แอร์บัส เอ320นีโอ
แอร์บัส เอ320นีโอ (Airbus A320neo family) เป็นรุ่นของอากาศยานที่ออกแบบโดยแอร์บัสตั้งแต่เดือนธันวาคม ค.ศ. 2010 โดยคำว่า "นีโอ (Neo)" เป็นคำย่อจากภาษาอังกฤษว่า "ตัวเลือกเครื่องยนต์แบบใหม่ (New Engine Option)" และถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของโครงการปรับปรุงรุ่น เอ320 (A320 Enhanced) ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 โดยมุ่งมั่นเพื่อจะผลิตมาแทนที่แอร์บัส เอ320 ซึ่งในปัจจุบันนั้นได้ถูกเรียกถึงเป็น เอ320ซีอีโอ (A320ceo) โดย "ซีอีโอ (Ceo)" เป็นคำย่อมาจาก "ตัวเลือกเครื่องยนต์แบบปัจจุบัน (Current Engine Option)"
![]() ![]() แอร์บัส เอ320นีโอ ของกัลฟ์แอร์ | |
บทบาท | อากาศยานไอพ่นลำตัวแคบ |
---|---|
บริษัทผู้ผลิต | แอร์บัส |
บินครั้งแรก | 25 กันยายน ค.ศ. 2014 |
เริ่มใช้ | 25 มกราคม ค.ศ. 2016 กับ ลุฟต์ฮันซา |
สถานะ | ในประจำการ |
ผู้ใช้งานหลัก | อินดิโก ไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ ฟรอนเทียร์แอร์ไลน์ อีซี่ย์เจ็ต |
ช่วงการผลิต | 2014-ปัจจุบัน |
จำนวนที่ผลิต | 2939 ลำ ณ เดือนสิงหาคม 2023 |
มูลค่า | เอ 319 นีโอ: 97.5 ล้านเหรียญสหรัฐ[1] เอ 320 นีโอ: 106.2 ล้านเหรียญสหรัฐ[1] เอ 321 นีโอ: 124.4 ล้านเหรียญสหรัฐ[1] |
พัฒนามาจาก | แอร์บัส เอ320 |
นอกเหนือจากการพัฒนาเครื่องยนต์รูปแบบใหม่แล้ว โครงการพัฒนายังรวมถึงการปรับปรุงด้านต่างๆ ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถด้านอากาศพลศาสตร์ การติดตั้งปลายปีกแบบโค้งรูปแบบใหม่ การลดน้ำหนักโดยรวม ส่วนของผู้โดยสารที่ออกแบบใหม่ให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระมากขึ้น และปรับปรุงระบบกรองอากาศใหม่[2][3] นอกจากนี้ บริษัทการบินพาณิชย์ยังสามารถเลือกแบบเครื่องยนต์ได้ระหว่างซีเอฟเอ็ม ลีป-1A หรือ แพตแอนด์วิทนีย์ PW1000G
โครงการปรับปรุงที่กล่าวมานั้นโดยรวมจะสามารถประหยัดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 15% ต่ออากาศยาน ลดต้นทุนการปฏิบัติการได้ถึง 8% ลดมลภาวะทางเสียง และยังลดการปลดปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ได้ถึง 10% จากเครื่องเอ320 รุ่นเก่า รวมทั้งยังสามารถมีพิสัยบินเพิ่มขึ้นถึง 500 ไมล์ทะเล (900 กิโลเมตร) โดยประมาณ[4] การปรับแต่งส่วนของผู้โดยสารใหม่นั้นจะทำให้สามารถจุผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 20 ที่นั่ง โดยรวมจึงทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากถึง 20% ต่อที่นั่ง
แอร์บัสได้รับคำสั่งซื้อจากสายการบินต่างๆ สำหรับรุ่น เอ 320นีโอ นี้รวมทั้งสิ้น 3,891 ลำ (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2015)[5] โดยลำแรกได้ถูกเปิดตัวที่โรงงานผลิตของแอร์บัสในตูลูสเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2014[6] และทำการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2014[7]
ลักษณะและการพัฒนา แก้ไข
เครื่องบินรุ่นเอ320นีโอ ได้ถูกนำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ล่าสุด และปลายปีกแบบครีบปลาฉลาม "ชาร์กเล็ต" ซึ่งทั้งองค์ประกอบนี้จะทำให้สามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 15 เปอร์เซนต์[8] โดยลำพังการใช้ปลายปีกแบบใหม่นี้สามารถทำให้ลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 3.5% ถึง 4% อันเนื่องมาจากการลดแรงต้านอากาศ และลมหมุนบริเวณปลายปีกได้
