัวหน้าแผนกและได้ทำงานใกล้ชิดกับผู้เขียนบทและแผนกตัดต่อ และได้ทำหน้าที่กำกับฉากที่ไม่สำคัญบางฉากอีกด้วย ต่อมาในปี 1922 เฟมัส เพลเยอร์ส-ลาสกี้ ได้ขายกิจการให้กับบริษัทภาพยนตร์ของอังกฤษ เขาก็ได้รับเลือกให้มาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ
ในปี 1925 หลังจากทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้กำกับมานาน ฮิตช์ค็อกก็ได้ทำหน้าที่กำกับภาพยนตร์เองเรื่องแรก คือเรื่อง The Pleasure Garden ซึ่งเป็นภาพยนตร์ธรรมดาที่ไม่ได้สะท้อนตัวตนของฮิตช์ค็อกเลย ภาพยนตร์เรื่องแรกของฮิตช์ค็อกที่ถือว่าเป็นตัวตนจริง ๆ คือเรื่อง The Lodger: A Story of the London Fog ในปี 1927 และจากนั้นฮิตช์ค็อกก็ได้ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้มีโอกาสเข้าไปทำภาพยนตร์ในฮอลลีวู้ดในปี 1939
ด้านชีวิตครอบครัว ฮิตช์ค็อกสมรสกับ อัลม่า เรวิลล์ เมื่อปี 1926 โดยที่เธอป็นผู้เขียนบทและทำงานภาพยนตร์ร่วมกับฮิตช์ค็อกมาก่อน ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคน คือ แพทริเซีย ฮิตช์ค็อก ซึ่งต่อมากลายเป็นนักแสดงประกอบคนหนึ่งของฮิตช์ค็อกด้วย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะได้รับฉายาว่าเป็น ราชาหนังเขย่าขวัญ หรือ ราชาหนังระทึกขวัญ ก็ตาม ฮิตช์ค็อกกลับไม่เคยได้รางวัลอคาเดมี่หรือรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมเลยแม้สักครั้ง ใกล้เคียงที่สุดคือได้เข้าชิงใน 5 เรื่อง แม้ในเรื่อง Rebecca ในปี 1940 จะได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็ตาม จนกระทั่งในปี 1968 สถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์ภาพยนตร์แห่งอเมริกามอบรางวัลเกียรติยศ อนุสรณ์เออร์วิ่ง จี. ธัลเบิร์ก (Irving G. Thalberg Memorial Award) ให้แก่ฮิตช์ค็อก ซึ่งเขาก็ได้ขึ้นไปกล่าวสั้น ๆ ว่า "ขอบคุณ" บนเวทีเท่านั้นแล้วก็เดินลงมา
ฮิตช์ค็อกได้รับรางวัลเกียรติยศอีกครั้งหนึ่ง ในปี 1979 โดยสถาบันภาพยนตร์อเมริกัน โดยมอบรางวัล Life Achievement Award ให้ สองสัปดาห์ต่อมาขณะที่ฮิตช์ค็อกเตรียมงานเรื่องใหม่ คือ The Short Night แต่ว่าสภาพร่างกายของเขาไม่อำนวยเสียแล้ว เขาปิดสำนักงานในฮอลลีวู้ดและร่ำลาเพื่อนร่วมงานกลับไปใช้ชีวิตในบั้นปลายที่บ้านพักที่แคลิฟอร์เนีย
3 มกราคม 1980 ฮิตช์ค็อกได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวิน จากการพระราชทานจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยเจ้าหน้าที่กงสุลนำรางวัลนี้มามอบให้แก่เขาถึงที่ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เนื่องจากเขาไม่สามารถเดินทางไปอังกฤษเพื่อรับพระราชทานรางวัลนี้ได้ด้วยตนเอง จากสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมเต็มที่
อัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก เสียชีวิตลงในเวลา 09.17 น. ของเช้าวันที่ 29 เมษายน 1980 ที่บ้านพัก รวมอายุได้ 80 ปี [1]
ฮิตช์ค็อก ได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์โททัลฟิล์มให้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีผลงานดีเยี่ยมที่สุดเป็นอันดับ 1 ตลอดกาล[2]
