พลตรี วิทัย ลายถมยา เกิดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2513 เป็นบุตรชายของ พลตรี วิชาติ ลายถมยา และ นาง วิไลวรรณ ลายถมยา มีชื่อเล่นว่า "นัท" อดีตเป็นนักกีฬาขี่ม้า ได้รับเหรียญทอง ประเภทอีเวนติง[1] ในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 จัดขึ้นที่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบัน พลตรี วิทัย ลายถมยา เป็นคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย[2] และรับราชการทหารในตำแหน่ง "โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย"

พลตรี

วิทัย ลายถมยา
เกิด16 ธันวาคม พ.ศ. 2513 (54 ปี)
สัญชาติไทย
ชื่ออื่นนัท (ชื่อเล่น)
การศึกษาโรงเรียนจิตรลดา
โรงเรียนเตรียมทหาร
โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
สถาบันราชภัฎสวนดุสิต
อาชีพทหารบก
นักกีฬาทีมชาติไทย
ปีปฏิบัติงานพ.ศ. 2537–ปัจจุบัน
มีชื่อเสียงจากอดีตนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย
คณะกรรมการบริหารสมาคมกี่ฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย
คู่สมรสดร.สิริสุมาลย์ ลายถมยา
บุตรน.ส.วิภาสิริ นันทน์ ลายถมยา
น.ส.สุวิภาส์ ลายถมยา
บิดามารดาพล.ต.วิชาติ ลายถมยา
นาง วิไลวรรณ ลายถมยา
รางวัลเหรียญทองกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 ประเภทอีเวนติง
เว็บไซต์www.vrhorseman.com

ประวัติ

แก้

พลตรี วิทัย ลายถมยา ชื่อเล่น"นัท"เกิดเมือวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2513 บิดา พลตรี วิชาติ ลายถมยา (เสียชีวิต) มารดา นาง วิไลวรรณ ลายถมยา เสธ.นัท มีความผูกพันกับกี่ฬาขี่ม้ามาตั้งแต่ เด็ก และได้เริ่มฝึกขี่ม้า ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เพราะบิดา (พลตรี วิชาติ ลายถมยา) รับราชการในหน่วยทหารม้า

เมื่อ พ.ศ. 2530 ได้เข้าศึกษาที่ โรงเรียนเตรียมทหาร เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 30 (ตท.30) และเข้ารับการศึกษาต่อที่ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 41 (จปร.41) หลังจากสำเร็จการศึกษา เลือกรับราชการในเหล่าทหารม้า สังกัดกองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์ฯ เป็นครูสอนขี่ม้าให้ทหารและเด็กๆ ต่อมาได้รับทุนการศึกษาจากกองทัพบกไปเรียนขี่ม้าที่ชิลี 1 ปี ตลอดเวลาที่ไปเรียนขี่ม้าก็เก็บตัวฝึกซ้อม ก่อนกลับมาคัดตัวติดทีมชาติ ในกีฬาขี่ม้าประเภทอีเว้นท์ติ้ง

เข้าร่วมแข่งขัน ขี่ม้าประเภทอีเว้นท์ติ้ง (ทีม) ซึ่งมีผู้ร่วมทีม พันตรีเฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา,ร้อยเอกวิทัย ลายถมยา, ณกร กมลศิริ, ส.อ.มานะ สอนกระโทก  ในเอเชี่ยนเกมส์ปีพ.ศ. 2541 ที่กรุงเทพฯ จนคว้าเหรียญทอง[1]ได้สำเร็จ

ปัจจุบัน พลตรี วิทัย ลายถมยา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการบริหารสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย[2] และ ได้รับการพิจารณาให้เป็นกรรมการตัดสินกี่ฬาขี่ม้าของ สหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ (FEI)[3] โดยผ่านการทดสอบตามมาตราฐานของ สหพันธ์กีฬาขี่ม้านานาชาติ (FEI).ทั้งประเภท Dressage, Jumping, Eventing

ส่วนเกี่ยวข้อง

แก้

นอกจากเป็นอดีตนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติแล้ว พลตรี วิทัย ลายถมยา ยังเคยได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้จัดการทีมขี่ม้าทีมชาติไทย[4]ในการนำทีมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ อาทิ กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 29 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ทำหน้าที่ผู้จัดการทีม[5]ขี่ม้าชุดซีเกมส์ 2017 ผลงาน 2 เหรีญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง เอเชียนเกมส์ 2018 ผลงาน 2 เหรียญทองแดง [6] และผลงานล่าสุด ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมขี่ม้าทีมชาติไทย เอเชี่ยน แชมป์เปี้ยนชิพ 2019 ผลงาน 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง [7] เป็นต้น

การศึกษา

แก้

พลตรี วิทัย ลายถมยา จบการศึกษาสายสามัญจากโรงเรียนจิตรลดา รุ่นที่ 18 จากนั้นเข้ารับการศึกษาโรงเรียนเตรียมทหาร ในรุ่นที่30 ศึกษาต่อโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 41 (จปร.41) จบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA) จากสาถาบันราชภัฏสวนดุสิต

การศึกษาเพิ่มเติม

  • หลักสูตรขี่ม้าเบื้องต้นโรงเรียนขี่ม้าตำรวจทหาร สาธารณรัฐชิลี (Carabineros de Chile)
  • หลักสูตรเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 81
  • หลักสูตรวิทยาลัยการทัพบก ชุดที่ 60
  • ผ่านการอบรม สหพันธ์กีฬาขี่ม้านานาชาติ (FEI)
  • หลักสูตรจิตอาสา 904 หลักสูตรพื้นฐาน ภาค 3 รุ่นที่ 1/65[8]

ประวัติรับราชการ

แก้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ 

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 เหรียญทอง ประเภทอีเว้นท์ติ้ง
  2. 2.0 2.1 คำสั่งสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย[ลิงก์เสีย]
  3. รับการพิจารณาให้เป็นกรรมการตัดสินกี่ฬาขี่ม้าของ สหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ (FEI)
  4. "เคยได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้จัดการทีมชาติไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-03. สืบค้นเมื่อ 2017-04-05.
  5. แถลงความพร้อมซีเกมส์ 2017[ลิงก์เสีย]
  6. [ทัพนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยคว้า 2 เหรียญทองแดง]
  7. [รวมเหรียญกีฬาขี่ม้า เอเชี่ยน แชมป์เปี้ยนชิพ 2019]
  8. https://region3.prd.go.th/region3_ci/topic/news/42171
  9. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาย ประจำปี ๒๕๖๗[ลิงก์เสีย], เล่ม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๑๙, ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๗
  10. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๑๐๑, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔
  11. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๕๓, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๓ ข หน้า ๔, ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
  12. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๑๓๙ ตอนที่ ๔๐ ข หน้า ๕๙, ๑๖ กันยายน ๒๕๖๕
  13. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี ๒๕๕๓, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๑๖ ข หน้า ๑๔, ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๔