แอร์บัส เอ320นีโอ ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ของโครงสร้างคล้ายเคียงกับรุ่น เอ320 ในปัจจุบันอยู่ถึงกว่า 95% และกว่า 91% ในด้านชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ตัวโครงสร้างของเครื่องบินนั้นผลิตจากวัสดุผสม และมีปริมาณของอะลูมิเนียมอัลลอยด์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้มีน้ำหนักโดยรวมเบาลง และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดี นอกจากนี้ วัสดุแบบใหม่นี้จะช่วยลดจำนวนของชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องบิน ซึ่งจะทำลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงได้มากขึ้นด้วย[8][9]
ห้องโดยสาร แก้ไข
ห้องโดยสารบนแอร์บัส เอ320นีโอมีการนำเสนอรูปลักษณ์ใหม่ที่มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องฟอกอากาศใหม่, ตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากอากาศ และการตกแต่งห้องโดยสารด้วยไฟแอลอีดี[10] รวมถึงช่องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า
เครื่องยนต์ แก้ไข
ที่งานสิงคโปร์แอร์โชว์ ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 แอร์บัสมีการประกาศเครื่องบินรุ่นใหม่ที่จะปล่อยตัวที่งานฟาร์นโบโรห์แอร์โชว์ ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2010[11] ก่อนการประกาศอย่างเป็นทางการ แอร์บัสได้ประกาศแล้วว่าเครื่องยนต์ที่ใช้จะเป็น ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชันแนล ลีป -X และ แพตแอนด์วิตนีย์ PW1100G เครื่องยนต์ใหม่นี้จะใช้เชื้อเพลิงน้อยลง 16% และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์จะลดลง 30% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชันแนล ซีเอฟเอ็ม56 ที่ใช้ในรุ่นดั้งเดิม [12]
-
เครื่องยนต์ซีเอฟเอ็ม ลีป
-
เครื่องยนต์ PW1100G
ข้อได้เปรียบในการส่งมอบ แก้ไข
ตรงกันข้ามกับเครื่องบินรุ่นใหม่อื่นๆ ของผู้ผลิตรายอื่นๆ รวมทั้งเครื่องบินรุ่นโบอิง วาย และโบอิง 737 แม็กซ์ จากคู่แข่งรายใหญ่อย่างโบอิง โดยแอร์บัสสามารถผลิตและส่งมอบเครื่องบินรุ่น เอ 320นีโอ ได้ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2015 จากตารางเดิมซึ่งมีกำหนดส่งมอบราวไตรมาศที่สองของปีค.ศ. 2016[13] เที่ยวบินปฐมฤกษ์ได้เลื่อนมาเร็วขึ้นในเดือนกันยายน ค.ศ. 2014[14] โดยเนื่องมาจากการใช้ส่วนประกอบที่ร่วมกันกับแอร์บัส เอ 320 รุ่นปัจจุบันถึง 95% ซึ่งมีผลทำให้ลดการล่าช้าในการผลิตลงได้มาก[15]
รุ่น แก้ไข
แอร์บัสได้เพิ่มรุ่นย่อยของ เอ320 แบบที่มี "ตัวเลือกเครื่องยนต์แบบใหม่ (New Engine Option)" จำนวนสามรุ่นย่อย ได้แก่ เอ319 เอ320 และ เอ321 ซึ่งจะได้รับการพัฒนาในทิศทางเดียวกัน ในขณะที่ เอ318 นั้นยังไม่มีแผนการปรับปรุงในขณะนี้ แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
เอ319นีโอ แก้ไข
เอ319นีโอเป็นรุ่นลำตัวสั้นลงสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 160 คนหรือ 140 คนใน 2 ชั้นโดยสาร โดยมีพิสัยการบิน 3,750 ไมล์ทะเล (6,940 กม.) และประสิทธิภาพการบินที่ดีขึ้น ในขณะที่รุ่นเอซีเจ (แอร์บัสคอปอเรทเจ็ต) สามารถบรรทุกผู้โดยสาร 8 คนด้วยพิสัยการบิน 6,750 ไมล์ทะเล (12,500 กม.) หรือเวลาบินกว่า 15 ชั่วโมง[16]
