ธนบัตรไทย
เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ |
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง คุณสามารถพัฒนาบทความนี้ได้โดยเพิ่มแหล่งอ้างอิงตามสมควร เนื้อหาที่ขาดแหล่งอ้างอิงอาจถูกลบออก |
ธนบัตรในประเทศไทย เริ่มมีการใช้ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยได้มีการใช้ "เงินกระดาษ" เป็นครั้งแรก แต่ยังไม่ได้เรียกว่า "ธนบัตร" ใช้คำว่า "หมาย" เรียกแทน โดยออกใช้เมื่อ พ.ศ. 2396 และคงใช้ต่อมาทั้งสิ้น 3 รุ่น
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศใช้ "ตั๋วกระดาษ" ราคา 1 อัฐ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2417 เพื่อใช้แทนเงินเหรียญกษาปณ์ที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า "อัฐกระดาษ" ที่ใช้เรียกขานกันในหมู่ประชาชน ต่อมาในปี พ.ศ. 2432-2442 ทรงอนุญาตให้ธนาคารต่างประเทศที่เข้ามาเปิดสาขาดำเนินงานในประเทศไทย คือ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้, ธนาคารชาเตอรด์แห่งอินเดีย ออสเตรเลีย และจีน และธนาคารแห่งอินโดจีน ให้สามารถออกธนบัตรของตัวเองได้ เรียกว่า "แบงก์โน้ต" หรือ "แบงก์" นับว่าเป็น "บัตรธนาคาร" รุ่นแรกๆ ที่มีใช้ในประเทศไทย จนถึงวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2445 จึงทรงให้ยกเลิก และประกาศใช้ "ธนบัตร" แบบแรกของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ประเภทของธนบัตรไทยแก้ไข
ธนบัตรใช้หมุนเวียนแก้ไข
ธนบัตรใช้หมุนเวียน เป็นธนบัตรที่ใช้แลกเปลี่ยนประจำวันทั่วไป มีมูลค่าแลกเปลี่ยนตามราคาปรากฏในธนบัตร เมื่อมีการชำรุดเสียหายก็จะมีการพิมพ์ทดแทน ธนบัตรไทยที่ออกใช้ตั้งแต่แบบแรกเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2445 จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2561) มีออกมาใช้ทั้งหมด 17 แบบ ได้แก่
ที่ | แรก | ธนบัตร | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
1 | 7 กันยายน พ.ศ. 2445 | 1,5,10,20,50,100 1,000 | เป็นธนบัตรเพียงด้านเดียว |
2 | 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2468 | 1,5,10,20,100,1,000 | เริ่มมีการพิมพ์เส้นนูน |
3 | 22 มิถุนายน พ.ศ. 2477 | 1,5,10,20 | รัชกาลที่ 7 |
4 | 5 ธันวาคม พ.ศ. 2481 | 1,5,10,20,100,1,000 | รัฐบาลไทย |
5 | 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 | 1,5,10,20,100,1,000 | พิมพ์ที่โรงพิมพ์ธนบัตร กระทรวงการคลัง ประเทศญี่ปุ่น[1] |
6 | 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488 | 20,100 | ชนิดราคา 20 บาท พิมพ์จากบริษัท โทมัส เดอ ลา รู จำกัด ชนิดราคา 100 บาท พิมพ์จากกรมแผนที่ทหารบก[2] |
7 | 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488 | 4 ชนิดราคา 1, 5, 10, 50 บาท | พิมพ์ในประเทศไทย โดยโรงพิมพ์เอกชนที่มีผลงานอยู่ในระดับมาตรฐานขณะนั้น โดยการแยกพิมพ์ตัวธนบัตร หมวดหมายเลข และลายเซ็นคนละแห่งกัน ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปควบคุมดูแลการพิมพ์อย่างใกล้ชิด แต่เนื่องจากในช่วงปลายสงครามซึ่งกระดาษและหมึกพิมพ์มีอยู่อย่างจำกัด คุณภาพและสีของธนบัตรจึงไม่ดีเท่าที่ควร และจากขนาดธนบัตรที่เล็กกว่าธนบัตรทั่ว ๆ ไป ในขณะนั้น บางครั้งประชาชนจึงเรียก "แบงก์ขนมโก๋" |
