ฟร็องซัว ออล็องด์

ฟร็องซัว เฌราร์ ฌอร์ฌ นีกอลา ออล็องด์ (ฝรั่งเศส: François Gérard Georges Nicolas Hollande, เสียงอ่านภาษาฝรั่งเศส: [fʁɑ̃swa ɔlɑ̃d]; เกิด 12 สิงหาคม ค.ศ. 1954) เป็นอดีตประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ได้รับเลือกตั้งในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ด้วยคะแนนเสียงประมาณร้อยละ 51.90[1] เขาเป็นผู้แทนราษฎรจากเขตเลือกตั้งที่ 1 ของจังหวัดกอแรซในช่วงปี ค.ศ. 1988–1993 และ ค.ศ. 1997–2012 เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคสังคมนิยมในช่วงปี ค.ศ. 1997–2008 เป็นประธานสภาเทศบาลกอแรซในช่วงปี ค.ศ. 2008–2012 รวมถึงเป็นนายกเทศมนตรีเมืองตูลในช่วงปี ค.ศ. 2001 – 2008 อีกด้วย

ฟร็องซัว ออล็องด์
ออล็องด์ ใน ค.ศ. 2017
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ดำรงตำแหน่ง
15 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 – 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2017
นายกรัฐมนตรีฌ็อง-มาร์ก เอโร
มานุแอล วาลส์
แบร์นาร์ กาซเนิฟว์
ก่อนหน้านีกอลา ซาร์กอซี
ถัดไปแอมานุแอล มาครง
ประธานสภาสามัญแห่งจังหวัดกอแรซ
ดำรงตำแหน่ง
20 มีนาคม ค.ศ. 2008 – 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2012
ก่อนหน้าฌ็อง-ปิแยร์ ดูปองต์
ถัดไปGérard Bonnet
เลขานุการเอกประจำพรรคสังคมนิยม
ดำรงตำแหน่ง
27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1997 – 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008
ก่อนหน้าลียอแนล ฌ็อสแป็ง
ถัดไปมาร์ทีน โอบรี
นายกเทศมนตรีประจำตูล
ดำรงตำแหน่ง
17 มีนาคม ค.ศ. 2001 – 17 มีนาคม ค.ศ. 2008
ก่อนหน้าเรมงด์-มักซ์ อูแบร์
ถัดไปBernard Combes
สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ
ในเขตเลือกตั้งจังหวัดกอแรซที่ 1
ดำรงตำแหน่ง
12 มิถุนายน ค.ศ. 1997 – 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2012
ก่อนหน้าLucien Renaudie
ถัดไปSophie Dessus
ดำรงตำแหน่ง
23 มิถุนายน ค.ศ. 1988 – 1 เมษายน ค.ศ. 1993
ก่อนหน้าจัดตั้งเขตเลือกตั้งใหม่
ถัดไปเรมงด์-มักซ์ อูแบร์
สมาชิกรัฐสภายุโรป
ดำรงตำแหน่ง
20 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 – 17 ธันวาคม ค.ศ. 1999
เขตเลือกตั้งฝรั่งเศส
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด
ฟร็องซัว เฌราร์ ฌอร์ฌ นีกอลา ออล็องด์

(1954-08-12) 12 สิงหาคม ค.ศ. 1954 (69 ปี)
รูอ็อง, จังหวัดแซน-มารีตีม, ประเทศฝรั่งเศส
พรรคการเมืองพรรคสังคมนิยม
คู่อาศัยเซกอแลน รัวยาล (1978–2007)
วาเลรี ทรีแอร์แวแลร์ (2007–2014)
ฌูลี กาแย (2014–ปัจจุบัน)
บุตร4
ศิษย์เก่าPanthéon-Assas University
HEC Paris
Sciences Po
École nationale d'administration
ลายมือชื่อ
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
สังกัด กองทัพบกฝรั่งเศส

ชีวิตในวัยเด็ก แก้ไข

ออล็องด์เกิดในเมืองรูอ็องในจังหวัดแซน-มารีตีม แคว้นโอต-นอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส เขาเกิดในครอบครัวชนชั้นกลางคาทอลิก แม่ของเขาเป็นนักสังคมสงเคราะห์ ส่วนพ่อเป็นหมอหู คอ จมูกที่เคยลงสมัครเป็นผู้สมัครฝ่ายขวาจัดในการเมืองท้องถิ่น เชื่อกันว่านามสกุลออล็องด์ของเขามาจากบรรพบุรุษที่หลบหนีมาจากฮอลแลนด์ (เนเธอร์แลนด์ในปัจจุบัน) ในช่วงศตวรรษที่ 16 และนำชื่อประเทศมาเป็นนามสกุล