ลูกค้าเปิดตัวของรุ่นเอ319นีโอในช่วงแรกคือกาตาร์แอร์เวย์ แต่สายการบินได้เปลี่ยนแปลงคำสั่งซื้อเป็นรุ่นเอ320นีโอ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในปลายปี ค.ศ. 2013[17] ทำให้ไม่มีผู้เปิดตัวรายใหม่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งสปิริตแอร์ไลน์ได้สั่งซื้อเครื่องบินเอ319นีโอใหม่จำนวน 47 ลำ[18][19] ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2022 ไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์รับมอบเอ-19 นีโอลำแรกและกลายเป็นลูกค้าเปิดตัวของรุ่น[20]
ความสนใจในรุ่นนี้ลดลง และในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 ยอดสั่งซื้อของเอ319นีโอ เป็นเพียงเศษเสี้ยวของเอ220 หลังจากการยืนยันคำสั่งซื้อจากเจ็ตบลูแอร์เวย์และมอกซี่ย์ สำหรับเอ220 จำนวน 60 ลำ[21] นอกจากนี้ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 แอร์บัสยืนยันว่า แม้ว่าคาดว่าจะมีคำสั่งซื้อน้อยลงเนื่องจากการแข่งขันกับเอ220-300 แอร์บัสก็ไม่มีแผนที่จะยุติการผลิตเอ319นีโอ[22]
เอ320นีโอ แก้ไข
เอ320นีโอ เป็นรุ่นแรกที่ขึ้นบินและเข้าประจำการ ด้วยน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 79 ตัน สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 165 คนในรูปแบบสองชั้นทั่วไป มีพิสัยการบิน 6,850 กิโลเมตร[23] จากข้อมูลของแอร์บัส เอ320นีโอนี้มีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิง 16% ต่อที่นั่ง และต้นทุนการดำเนินงานต่ำกว่า 25% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า[24] เครื่องบินรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับเครื่องบินโบอิง 737 แมกซ์ 8 ในขณะที่แทนที่เครื่องบินแอร์บัส เอ320ซีโอรุ่นก่อนหน้า
เอ320นีโอได้ทำการบินครั้งแรกในวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2014[25][26] ในปีค.ศ. 2016 ลุฟท์ฮันซ่าได้เป็นสายการบินแรกที่ได้รับมอบแอร์บัส เอ320นีโอ[27]
เอ321นีโอ แก้ไข
เอ321นีโอเป็นรุ่นที่ลำตัวยาว โดยมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จากรุ่นเอ321ซีอีโอ คือ เพิ่มความแข็งแรงบริเวณฐานล้อ และพื้นที่ปีก และการปรับปรุงเล็กน้อยอื่นๆ อันเนื่องมาจากน้ำหนักบรรทุกที่สูงขึ้น ILFC (International Lease Finance Corporation) เป็นลูกค้าที่เปิดตัวรายแรกของรุ่น โดยมีคู่แข่งสำคัญ คือ โบอิง 737 แมกซ์ 9 และ 737 แมกซ์ 10 สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว เอ 321นีโอ ได้รับคำสั่งซื้อมากกว่า[28][29]
เฉพาะในเดือนมกราคม ค.ศ. 2018 แอร์บัส เอ321นีโอ ได้รับคำสั่งซื้อ 1,920 ลำ ซึ่งมากกว่าคำสั่งซื้อสำหรับเอ32ซีอีโอรุ่นก่อนหน้า โดยเอ321นีโอมีคำสั่งซื้อคิดเป็น 32% ของคำสั่งซื้อตระกูลเอ320นีโอทั้งหมด ในขณะที่เอ321 ดั้งเดิมคิดเป็น 22% ของคำสั่งซื้อตระกูลเอ320ซีอีโอ ภายในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2022 เอ321นีโอมีคำสั่งซื้อคิดเป็นกว่า 53% ของคำสั่งซื้อในตระกูลเอ320นีโอทั้งหมด
เคบินเฟลกซ์ แก้ไข
