ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน (อังกฤษ: Phaholyothin Transportation Center) เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่บริการรถไฟ (Transit Oriented Development; TOD) และอสังหาริมทรัพย์แบบประสมโดยรอบสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ บนที่ดินรวม 2,325 ไร่ (919.23 เอเคอร์) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ มีแนวอาณาเขตตั้งแต่ถนนเทอดดำริ ถนนกำแพงเพชร 5 ถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี-รังสิต ตลอดจนพื้นที่ของสวนวชิรเบญจทัศ สวนจตุจักร อาคารเอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (สำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัท ปตท.) และศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยรัฐบาลไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทยตั้งเป้าให้ศูนย์คมนาคมแห่งนี้เป็นศูนย์กลางทางการเดินทางทางรางแห่งใหม่ของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจครบวงจร และสมาร์ทซิตี้ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ประวัติ
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
รูปแบบการพัฒนา
แก้ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน ได้แบ่งการดำเนินงานออกเป็นทั้งหมด 3 ระยะ และแยกพัฒนาเป็น 10 โครงการ[1] โดยไม่รวมพื้นที่ของสวนวชิรเบญจทัศ สวนจตุจักร อาคารเอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยคาดว่าจะพัฒนาแล้วเสร็จทุกระยะภายในปี พ.ศ. 2575 โดยทั้ง 10 โครงการประกอบไปด้วย
- สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือในชื่อเดิม สถานีกลางบางซื่อ ตั้งเป้าเป็นสถานีรถไฟกรุงเทพแห่งใหม่ ที่จะเป็นศูนย์รวมทุกการเดินทางของระบบขนส่งมวลชนทางรางและรถไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดในอาเซียน
- แปลง A (ทางทิศใต้ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์) พัฒนาเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบประสม
- แปลง B (ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ติดกับตลาดนัดจตุจักรเดิม) พัฒนาเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจระดับอาเซียน
- แปลง C (สถานีขนส่งหมอชิต 2 ในปัจจุบัน) พัฒนาเป็นศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมระดับนานาชาติ ตลอดจนศูนย์รวมการแสดงความบันเทิงครบวงจร
- แปลง D (ตลาดนัดจตุจักรเดิม) พัฒนาเป็นศูนย์กลางทางการค้าครบวงจร และสะพานเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนตามแนวถนนพหลโยธิน (สถานีหมอชิต และสถานีสวนจตุจักร)
- แปลง E (ย่านตึกแดง) พัฒนาเป็นศูนย์ราชการ และที่ทำการแห่งใหม่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
- แปลง F (ด้านหลังสถานีขนส่งหมอชิต 2 ติดกับถนนเทอดดำริ) พัฒนาเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่
- แปลง G (ย่าน กม. 11) พัฒนาเป็นย่านที่พักอาศัย และห้องพักอาศัยของพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย
- แปลง H (ทางทิศตะวันออกของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์) พัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบประสม
- แปลง I (สถานีขนส่งหมอชิต 2 ในปัจจุบัน) พัฒนาเป็นย่านที่พักอาศัย
ลำดับการพัฒนา
แก้การพัฒนาโครงการทั้งหมด การรถไฟแห่งประเทศไทยจะแบ่งการดำเนินงานออกเป็นส่วน ๆ และใช้วิธีการร่วมพัฒนาโครงการในรูปแบบของความร่วมมือระหว่างภาครัฐฯ และเอกชน (PPP) ด้วยการแยกประมูลออกเป็นแต่ละแปลงตามความสามารถของเอกชนที่สนใจเข้าร่วมพัฒนาโครงการ โดยเริ่มจากการพัฒนาศูนย์กลางทางธุรกิจและโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบประสมในแปลง A เป็นลำดับแรก แล้วจะพัฒนาต่อในแปลง B, C, และ D และพัฒนาต่อเนื่องจนครบทั้งโครงการภายใน พ.ศ. 2575
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
