สโมสรฟุตบอลซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ
สโมสรฟุตบอลซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ เป็นอดีตสโมสรฟุตบอลในจังหวัดสมุทรปราการ เคยลงเล่นในระดับ ไทยลีก และเคยได้สิทธิ์ทำการแข่งขัน เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2544/45 และปี พ.ศ. 2550 ในการแข่งขัน เอเอฟซีคัพ และเป็นทีมที่มีผลการแข่งขันแพ้ต่อเนื่องมากที่สุดในไทยลีกนานถึง 27 นัด เมื่อฤดูกาล 2560[2]
![]() | ||||
ชื่อเต็ม | สโมสรฟุตบอลซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ | |||
---|---|---|---|---|
ฉายา | พลังเอ็ม | |||
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2514[1] (ในนาม สโมสรโอสถสภา) พ.ศ. 2553 (ในนามสโมสรโอสถสภา เอ็ม 150 - สระบุรี) พ.ศ. 2559 (ในนามสโมสรซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ) | |||
ยุบ | 2560 (เป็น จัมปาศรี ยูไนเต็ด) | |||
สนาม | สนามกีฬา กกท. บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ | |||
ความจุ | 4,100 คน | |||
หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนสุดท้าย | สุขสันต์ คุณสุทธิ์ | |||
ฤดูกาลสุดท้าย 2560 | อันดับที่ 18 (ตกชั้นจาก ไทยลีก) | |||
|
ประวัติสโมสรแก้ไข
เริ่มก่อตั้งสโมสรขึ้นในปี พ.ศ. 2514 ในนาม สโมสรโอสถสภา โดยก่อตั้งพร้อมกับสโมสรกีฬาต่างๆ ของ บริษัท โอสถสภา จำกัด[3] โดยเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของพนักงานของบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยที่ทำงานอยู่ โดยสามารถคว้าแชมป์การแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ควีนสคัพ ได้ 3 ติดต่อกัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ถึง พ.ศ. 2547 และชนะเลิศการแข่งขัน ถ้วยพระราชทาน ก. ได้ 2 สมัย
ต่อมาสโมสรฟุตบอลโอสถสภาได้เปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลโอสถสภา เอ็ม-150 โดยมีผู้สนับสนุนอย่าง เครื่องดื่มเอ็ม-150 เป็นผู้สนับสนุนหลัก ต่อมาทางสโมสรฯก็ได้พยายามสร้างฐานแฟนบอลใหม่ในเขตนอกกรุงเทพมหานคร เช่น ร่วมมือกับทาง อบจ. สระบุรี[4] ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ถึง พ.ศ. 2556 และพร้อมกับเปลื่ยนชื่อสโมสรเป็น สโมสรฟุตบอลโอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี ต่อมา ในปี พ.ศ. 2557 จึงย้ายสนามมาเล่นใน ราชมังคลากีฬาสถาน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2559 สโมสรได้ย้ายที่ตั้งและสนามเหย้ามาที่ สนามกีฬาการกีฬาแห่งประเทศไทย บางพลี[5] และได้ร่วมมือกับทาง อบจ.สมุทรปราการ โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทีมอย่างเป็นระบบ ทั้งด้านบุคลากร และด้านการบริหาร เพื่อยกระดับทีม ให้ก้าวสู่มาตรฐานการแข่งขันฟุตบอลระดับสากล ตามกระแสความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ทางโอสถสภาได้โอนสิทธิ์การทำทีมให้กับทาง บริษัทซุปเปอร์พาวเวอร์และได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ โดยทางโอสถสภาจะเป็นเพียงสปอนเซอร์ให้กับทีมเท่านั้น
ในปี พ.ศ. 2560 ทีมจัมปาศรี ยูไนเต็ด ได้ซื้อสิทธิ์การทำทีมมาจาก ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560 และได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ จ.มหาสารคาม[6] แต่ปรากฏว่าในเวลาต่อมาสโมสรไม่ผ่านคลับไลเซนซิ่งทำให้ไม่สามารถเตะใน ไทยลีก 2 (เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ) ฤดูกาล 2018 ได้[7]
สัญลักษณ์สโมสรแก้ไข
สนามเหย้าแก้ไข
สโมสรฟุตบอลเอ็มพาวเวอร์ สมุทรปราการ มีสนามเหย้าใหม่คือ เอ็มพาวเวอร์สเตเดียม ย้ายมาจาก สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นสนามเหย้าแทบทั้งฤดูกาล เนื่องจาก สโมสรฟุตบอลสระบุรี ได้เลื่อนชั้นขึ้นมา และตามกฎห้ามทีมในระดับไทยพรีเมียร์ลีกใช้สนามเหย้าร่วมกัน