แอร์บัสเคบินเฟลกซ์ (อังกฤษ: Airbus Cabin-Flex : ACF) คือรูปแบบการจัดเรียงห้องโดยสารใหม่บนแอร์บัส เอ321นีโอ ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนที่นั่งจาก 220 ที่นั่งเป็น 240 ที่นั่ง[30] ห้องโดยสารรูปแบบใหม่นี้จะไม่มีการติดตั้งประตูทางออกคู่หน้าปีก (R2/L2) และจะทดแทนด้วยทางออกฉุกเฉินบริเวณปีกอีกหนึ่งคู่ จากการออกแบบห้องโดยสารใหม่นี้ ประสิทธิภาพการเผาผลาญเชื้อเพลิงต่อที่นั่งจะเพิ่มขึ้น 6% และจะเพิ่มอีกมากกว่า 20% พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่และชาร์กเล็ต[31] การดัดแปลงเคบินเฟลกซ์จะส่งผลให้น้ำหนักโดยรวมเพิ่มขึ้น 100 กก.[32] โดยเริ่มแรกลำตัวเครื่องจะถูกสร้างออกมาในรูปแบบห้องโดยสารดั้งเดิมเหมือนกับเอ321 ซีอีโอ คือ มีการติดตั้งประตูทางออก 4 คู่ จนกว่าจะสามารถเลือกรูปแบบของแอร์บัสเคบินเฟลกซ์ได้[33]
-
เอ321นีโอ ของลากงปาญญีลำนี้ ไม่มีการติดตั้งทางออกฉุกเฉิน 2 ใน 4 และประตู R3/L3 (ที่นั่ง: 76, สูงสุด: 165)
-
เอ321นีโอ ของสตาร์ลักซ์แอร์ไลน์ลำนี้ มีการติดตั้งทางออกฉุกเฉินทั้ง 4 ประตู แต่ไม่มีการติดประตู R3/L3 (ที่นั่ง:188, สูงสุด: 195)[34]
-
เอ321นีโอ ของบริติชแอร์เวย์ลำนี้ มีการติดตั้งประตู R3/L3 แต่ไม่มีการติดตั้งทางออกฉุกเฉิน 2 ใน 4 (ที่นั่ง/สูงสุด: 220)
-
เอ321นีโอ ของเจ็ตบลูแอร์เวย์ลำนี้ มีการติดตั้งทางออกทั้ง 10 ประตูของเคบินเฟลกซ์ (ที่นั่ง: 200, สูงสุด: 244)[35]
เอ 321 แอลอาร์ แก้ไข
ในเดือนตุลาคม ค.ศ.2014 แอร์บัสเริ่มพัฒนารุ่นย่อยของแอร์บัส เอ321นีโอ ซึ่งจะมีน้ำหนักขึ้นบินสูงสุด 97 ตัน (214,000 ปอนด์) ด้วยที่นั่งสูงสุด 164 ที่นั่ง พร้อมถังเชื้อเพลิงเสริมสามถัง โดยมีชื่อว่าแอร์บัส เอ321 แอลอาร์ (LR : Long Range) เอ321 แอลอาร์นี้มีพิสัยการบินมากกว่า 100 ไมล์ทะเล (190 กม.; 120 ไมล์) ซึ่งมากกว่าโบอิง 757- 200 และยังมีต้นทุนการเดินทางและต้นทุนต่อที่นั่งต่ำกว่าโบอิง 757-200 ถึง 27% และ 24% ตามลำดับ โดยมีกำหนดเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี ค.ศ. 2018 สองปีหลังจาก เอ321 นีโอ[36]
อาร์เคียร์ได้รับแอร์บัส เอ321 แอลอาร์ลำแรกในวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 ซึ่งบรรจุที่นั่ง 220 ที่นั่ง โดยสายการบินได้นำเครื่องบินนี้ไปให้บริการเที่ยวบินจากเทลอาวีฟไปลอนดอน นอกจากนี้แล้ว ยังมีสายการบินอื่นๆได้นำเอ 321 แอลอาร์ไปให้บริการบนเที่ยวบินระยะไกล เช่น เจ็ตบลูแอร์เวย์ใช้เอ321 แอลอาร์ในการบินเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปยังดับลิน ประเทศไอร์แลนด์[37] หรือแอร์อัสตานาได้นำเครื่องบินรุ่นนี้มาให้บริการเที่ยวบินจากอัสตานามายังกรุงเทพมหานคร[38]
เอ321 เอกซ์แอลอาร์ แก้ไข
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2018 แอร์บัสระบุว่ากำลังศึกษารุ่นเอ321 แอลอาร์ที่มีน้ำหนักขึ้นบินสูงสุดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งต้องการล้อลงจอดที่แข็งแรงขึ้น ด้วยห้องโดยสารที่มีความหนาแน่นผู้โดยสารต่ำ คาดว่าจะมีพิสัยการบินประมาณ 5,000 ไมล์ทะเล (9,300 กม.)[39] โดยได้มีแผนที่จะเริ่มพัฒนาโครงการในปี ค.ศ. 2019 และจะเริ่มให้บริการในปี ค.ศ. 2021 - 2022 ถังเชื้อเพลิงกลางจะถูกขยายให้ใหญ่ขึ้น โดยจะติดตั้งรวมกับลำตัวเครื่องบิน ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2018 ได้มีการขยายพิสัยการบินเพิ่มเติมประมาณ 200 - 300 ไมล์ทะเล[40]
