พระเจ้านรปติแห่งแปร

พระเจ้านรปติแห่งแปร (พม่า: နရပတိ (ပြည်), ออกเสียง: [nəɹa̰pətḭ]; สวรรคต 1539) หรือในนวนิยาย ผู้ชนะสิบทิศ ถอดเสียงเป็น พระเจ้านรบดี กษัตริย์องค์ที่ 3 แห่ง อาณาจักรแปร ครองสิริราชสมบัติระหว่าง ค.ศ. 1532 ถึง 1539 หลังจากที่พระราชบิดาคือ พระเจ้าบาเยงทเว กษัตริย์องค์ที่ 2 ถูกควบคุมตัวไปอยู่ รัฐฉาน เนื่องจากพ่ายแพ้สงคราม ต่อมาเมื่อผู้นำของรัฐฉานคือเจ้าฟ้าซะโหล่นถูกสังหาร พระเจ้าบาเยงทเวจึงได้หนีกลับมายังแปรเพื่อปกครองแผ่นดินอีกครั้ง แต่พระเจ้านรปติได้ปิดประตูเมืองทำให้พระเจ้าบาเยงทเวต้องรอนแรมกระทั่งสวรรคตในป่าเมื่อ ค.ศ. 1533

พระเจ้านรปติแห่งแปร
နရပတိ (ပြည်)
กษัตริย์แห่งแปร
ครองราชย์ประมาณ ธันวาคม 1532 – กุมภาพันธ์ 1539
ก่อนหน้าพระเจ้าบาเยงทเว
ถัดไปพระเจ้ามังฆ้องแห่งแปร
สวรรคตกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1539
แปร
มเหสีพระนางจันทาเทวี
พระพี่นางของ พระเจ้าสการะวุตพี
ราชวงศ์โมญีน
พระราชบิดาพระเจ้าบาเยงทเว
พระราชมารดาพระนางชเวซินกอน
ศาสนาพุทธเถรวาท

พระเจ้านรปติทำให้อาณาจักรแปรต้องกลับไปเป็นเมืองประเทศราชของ อาณาจักรอังวะ อีกครั้งเนื่องจากพระองค์มิได้ขยายอาณาเขตไปไกลกว่าเขตเมืองแปร ต่อมาพระองค์ได้เข้าไปมีส่วนร่วมใน สงครามตองอู—หงสาวดี เนื่องจากพระองค์เป็นพันธมิตรกับ พระเจ้าสการะวุตพี กษัตริย์มอญแห่ง อาณาจักรหงสาวดี เพราะพระองค์ได้อภิเษกกับพระเชษฐภคินีของพระเจ้าสการะวุตพี และพระองค์ยังได้ให้ความช่วยเหลือกองทัพของพระเจ้าสการะวุตพีที่หนีมาจากหงสาวดีในช่วง ค.ศ. 1538 – 39 ต่อมาพระเจ้านรปติได้ขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรอังวะให้มาช่วยโจมตีกองทัพตองอูที่กำลังล้อมเมืองแปรจนได้ชัยชนะแต่ได้ปฏิเสธที่จะตามไปตีกองทัพตองอูที่กำลังล่าถอย

พระเจ้านรปติได้เป็นพันธมิตรกับ อาณาจักรมเยาะอู แห่ง อาระกัน โดยส่งพระขนิษฐาและพระมเหสี (พระเชษฐภคินีของพระเจ้าสการะวุตพี) ไปยัง พระเจ้ามีนบิน แห่งอาระกัน (หลังจากพระเจ้าสการะวุตพีสวรรคตไม่นาน) และพระเจ้านรปติก็สวรรคตหลังจากนั้นไม่นานเช่นกัน โดยมีพระอนุชาต่างพระมารดาของพระเจ้านรปติขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อมาเป็น พระเจ้ามังฆ้องแห่งแปร