8 | 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489 | 5 ชนิดราคา 1, 5, 10, 20, 100 บาท | พิมพ์โดย บริษัท The Tudor Press จากสหรัฐอเมริกา เนื่องจากบริษัท โทมัส เดอ ลา รู จำกัดได้รับความเสียหายจากสงคราม ไม่มีเส้นนูนและลายน้ำ ในสมัยนั้นมีการปลอมแปลงธนบัตรกันมาก |
9 | 26 มกราคม พ.ศ. 2491 | 6 ชนิดราคา 50 สตางค์ และ 1, 5, 10, 20, 100 บาท | พิมพ์โดยบริษัท โทมัส เดอ ลา รู จำกัด |
10 | 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 | ชนิดราคาเดียว 100 บาท | มีเส้นนูน มีหลายสี มีลายไทย เนื่องจากมีการปลอมแบบ 9 ราคา 100 บาท อย่างมากมาย |
11 | 18 มิถุนายน พ.ศ. 2512 | 5 ชนิดราคา 5, 10, 20, 100, 500 บาท | พิมพ์ในประเทศไทย โดยโรงพิมพ์ธนบัตร ที่จัดตั้งขึ้นโดยธนาคารแห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2512 |
12 | 6 เมษายน พ.ศ. 2521 | 3 ชนิดราคา 10, 20, 100 บาท | ด้านหลังมีภาพพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ที่เป็นมหาราช |
13 | 30 สิงหาคม พ.ศ. 2528 | 2 ชนิดราคา 50, 500 บาท | เพื่อร่วมเฉลิมฉลองงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2525 ธนบัตร 50 บาท ภาพประธานด้านหน้า พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย |
14 | 10 สิงหาคม พ.ศ. 2535 | 3 ชนิดราคา 100, 500, 1000 บาท | ออกฉบับละ 1000 บาท เพื่อสนองต่อการใช้เงินจำนวนมาก ภาพประธานด้านหลังของชนิดราคาพันบาท มีพระฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง |
15 | 1 มกราคม พ.ศ. 2542 | 5 ชนิดราคา 20, 50, 100, 500, 1,000 บาท | เป็นธนบัตรที่ใช้ในปัจจุบันเป็นส่วนใหญ่ โดยในช่วงท้าย ๆ ของชุดที่ 15 ธนบัตร 50 บาทได้เปลี่ยนรูปแบบธนบัตรจากพอลิเมอร์เป็นกระดาษธรรมดาเพื่อลดต้นทุนและป้องกันไม่ให้วัสดุที่ผลิตธนบัตรมีค่ากว่าราคาธนบัตร และธนบัตร1000 บาทได้เพิ่มแถบสีเงิน เพื่อป้องกันการปลอมแปลงและไม่ได้พิมพ์ธนบัตร 10 บาท |
16 | 18 มกราคม พ.ศ. 2555 | 5 ชนิดราคา 20, 50, 100, 500, 1,000 บาท | เป็นธนบัตรที่ใช้ในปัจจุบัน ด้านหลังมีพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ที่เป็นมหาราช |
17 | 6 เมษายน และ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 |
5 ชนิดราคา 20, 50, 100, 500, 1,000 บาท | เป็นธนบัตรที่ใช้ในปัจจุบันด้านหลังมีพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ |
ธนบัตรชนิดราคา แบบ 15แก้ไข
ธนบัตรชนิดราคา แบบ 16แก้ไข
ธนบัตรชนิดราคา แบบ 17แก้ไข
ธนบัตรแบบพิเศษแก้ไข
เป็นธนบัตรที่ออกใช้หมุนเวียนนอกเหนือจากแบบที่ใช้อย่างเป็นทางการข้างต้น ประกาศใช้งานระหว่างวันที่ 25 มกราคม 2485 ถึง 3 มิถุนายน 2489 ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดการขาดแคลนธนบัตรใช้งานขณะนั้น
ราคา 1 บาท ประกาศใช้ 25 มกราคม 2485 ขนาด 6.3 x 11.7 ซม. สีน้ำเงิน
ราคา 1,000 บาท ขนาด 10.5 x 19.5 ซม.