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2018 เอ321 เอกซ์แอลอาร์ได้รับการเสนอไปยังแอร์ทรานแซทและแอร์แคป โดยแอร์ทรานแซทสามารถเข้าถึงจุดหมายปลายทางของยุโรปใต้ เช่น สปลิต โครเอเชีย จากมอนทรีออลและโตรอนโตจากเอ -21 เอกซ์แอลอาร์ได้[41] ในเดือนพฤศจิกายน แอร์บัสระบุว่าเอ321 เอกซ์แอลอาร์ จะมีน้ำหนักขึ้นบินสูงสุดมากกว่า 100 ตัน (220,000 ปอนด์) และมีพิสัยการบิน 700 ไมล์ทะเล (1,300 กม.) โดยพิสัยมากกว่าเอ321 แอลอาร์ที่มีปีกและเครื่องยนต์เดียวกัน[42] ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 แอร์แคนาดาแสดงความสนใจที่จะใช้เครื่องบินลำตัวแคบสำหรับเส้นทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก และกำลังพิจารณาหาตัวเลือกต่างๆ รวมถึงแอร์บัส เอ321 เอกซ์แอลอาร์ และโบอิง 737 แมกซ์[43]
แอร์บัสคอร์ปอเรทเจ็ต แก้ไข
เครื่องบินไอพ่นสำหรับองค์กรของแอร์บัสมีให้บริการ 2 รุ่น ได้แก่ เอซีเจ319นีโอ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารได้ 8 คนด้วยพิสัยการบิน 6,750 ไมล์ทะเล (12,500 กม.) และ เอซีเจ320นีโอ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารได้ 25 คนในระยะทางสูงสุด 6,000 ไมล์ทะเล (11,000 กม.)[44] CFM LEAP หรือ Pratt & Whitney PW1100G การเผาผลาญเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่าให้ช่วงเพิ่มเติมพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่ลดลงในขณะที่ความสูงของห้องโดยสารไม่เกิน 6,400 ฟุต (2,000 ม.)ความจุเชื้อเพลิง ACJ319neo มีถังกลาง (ACT) เพิ่มสูงสุดห้าถัง
เอซีเจ320นีโอลำแรกส่งมอบในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 โดยกำหนดการส่งมอบเอซีเจ319นีโอ คาดว่าจะเริ่มในอีกไม่กี่เดือนต่อมา[45] เมื่อวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 2019 เครื่องบินแอร์บัส เอซีเจ319 นีโอ เสร็จสิ้นการบินครั้งแรก ก่อนทำการทดสอบช่วงสั้นๆ และส่งมอบเครื่องบินให้กับเคไฟว์เอวิเอชั่นในเวลาต่อมา[46]
ผู้ให้บริการ แก้ไข
ณ เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2022 เครื่องบินตระกูลเอ320 นีโอจำนวน 2,374 ลำเข้าประจำการโดยมีผู้ให้บริการ 127 ราย โดย 85 รายใช้เครื่องยนต์ซีเอฟเอ็ม และอีก 42 รายใช้เครื่องยนต์แพตแอนด์พิตนีย์ ลำ[47] ผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดห้าราย ได้แก่ อินดิโก (216), ไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ (95), ฟรอนเทียร์แอร์ไลน์ (80), ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ (76) และอีซี่ย์เจ็ต (59)
คำสั่งซื้อและการส่งมอบ แก้ไข
ณ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022 มีคำสั่งซื้อเครื่องบินตระกูลเอ320นีโอ จำนวน 8,659 ลำโดยลูกค้า 130 ราย โดยในจำนวนนี้มีการส่งมอบเครื่องบินจำนวน 2,463 ลำ
คำสั่งซื้อ | การส่งมอบ | |
เอ319 นีโอ | 85 | 10 |
เอ320 นีโอ | 3978 | 1591 |
เอ321 นีโอ | 4956 | 862 |
รวม | 8659 | 2463 |
2010 | 2011 | 2012 | 2013 | 2014 | 2015 | 2016 | 2017 | 2018 | 2019 | 2020 | 2021 | 2022 | รวม | ||
คำสั่งซื้อ | เอ319 นีโอ | – | 26 | 19 | – | 2 | 1 | 5 | (-21) | 22 | (-18) | 48 | -8 | 15 | 85 |
เอ320 นีโอ | 30 | 1081 | 378 | 387 | 824 | 540 | 269 | 416 | 149 | -295 | 14 | -164 | 232 | 3978 | |
เอ321 นีโอ | – | 119 | 81 | 341 | 183 | 346 | 287 | 532 | 360 | 965 | 208 | 616 | 517 | 4596 | |
รวม | 30 | 1226 | 478 | 728 | 1009 | 887 | 561 | 926 | 531 | 652 | 263 | 444 | 764 | 8659 | |
การส่งมอบ | เอ319 นีโอ | – | – | – | – | – | – | – | – | – | 2 | – | 2 | 6 | 10 |