แก้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือในชื่อเดิม สถานีกลางบางซื่อ เป็นโครงการก่อสร้างสถานีรถไฟหลักของประเทศไทย เพื่อทดแทนสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ตั้งอยู่ในแขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2556 พร้อมกับโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม ด้วยพื้นที่ใช้งานภายในอาคารกว่า 259,000 ตารางเมตร ทำให้สถานีรถไฟแห่งนี้จะเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะเป็นสถานีรถไฟที่มีจำนวนชานชาลามากเป็นอันดับ 6 ของโลกควบคู่กับสถานีรถไฟกลางซูริก โดยในระยะแรกจะให้บริการใน 8 เส้นทาง โดยเป็นระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเร็ว 4 สายและรถไฟทางไกลอีก 4 สาย และในอนาคตมีแผนที่จะให้บริการรถไฟความเร็วสูงโดยใช้สถานีนี้เป็นสถานีต้นทาง
สถานีขนส่งกลางกรุงเทพมหานคร และที่ทำการการรถไฟแห่งประเทศไทย (แปลง A)
แก้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดขายเอกสารสำหรับยื่นข้อเสนอเข้าร่วมพัฒนาโครงการบนพื้นที่แปลง A ขนาด 32 ไร่ มีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 11,500 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2562 - 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 โดยมีเอกชนเข้าซื้อซองพัฒนาโครงการ 4 ราย[2] ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน), บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ Urban Renaissance Agency จากประเทศญี่ปุ่น แต่ในการยื่นซองเข้าประมูลเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 กลับไม่มีเอกชนรายใดเข้าประมูล เนื่องจากเป็นกังวลว่าโครงการจะดึงคนได้ไม่ถึงเป้าที่กำหนดไว้ เพราะตามมติบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทยครั้งล่าสุด สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์จะมีเพียงรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงใช้งานเพียงสายเดียว จึงทำให้ตัวแปรเรื่องผู้โดยสารผันเปลี่ยนไป
ต่อมาใน พ.ศ. 2568 รัฐบาลไทยมีแนวคิดที่จะย้ายสถานีขนส่งทั้งหมด อันได้แก่สถานีขนส่งเอกมัย สถานีขนส่งตลิ่งชัน และสถานีขนส่งจตุจักร 2 (หมอชิต 2) มาตั้งอยู่ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เพียงแห่งเดียว เพื่อให้สถานีขนส่งแห่งใหม่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบรถไฟฟ้าสายสีแดงได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินทางไกลมาก ซึ่งต่อมาได้กำหนดใช้ที่ดินแปลง A2 (ฝั่งซ้ายของทางวิ่งรถไฟ บริเวณใกล้กับศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ปัจจุบันคือที่ทำการกลุ่มปฏิบัติการเดินรถที่ 1 เขตการเดินรถที่ 8 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ) ถนนกำแพงเพชร ให้นำมาพัฒนาเป็นสถานีขนส่งกลางแห่งใหม่ ขนาดพื้นที่รวม 10 ไร่เท่ากับสถานีขนส่งหมอชิต 2 เดิม และมีชานชาลาปล่อยรถที่บริเวณใต้ทางวิ่งรถไฟ พร้อมทั้งปรับแบบพื้นที่บริเวณสถานีกลางบางซื่อให้สามารถเดินมาเชื่อมต่อกับอาคารสถานีขนส่งได้ทันที ในขณะที่พื้นที่ A1 (ฝั่งถนนเทอดดำริ) จะยกเลิกแผนการพัฒนาเดิมแล้วนำมาพัฒนาเป็นอาคารที่ทำการแห่งใหม่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยแทน
อาคารที่ทำการกระทรวงคมนาคม และศูนย์ราชการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (แปลง E)
แก้ในคราวเดียวกัน กระทรวงคมนาคม มีมติให้การรถไฟแห่งประเทศไทยตัดแบ่งพื้นที่บางส่วนของแปลง E ที่ติดกับอาคารที่ทำการใหญ่ของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ที่เดิมวางแผนพัฒนาเป็นอาคารที่ทำการใหม่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้กลายเป็นอาคารที่ทำการแห่งใหม่ของกระทรวงคมนาคมแทน ในขณะที่พื้นที่ส่วนที่เหลือ การรถไฟจะพัฒนาเป็นศูนย์ราชการของการรถไฟแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย คลังพัสดุสื่อสาร กองบัญชากการตำรวจรถไฟ บ้านพักพนักงาน ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก และแฟลตตำรวจรถไฟ รวมถึงตัดถนนใหม่และขยายถนนกำแพงเพชร 6 เพื่อเชื่อมต่อศูนย์ราชการอีกบางส่วน
อ้างอิง
แก้- ↑ "ภาครัฐดันศูนย์คมนาคมพหลโยธิน สมาร์ทซิตี้แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-27. สืบค้นเมื่อ 11 พฤษภาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ซื้อ 4 รายชิลล์ๆ! ประมูลที่ดินบางซื่อแปลง A มูลค่า 1.2 หมื่นล้าน "มาบุญครอง" ถอดใจนาทีสุดท้าย". สืบค้นเมื่อ 11 พฤษภาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)