รายชื่อภาพยนตร์ของฮิตช์ค็อก
แก้(ภายในวงเล็บ คือ ปีที่เริ่มฉาย, ตัวดำ คือ ผลงานเด่น)
ภาพยนตร์เงียบ
แก้- No. 13 (1922)
- Always Tell Your Wife (1923)
- The Pleasure Garden (1927)
- The Mountain Eagle (1927)
- The Lodger: A Story of the London Fog (1927), เป็นภาพยนตร์ในแนวตื่นเต้นระทึกขวัญเรื่องแรกของฮิตช์ค็อก
- Downhill (1927)
- Easy Virtue (1927)
- The Ring (1927)
- The Farmer's Wife (1928)
- Champagne (1928)
- The Manxman (1928)
ภาพยนตร์เสียง (ภาพยนตร์สมัยใหม่)
แก้- Blackmail (1929), เป็นภาพยนตร์เสียงในฟิล์มเรื่องแรกของฮิตช์ค็อกและเรื่องแรกของอังกฤษด้วย
- Juno and the Paycock (1930)
- Murder! (1930)
- Elstree Calling (1930)
- The Skin Game (1931)
- Mary (1931)
- Number Seventeen (1932)
- Rich and Strange (1932)
- Waltzes from Vienna (1933)
- The Man Who Knew Too Much (1934)
- The 39 Steps (1935)
- Secret Agent (1936)
- Sabotage (1936), ดัดแปลงมาจากนิยายของโจเซฟ คอนราด เรื่อง The Secret Agent
- Young and Innocent (1938)
- The Lady Vanishes (1938)
- Jamaica Inn (1939)
- Rebecca (1940), เป็นเรื่องเดียวที่ฮิตช์ค็อกได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากอคาเดมี่อวอร์ด
- Foreign Correspondent (1940)
- Mr. & Mrs. Smith (1941)
- Suspicion (1941)
- Saboteur (1942)
- Shadow of a Doubt (1943)
- Lifeboat (1944)
- Aventure Malgache (1944), เป็นภาพยนตร์ภาษาฝรั่งเศสสร้างขึ้นเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
- Bon Voyage (1944), คล้ายกับเรื่อง Aventure Malgache
- Spellbound (1945), ซาลวาดอร์ ดาลี เป็นผู้ออกแบบไตเติลให้
- Notorious (1946)
- The Paradine Case (1947)
- Rope (1948), เป็นภาพยนตร์สีเรื่องแรกของฮิตช์ค็อกและใช้การตัดต่อเพียงแค่ 11 ครั้งเท่านั้น
- Under Capricorn (1949)
- Stage Fright (1950)
- Strangers on a Train (1951)
- I Confess (1953)
- Dial M for Murder (1954), เป็นภาพยนตร์สามมิติ
- Rear Window (1954)
- To Catch a Thief (1955)
- The Trouble with Harry (1955), เป็นภาพยนตร์ตลกที่แหวกแนวของฮิตช์ค็อกไป แต่ก็ยังคงอารมณ์ขันแบบร้าย ๆ อยู่
- The Man Who Knew Too Much (1956), สร้างใหม่ แต่ใช้เค้าโครงเดิมจากปี 1934
- The Wrong Man (1956)
- Vertigo (1958)
- North by Northwest (1959)
- Psycho (1960)
- The Birds (1963)
- Marnie (1964)
- Torn Curtain (1966)
- Topaz (1969)
- Frenzy (1972)
- Family Plot (1976)
อ้างอิง
แก้- ↑ หนังสือ ตำนานระทึกขวัญ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อค โดย ประวิทย์ แต่งอักษร สำนักพิมพ์ แพรว (กรุงเทพ, กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543) ISBN 974-85060-0-2
- ↑ Greatest Directors Ever - Part 2 (อังกฤษ)
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- Alfred Hitchcock at the British Film Institute
- ภาพเหมือนของ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก ที่หอศิลป์ภาพเหมือนแห่งชาติ