เอ320 นีโอ | – | – | – | – | – | – | 68 | 161 | 284 | 391 | 253 | 258 | 186 | 1591 | |
เอ321 นีโอ | – | – | – | – | – | – | – | 20 | 102 | 168 | 178 | 199 | 195 | 862 | |
รวม | – | – | – | – | – | – | 68 | 181 | 386 | 561 | 431 | 459 | 387 | 2463 |
อุบัติเหตุและอุบัติการณ์ แก้ไข
ณ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022 เครื่องบินตระกูลแอร์บัส เอ320 นีโอเคยประสบอุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์ที่มีการสูญเสียเครื่องบินไป 1 ครั้ง
- 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022: ลาตัม เปรู เที่ยวบินที่ 2213 เครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ได้ชนเข้ากับรถดับเพลิงของท่าอากาศยานขณะกำลังขึ้นบินจากลิมา ประเทศเปรู นักผจญเพลิงเสียชีวิต 2 รายและได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เครื่องบินถูกปลดไปในภายหลัง[48][49]
ข้อมูลจำเพาะ แก้ไข
รุ่น | เอ319 นีโอ | เอ320 นีโอ | เอ321 นีโอ |
---|---|---|---|
นักบิน | 2 | ||
ความจุที่นั่งสูงสุด (2 ชั้น) | 140 | 165 | 206: 16J @36 in + 190Y @30 in[55] |
ความจุที่นั่งสูงสุด (1 ชั้น) | 160 | 195 @ 27 in[56] | 244[57][58] |
ความกว้างที่นั่ง | ชั้นประหยัด 6 ที่นั่ง/แถว: 18 นิ้ว (16 ซม.), ความกว้างห้องโดยสาร 3.7 ม. (12 ฟุต 2 นิ้ว) , ชั้นธุรกิจ 4 ที่นั่ง/แถว | ||
ความจุสินค้า | 27 m3 (950 cu ft) | 37 m3 (1,300 cu ft) | 51 m3 (1,800 cu ft) |
ความยาว | 33.84 m (111.0 ft) | 37.57 m (123 ft 3 in) | 44.51 m (146.0 ft) |
พื้นที่ปีก | 35.80 m (117 ft 5 in) | ||
ความสูง | 11.76 m (38 ft 7 in) | ||
น้ำหนักขึ้นบินสูงสุด | 75.5 t (166,400 lb) | 79 t (174,200 lb) | 97 t (213,800 lb) |
น้ำหนักสูงสุด | 17.7 t (39,000 lb)[59]:page 3-2-1 | 20 t (44,100 lb)[60]:page 3-2-1 | 25.5 t (56,200 lb)[61]:page 3-2-1 |
น้ำหนักขึ้นบินต่ำสุด | 42.6 t (93,900 lb) | 44.3 t (97,700 lb) | 50.1 t (110,500 lb) |
น้ำหนักเครื่องเปล่า | 40.3–40.6 t (89,000–90,000 lb) | 46.3–46.6 t (102,000–103,000 lb) | |
ความจุเชื้อเพลิง | 29,659 L (7,835 USg) | 32,853 L (8,679 USg) | |
เครื่องยนต์ x2 | ซีเอฟเอ็ม อินเตอรเนชันแนล ลีป1A หรือ แพตแอนด์วิทนีย์ พีดับเบิลยู1100จี [51] | ||
ความเร่งสูงสุด | 107 kN (24,100 lbf)[62][63] | 120.6 kN (27,120 lbf) | 147.3 kN (33,110 lbf) |
ความเร็ว | ความสูงเดินทาง: มัค 0.78,[51] สูงสุด: มัค 0.82 | ||
เพดานบิน | 39,100–39,800 ft (11,900–12,100 m) | ||
พิสัยการบิน | 6,950 km / 3,750 nmi | 6,500 km / 3,500 nmi | 6,760 km / 3,650 nmi
เอ321 แอลอาร์: 7,400 km / 4,000 nmi เอ321 เอกซ์แอลอาร์: 8,700 km/ 4,700 nmi |
ระยะทางขึ้นบิน | 1,951 m (6,400 ft) [64] | 1,988 m (6,522 ft)[65] | |
รหัส ICAO[66] | A19N | A20N | A21N |
เครื่องบินที่ใกล้เคียงกัน แก้ไข
รุ่นที่ใกล้เคียงกัน แก้ไข
เครื่องบินที่ใกล้เคียงกัน แก้ไข
อ้างอิง แก้ไข
- ↑ 1.0 1.1 1.2 "New Airbus aircraft list prices for 2015". airbus.com. Airbus. สืบค้นเมื่อ 8 March 2015.
- ↑ "Pictures: Airbus aims to thwart Boeing's narrowbody plans with upgraded 'A320 Enhanced'". Flight International. 2006-06-20. สืบค้นเมื่อ 2013-07-08.