เอ็มพาวเวอร์สเตเดียม เป็นสนามของการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดสมุทรปราการ โดยทางโอสถสภาได้ร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อทำสนามใหม่ และพัฒนาเมืองสมุทรปราการให้เป็นเมืองกีฬา[8]
หลังจากที่ซุปเปอร์ พาวเวอร์ยุบทีมไป เอ็มพาวเวอร์สเตเดียมก็ได้ถูกใช้งานเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ซิตี้ โดยเปลี่ยนชื่อสนามเป็น “สมุทรปราการสเตเดียม”
ผู้เล่นแก้ไข
ผู้เล่นชุดสุดท้ายของสโมสรแก้ไข
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนแก้ไข
- ชัชชัย พหลแพทย์ (2539 – 2549)
- อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ (2550 – 2552)
- ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก (2553 – พฤษภาคม 2556)
- เฉลิมวุฒิ สง่าพล (มิถุนายน 2556 – มิถุนายน 2557)
- สเตฟาโน คูกูรา (2557 – 2558)
- กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์ (2558)
- สมชาย ทรัพย์เพิ่ม (2558 – 2559)
- ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก (2559)
- เฉลิมวุฒิ สง่าพล (ธันวาคม 2559 – มีนาคม 2560)
- เจสัน วิธ (มีนาคม 2560 – พฤษภาคม 2560)
- อภิสิทธิ์ ไข่แก้ว (พฤษภาคม 2560 – กันยายน 2560)
- สุขสันต์ คุณสุทธิ์ (กันยายน 2560 – พฤศจิกายน 2560)
ผลงานแก้ไข
ทีมชุดใหญ่แก้ไข
- ไทยลีก - สูงสุดอันดับ 2 - 2544/45, 2549
- ไทยลีกคัพ - ชนะเลิศ 1 ครั้ง - 2533 (ในนามทีมกรุงเทพมหานคร)
- ควีนส์คัพ - ชนะเลิศ 3 ครั้ง - 2545, 2546, 2547
- ถ้วย ก - ชนะเลิศ 2 ครั้ง - 2544, 2549
ทีมชุดเยาวชนแก้ไข
- เยาวชนควีนส์คัพ - ชนะเลิศ 2 ครั้ง - 2543, 2545[9]
ผลงานที่ดีสุดในระดับเอเชียแก้ไข
- เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก - รอบแรก (ฤดูกาล 2002/03)
- เอเอฟซีคัพ - รอบแรก (ฤดูกาล 2007)
ผลงานในลีกแก้ไข
- 2541 - ไทยลีก - อันดับ 10
- 2542 - ไทยลีก - อันดับ 4
- 2543 - ไทยลีก - อันดับ 8
- 2544/45 - ไทยลีก - อันดับ 2
- 2545/46 - ไทยลีก - อันดับ 6
- 2546/47 - ไทยลีก - อันดับ 3
- 2547/48 - ไทยลีก - อันดับ 3
- 2549 - ไทยลีก - อันดับ 2
- 2550 - ไทยลีก - อันดับ 9
- 2551 - ไทยลีก - อันดับ 4
- 2552 - ไทยลีก - อันดับ 5
- 2553 - ไทยลีก - อันดับ 7
- 2554 - ไทยลีก - อันดับ 6
- 2555 - ไทยลีก - อันดับ 5
- 2556 - ไทยลีก - อันดับ 8
- 2557 - ไทยลีก - อันดับ 11
- 2558 - ไทยลีก - อันดับ 11
- 2559 - ไทยลีก - อันดับ 15
- 2560 - ไทยลีก - อันดับ 18 (ตกชั้นสู่ไทยลีก 2)
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ https://web.archive.org/web/20030803202531/http://www.siamsport.com/thaileague/team_osotsapa.html Thai League 2002-03 สโมสรโอสถสภา - สยามกีฬา
- ↑ Finally a win for Super Power - Bangkok Post
- ↑ https://web.archive.org/web/20030803202531/http://www.siamsport.com/thaileague/team_osotsapa.html Thai League 2002-03 สโมสรโอสถสภา - สยามกีฬา
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2013-08-22. สืบค้นเมื่อ 2017-05-03.
- ↑ เปิดตำนาน!!พลังเอ็มกับสนามบางพลี หยุดสักทีกับชีวิตพเนจร - SMMSPORT
- ↑ 9 ปี 4 จังหวัด ตำนานโอสถสภา ย้ายถิ่นสู่สารคาม
- ↑ เหลือ15ทีม!"จัมปาศรี"ไม่ผ่านคลับไลเซนซิ่งลุยไทยลีก2[ลิงก์เสีย]
- ↑ ""พลังเอ็ม" เตรียมใช้ "เทพหัสดิน" เป็นรังเหย้าปีหน้า". ผู้จัดการออนไลน์. 7 November 2014. สืบค้นเมื่อ 9 November 2014.
- ↑ https://web.archive.org/web/20040123004800/http://ofc.osotspa.co.th/ เว็บไซต์เก่าสโมสรโอสถสภา