การศึกษา แก้ไข

ออล็องด์เข้าศึกษาที่โรงเรียนประจำแซ็งฌ็อง-บาติสต์เดอลาซาล และเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยอุดมศึกษาพาณิชยการปารีส (HEC Paris), วิทยาลัยการบริหารแห่งชาติ (École nationale d'administration) และสถาบันรัฐศึกษาปารีส (Institut d'Etudes Politiques de Paris) ออล็องด์เคยอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 1974 ขณะที่ยังเป็นนักศึกษา ออล็องด์เข้าทำงานในศาลตรวจสอบบัญชีแห่งฝรั่งเศสทันทีหลังจากจบการศึกษา

เส้นทางการเมืองช่วงต้น แก้ไข

ในปี ค.ศ. 1974 ขณะที่ยังเป็นนักศึกษา ออล็องด์เป็นอาสาสมัครช่วยหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสของฟร็องซัว มีแตร็อง ในอีก 5 ปีต่อมา ออล็องด์ได้เข้าร่วมกับพรรคสังคมนิยมและถูกจับตามองอย่างรวดเร็วจากฌัก อาตาลีผู้เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของมีแตร็อง ในปี ค.ศ. 1981 อาตาลีได้ให้ออล็องด์ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตจังหวัดกอแรซ แข่งขันกับประธานาธิบดีของฝรั่งเศสในอนาคต ฌัก ชีรัก ออล็องด์แพ้การเลือกตั้งแก่ชีรัก เขาก้าวต่อไปโดยไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษแก่ประธานาธิบดีคนใหม่ ฟร็องซัว มีแตร็อง หลังจากนั้นไปเป็นคณะทำงานให้กับโฆษกรัฐบาล หลังจากที่ออล็องด์ได้เป็นสมาชิกเทศบาล Ussel ในปี ค.ศ. 1983 ออล็องด์ได้ลงสมัครเป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดกอแรซอีกครั้ง ในครั้งนี้เขาประสบความสำเร็จได้เข้าไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎรของฝรั่งเศส แต่ในปี ค.ศ. 1993 ออล็องด์ได้สูญเสียตำแหน่งผู้แทนราษฎรไปอีกครั้งในการเลือกตั้งที่ถูกเรียกว่า คลื่นสีฟ้า อันเนื่องมาจากการสูญเสียที่นั่งในสภาของพรรคสังคมนิยมให้แก่ฝ่ายขวาเป็นจำนวนมาก

เลขาธิการพรรคสังคมนิยม แก้ไข

 
ออล็องด์และภรรยาของเขา เซกอแลน รัวยาล ในการหาเสียงในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรปี ค.ศ. 2007

ในช่วงใกล้สิ้นสุดวาระของประธานาธิบดีฟร็องซัว มีแตร็อง พรรคสังคมนิยมเกิดความแตกแยกภายในขึ้นเนื่องจากต่างฝ่ายต่างแย่งกันเป็นผู้กำหนดทิศทางของพรรค ออล็องด์ได้ออกมาเรียกร้องความปรองดองและให้พรรครวมตัวเป็นหนึ่งภายใต้ ฌัก เดอลอร์ ประธานสหภาพยุโรป แต่เดอลอร์ปฏิเสธที่จะเป็นตัวแทนพรรคลงสมัครเป็นประธานาธิบดี ทำให้ลียอแนล ฌ็อสแป็ง กลับมาเป็นผู้นำพรรคอีกครั้ง ฌ็อสแป็งเลือกออล็องด์ให้เป็นโฆษกพรรคอย่างเป็นทางการ ต่อมาในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรปี ค.ศ. 1997 ออล็องด์กลับไปลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกอแรซ อีกครั้งและประสบความสำเร็จในการกลับเข้าสภา ในปีเดียวกันนั้นเอง ฌ็อสแป็งได้เป็นนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส และออล็องด์ได้ชนะการเลือกตั้งเป็นเลขาธิการพรรคสังคมนิยมซึ่งเขาดำรงตำแหน่งนี้อยู่ 11 ปี โดยในช่วงระยะเวลานี้ พรรคสังคมนิยมมีตำแหน่งที่แข็งแรงในรัฐบาลฝรั่งเศส ตำแหน่งเลขาธิการพรรคของออล็องด์จึงถูกเรียกในบางครั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในปี ค.ศ. 2001 ออล็องด์ได้ชนะการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองตูลซึ่งเขามีวาระการดำรงตำแหน่งนี้ 7 ปี

ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ค.ศ. 2002 รอบแรก พรรคสังคมนิยมพ่ายแพ้แก่ผู้สมัครฝ่ายขวาจัด ฌ็อง-มารี เลอ แปน อย่างน่าตกตะลึง ทำให้ลียอแนล ฌ็อสแป็งตัดสินใจลาออก การลาออกทำให้ออล็องด์กลายเป็นเสมือนผู้นำของพรรคในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรค.ศ. 2002 ออล็องด์สามารถจำกัดความพ่ายแพ้ไว้ได้บางส่วนโดยเขายังถูกเลือกกลับมาเป็นผู้แทนราษฎรได้ในเขตของตน แต่ผู้สมัครคนอื่น ๆ ของพรรคพ่ายแพ้ไปทั่วประเทศ ก่อนการประชุมใหญ่ประจำปี ค.ศ. 2003 ของพรรคที่จัดขึ้นในเมืองดีฌง ออล็องด์สามารถทำให้ผู้มีชื่อเสียงในพรรคหลายคนหันมาสนับสนุนตนได้ เขาจึงถูกเลือกกลับมาเป็นเลขาธิการพรรคอีกครั้ง แม้ว่าจะถูกฝ่ายซ้ายในพรรคต่อต้านก็ตาม หลังการเลือกตั้งท้องถิ่นของฝรั่งเศสที่จัดขึ้นในปี ค.ศ. 2004 ที่ฝ่ายซ้ายได้รับชัยชนะ ออล็องด์ถูกอ้างถึงว่าอาจเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ แต่พรรคสังคมนิยมในช่วงนั้นถูกแบ่งเป็นสองส่วนในความเห็นเรื่องการจัดตั้งธรรมนูญยุโรป ออล็องด์ซึ่งสนับสนุนการจัดตั้งธรรมนูญจึงก่อให้เกิดความแตกร้าวภายในพรรค ในปี ค.ศ. 2005 เขายังคงรักษาตำแหน่งเลขาธิการพรรคไว้ได้ในการประชุมใหญ่ของพรรค แต่อำนาจของเขาก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ ในปี ค.ศ. 2007 ภรรยาของเขา เซกอแลน รัวยาล ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสซึ่งเธอได้พ่ายแพ้ต่อนีกอลา ซาร์กอซี ในปีเดียวกัน ออล็องด์ถูกตำหนิอย่างหนักเนื่องจากผลอันย่ำแย่ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประจำปี ค.ศ 2007 เขาจึงประกาศที่จะไม่ลงชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรคเมื่อหมดวาระ

หลังจากที่ออล็องด์ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการ เขาได้รับเลือกให้แทนที่ฌ็อง-ปีแยร์ ดูว์ปง ในตำแหน่งประธานสภาเทศบาลกอแรซซึ่งเขายังดำรงตำแหน่งนี้ถึงปัจจุบัน ในปี ค.ศ. 2008 เขาสนับสนุนการให้รางวัลเอเตียน บาลูซ (Étienne Baluze) ซึ่งมอบให้บุคคลที่ทำคุณประโยชน์ด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดยออล็องด์เป็นผู้ให้รางวัลนี้เป็นครั้งแรกในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 แก่นักประวัติศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อ เบียทริช ปาลเมโร

การเลือกตั้งประธานาธิบดี แก้ไข

ออล็องด์ได้ประกาศตัวเพื่อเป็นตัวแทนเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคสังคมนิยม ในช่วงเดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 โดยตอนแรกเขาได้มีคะแนนตามหลังนายดอมีนิก สโทรส-กาน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และเป็นกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ แต่ภายหลังออล็องด์ได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากข่าวการกล่าวหาการลวนลามทางเพศของนายดอมีนิก สโทรส-กาน จึงทำให้เขาต้องประกาศไม่ลงชิงชัยตำแหน่งโดยปริยาย โดยภายหลังจากการอภิปรายโต้เถียงหลายครั้งผ่านทางรายการโทรทัศน์ ออล็องด์ได้คะแนนนิยมในรอบแรกถึงร้อยละ 39 เป็นอันดับที่ 1 แต่ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่ง จึงทำให้เขาต้องเข้าอภิปรายโต้เถียงอีกครั้งกับนางมาร์ทีน โอบรี ผู้สมัครจากพรรคเดียวกันที่ตามมาเป็นอันดับที่สอง โดยได้คะแนนเสียงถึงร้อยละ 30

ในการลงคะแนนออกเสียงครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2011 ออล็องด์ก็ได้คะแนนคะแนนเสียงถึงร้อยละ 56 ในขณะที่โอบรีได้ร้อยละ 43 จึงทำให้เขาเป็นตัวแทนของพรรคสังคมนิยม และพรรคฝ่ายซ้ายก้าวหน้า อย่างเป็นทางการสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 2012 โดยเขายังได้ขอแรงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคผู้ร่วมชิงตำแหน่งของพรรคฯ เช่นกัน อาทิเช่น มาร์ทีน โอบรี, อาร์โน มงต์บูร์, มานุแอล วาลส์ และเซกอแลน รัวยาล อดีตผู้เข้าชิงของพรรคฯ ในการเลือกตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2007

ในวันที่ 26 มกราคม เขาได้เปิดเผยนโยบายต่าง ๆ รวมถึงกว่า 60 นโยบาย รวมถึงการขึ้นภาษีสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคาร และเศรษฐี การสร้างงานอาชีพครูกว่า 60,000 ตำแหน่ง การปรับลดอายุการเกษียณอายุจาก 62 ปีเป็น 60 ปีดังเดิม การสร้างงานทดแทนในเขตที่มีอัตราผู้ว่างงานที่อายุน้อยสูง การสนับสนุนการก่อตั้งธุรกิจขนาดใหญ่โดยการก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุน การออกกฎหมายเพื่อสิทธิการแต่งงานในเพศเดียวกันและสิทธิในการอุปถัมภ์ทารก รวมทั้งการถอนทหารจากอัฟกานิสถานในปี ค.ศ. 2012

ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นายนีกอลา ซาร์กอซีประธานาธิบดีในขณะนั้น ได้ประกาศเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยที่สอง โดยเขาได้วิจารณ์นโยบายของออล็องด์ว่าจะทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศภายในสองวันหากออล็องด์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป

ในช่วงโค้งแรกของการหาเสียง ออล็องด์ได้คะแนนนำจากการหยั่งเสียงต่าง ๆ และในที่สุดในการเลือกตั้งรอบที่ 1 เมื่อ 22 เมษายน ค.ศ. 2012 ออล็องด์ได้คะแนนนำอันดับที่หนึ่ง โดยได้คะแนนเสียงร้อยละ 28.63 โดยเขาต้องเข้าชิงคะแนนในการเลือกตั้งรอบที่สองกับนีกอลา ซาร์กอซี และในการเลือกตั้งรอบที่ 2 ออล็องด์ได้คะแนนนำเกินกึ่งหนึ่งที่ 51.70 เป็นผลให้เขาเป็นว่าที่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสคนถัดไป

ชีวิตส่วนตัว แก้ไข

คู่สมรสมานานกว่า 30 ปีของออล็องด์คือ เซกอแลน รัวยาล ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 4 คน คือ ตอมา เกลม็องส์ ฌูว์เลียง และฟลอรา ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2007 หนึ่งเดือนหลังการพ่ายแพ้ของรัวยาลในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ทั้งคู่ออกมาประกาศว่ากำลังแยกกันอยู่[2] ไม่กี่เดือนถัดมา เว็บไซต์ฝรั่งเศสแห่งหนึ่งออกมาเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ระหว่างออล็องด์กับวาเลรี ทรีแอร์แวแลร์ การประกาศนี้ทำให้เกิดการโต้แย้งกันขึ้นเนื่องจากบางคนถือว่าการเปิดเผยนี้เป็นการลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของนักการเมือง ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2007 วาเลรี ทรีแอร์แวแลร์ ออกมายืนยันในความสัมพันธ์และพูดถึงอย่างเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสารรายสัปดาห์ชื่อ Télé 7 Jours

ผลงาน แก้ไข

ออล็องด์เขียนหนังสือและงานวิชาการหลายเล่ม ดังรายชื่อด้านล่าง

อ้างอิง แก้ไข

  1. http://www.france24.com/en/france/2min/20120506-france-socialist-hollande-wins-presidential-election-sarkozy
  2. Sciolino, Elaine (19 June 2007). "French Socialists' First Couple Disclose a Parting of Ways". New York Times. p. A3. สืบค้นเมื่อ 4 December 2010.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้ไข