- ↑ "Avianca takes delivery of Sharklet equipped A320". Airbus.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-04-17. สืบค้นเมื่อ 2013-03-27.
- ↑ "A320neo family information, Maximum benefit and minimum change". Airbus.com. 2011-07-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-03-03. สืบค้นเมื่อ 2011-12-30.
- ↑ "Airbus Orders & deliveries spreadsheet". Airbus S.A.S. 31 May 2015. สืบค้นเมื่อ 4 June 2015.
- ↑ "PICTURE: Airbus rolls out A320neo". flightglobal.com. 2014-07-01. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.
- ↑ "A320neo makes maiden flight". www.flightglobal.com. Flightglobal. 25 September 2014.
- ↑ 8.0 8.1 "Transaero Airlines firms up order for eight A320neo aircraft". Airbus.com. 2011-12-05. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-06. สืบค้นเมื่อ 2011-12-29.
- ↑ "Airbus A320neo information technology". 2011-08-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-03. สืบค้นเมื่อ 2011-12-30.
- ↑ "On board well-being" เก็บถาวร 2013-03-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน . Airbus . Retrieved October 19, 2015 . Copy filed March 3, 2013
- ↑ Kingsley-Jones2010-02-04T10:04:00+00:00, Max. "SINGAPORE 2010: Airbus targets early A320 re-engining decision, 2015 debut". Flight Global (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ Hamilton2010-08-23T11:30:00+01:00, Scott. "A320 NEO to have $7-8 million price premium". Flight Global (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ Airbus accelerates A320neo programme เก็บถาวร 2016-08-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Asian Aviation
- ↑ Airbus’ first A320neo reaches completion Airbus
- ↑ Airbus A320NEO Enters FAL (MSN6101) Theflyingengineer
- ↑ "A319neo with CFM LEAP-1A engines wins joint Type Certification from FAA and EASA | Airbus". www.airbus.com (ภาษาอังกฤษ). 2021-10-28.
- ↑ Hamilton, Scott (2013-12-31). "Qatar swaps A319neo to A320neo; just 29-39 orders remain". Leeham News and Analysis (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Finlay, Mark (2020-07-25). "Which Airlines Have Ordered The Airbus A319neo?". Simple Flying (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Singh, Jay (2020-11-07). "Spirit Airlines Rare Airbus A319neo Order: What We Know So Far". Simple Flying (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Joshi, Gaurav (2022-03-11). "China Southern Operates The World's 1st Passenger Airbus A319neo Flight". Simple Flying (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Kaminski-Morrow2019-01-04T10:01:50+00:00, David. "New A220 orders eclipse total A319neo sales". Flight Global (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Airbus A320, A220 Evolution Considered As Mobile Expands | Aviation Week Network". aviationweek.com.
- ↑ Hamilton, Scott (2015-04-06). "Pontifications: Meet the "A320neo MAX 195"". Leeham News and Analysis (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ "Airbus Sees A321neo Exceeding 20% Fuel Burn Improvement" . AviationWeek . June 12, 2014
- ↑ 2014-09-25T11:55:00+01:00. "PICTURE: A320neo makes maiden flight". Flight Global (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ Kaminski-Morrow2014-07-01T12:59:00+01:00, David. "PICTURE: Airbus rolls out A320neo". Flight Global (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Lufthansa takes delivery of the world's first Airbus A320neo as launching customer" เก็บถาวร 2016-06-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (Press release). Airbus. February 12, 2016
- ↑ Airbus wins hot Wizz competition: 110 A321neos and with it the Paris Air Show Leeham
- ↑ Airbus switches underline trend to A321neo Flightglobal
- ↑ Curran, Andrew (2022-01-31). "What Is The Airbus A321neo's 'Cabin Flex' Configuration?". Simple Flying (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ "Airbus Sees A321neo Exceeding 20% Fuel Burn Improvement". AviationWeek. 12 June 2014. Archived from the original on 14 July 2014. Retrieved 13 July 2014.
- ↑ "Airbus Launches Long-Range A321neo Version | Aviation Week Network". web.archive.org. 2020-07-29. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-07-29. สืบค้นเมื่อ 2022-11-18.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ Fehrm, Bjorn (2015-01-19). "A321neo configurations and A320 production". Leeham News and Analysis (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Kirby, Mary (2016-08-18). "Airbus explains how Cabin-Flex enables dense A321neo layouts". Runway Girl (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Kirby, Mary (2016-08-18). "Airbus explains how Cabin-Flex enables dense A321neo layouts". Runway Girl (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Hamilton, Scott (2014-10-21). "Exclusive: Airbus launches "A321neoLR" long range to replace 757-200W". Leeham News and Analysis (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Pickett, Riley (2022-08-24). "Why JetBlue Could Be Eyeing Non-Stop Flights To Dublin". Simple Flying (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Pickett, Riley (2022-08-24). "Why JetBlue Could Be Eyeing Non-Stop Flights To Dublin". Simple Flying (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ "Airbus Studying Higher-Capacity A321neo | Aviation Week Network". aviationweek.com.
- ↑ "Business Aviation 2000-03-20 | Aviation Week Network". aviationweek.com.
- ↑ "Air Transat considers Airbus A321XLR for longer routes". Airlinerwatch. 12 October 2018. Archived from the original on 6 March 2020.
- ↑ Kaminski-Morrow2018-11-13T13:01:53+00:00, David. "Airbus indicates A321XLR would have over 100t MTOW". Flight Global (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Air Canada would study Airbus, Boeing for transatlantic narrowbody needs". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2019-01-14. สืบค้นเมื่อ 2022-11-18.
- ↑ "ACJneo". web.archive.org. 2018-06-30. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-30. สืบค้นเมื่อ 2022-11-18.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ Leeuwen, Marcel van (2019-01-17). "Acropolis Aviation takes delivery of 1st ACJ320neo AVIATION NEWS International Aviation News, Airshow reports, Aircraft facts, worlds largest Aviation Museum database. Civillian, Military & Space, We cover it All". AVIATION NEWS (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ "ACJ319neo makes successful first flight | Airbus". www.airbus.com (ภาษาอังกฤษ). 2021-10-28.
- ↑ "A320 FAMILY: the most successful aircraft family ever" (PDF). Airbus. 1 July 2022.
- ↑ Souza, Lukas (2022-11-18). "Breaking News: LATAM Airlines Airbus A320neo Collides With Truck In Lima". Simple Flying (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Aquino, Marco (2022-11-19). "LATAM Airlines plane crashes on Peruvian runway, two firefighters dead". Reuters (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-11-19.
- ↑ "Airbus Family figures" (PDF). Airbus. July 2017. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 18 February 2018. สืบค้นเมื่อ 31 March 2018.
- ↑ 51.0 51.1 51.2 "Airbus A320neo Technology". Airbus. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 April 2016.
- ↑ "Airbus A319/A319neo Airport data" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-10-10. สืบค้นเมื่อ 2015-09-01.
- ↑ Airbus A320/A320neo Airport data เก็บถาวร 2015-04-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Airbus
- ↑ Airbus A321/A321neo Airport data เก็บถาวร 2014-07-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Airbus
- ↑ "Airbus Launches Long-Range A321neo Version". Aviation Week. 13 Jan 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 July 2020.
- ↑ "Meet the "A320neo MAX 195". Leeham News. 6 April 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 August 2020. สืบค้นเมื่อ 8 April 2015.
- ↑ "Type certificate Data sheet for Airbus A318 – A319 – A320 – A321" (PDF). EASA. May 2021. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 16 May 2021. สืบค้นเมื่อ 16 May 2021.
- ↑ "Airbus Family figures June 2020" (PDF). Airbus. June 2020. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2019. สืบค้นเมื่อ 16 May 2021.
- ↑ "A319 aircraft characteristics: Airport and maintenance planning" (PDF). Airbus. กุมภาพันธ์ 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 19 มิถุนายน 2018. สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน 2018.
- ↑ "A320 aircraft characteristics: Airport and maintenance planning" (PDF). Airbus. กุมภาพันธ์ 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 18 มิถุนายน 2018. สืบค้นเมื่อ 5 มิถุนายน 2018.
- ↑ "A321 aircraft characteristics: Airport and maintenance planning" (PDF). Airbus. กุมภาพันธ์ 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 18 มิถุนายน 2018. สืบค้นเมื่อ 5 มิถุนายน 2018.
- ↑ "Type Certificate data sheet for PW1100G-JM Series Engines" (PDF). EASA. 23 November 2015. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 October 2016. สืบค้นเมื่อ 28 April 2016.
- ↑ "Type Certificate data sheet for LEAP-1A & LEAP-1C Series Engines" (PDF). EASA. 21 ธันวาคม 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 23 ธันวาคม 2016.
- ↑ "AIRBUS A320 Aircraft Characteristics Airport and Maintenance Planning" (PDF). www.airbus.com. 1 Dec 2018. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 22 April 2019. สืบค้นเมื่อ 23 April 2019.
- ↑ Mike Gerzanics (26 May 2017). "Flight test: A321neo stretches its legs". Flight Global. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 December 2018. สืบค้นเมื่อ 5 June 2017.
- ↑ "DOC 8643 – Aircraft Type Designators". ICAO. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 July 2017. สืบค้นเมื่อ 5 June 2017.