รุ่นที่ 1 ประกาศใช้ 25 สิงหาคม 2486 ด้านหน้า สีแดงแก่ พื้นเหลือง ด้านหลัง สีน้ำตาล พื้นเหลือง
รุ่นที่ 2 ประกาศใช้ 1 มีนาคม 2487 สีเหมือนรุ่น 1 แต่จะแดงเข้มกว่า
ราคา 50 บาท ขนาด 6.5 x 12.5 ซม. กรมแผนที่ทหารพิมพ์เพื่อจะนำไปใช้ที่มณฑลมลายูตอนเหนือ สี่รัฐ โดยพิมพ์ราคาเป็น 1 ดอลล่า แต่ไม่ได้นำออกใช้ เมื่อเกิดขาดแคลนธนบัตรจึงนำออกมาแก้เป็นราคา 50 บาท ด้านหน้า กรอบสีม่วง พื้นเหลือง ด้านหลัง ลายสีม่วง พื้นเหลือง
รุ่นที่ 1 ประกาศใช้ 8 กุมภาพันธ์ 2488 การพิมพ์แก้ : (1) พิมพ์ด้วยหมึกดำทับ -เลข 1 อาหรับ -คำ หนึ่งดอลล่า -อักษรมลายูกับจีนทั้งหมด (2) ด้านหน้า พิมพ์เลข 50 ด้วยหมึกแดงบนลายน้ำ (3) ด้านหน้า พิมพ์ "ห้าสิบบาท" ด้วยหมึกแดง ใต้คำ รัถบาลไทย
รุ่นที่ 2 ประกาศใช้ 13 กุมภาพันธ์ 2488 การพิมพ์แก้ : ด้านหน้า (1) แก้เฉพาะการพิมพ์ " ห้าสิบบาท" ด้วยหมึกดำทับ "หนึ่งดอลล่า" (2) พิมพ์ลายมือชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบนลายน้ำ (3) ลายมือชื่อรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง มี นายควง อภัยวงศ์ เพิ่มอีกหนึ่งท่าน
รุ่นที่ 3 ประกาศใช้ 21 กุมภาพันธ์ 2488 การพิมพ์แก้ : ด้านหน้าแก้ไขเหมือนรุ่นที่ 1 แต่จะมีเฉพาะลายมือชื่อรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นายเล้ง ศรีสมวงศ์ เพียงท่านเดียว ด้านหลังไม่มีการแก้ไข
ราคา 50 สตางค์ ประกาศใช้ 30 มีนาคม 2489 เดิมเป็นธนบัตรแบบ 5 ราคา 10 บาท ที่ทางการญี่ปุ่นจัดพิมพ์ที่ชวา ซึ่งเป็นธนบัตรที่มีคุณภาพต่ำทั้งกระดาษและหมึกพิมพ์ และไม่มีลายน้ำเพื่อป้องกันการปลอมแปลงด้วย จึงนำมาแก้ไขใช้งานด้วยการพิมพ์ทับด้วยหมึกดำ
ด้านหน้า (1) พิมพ์ "๕๐ ส.ต." ทับเลข ๑๐ เดิมที่มุม ยกเว้น มุมล่างขวาที่ไม่มีตัวเลข (2) พิมพ์ "ห้าสิบ ส.ต." ทับ "สิบ บาท" ตรงกลาง ใต้คำว่า รัฐบาล ไทย (3) พิมพ์เลขหมวดขนาบข้างหน้าและหลังของคำว่า รัฐบาล ไทย ด้วยอักษรไทยอยู่เหนือเลขอาหรับ
ด้านหลัง พิมพ์ "๕๐ ส.ต." ทับเลข ๑๐ เดิมที่มุมบนทั้งสองข้าง
ราคา 1 บาท ประกาศใช้ 3 มิถุนายน 2489 เป็นพันธบัตรที่ทางการอังกฤษพิมพ์ไว้ใช้งานเมื่อตีเอาประเทศไทยจากญี่ปุ่น แต่ไม่ได้ใช้ เมื่อสงครามสงบลงจึงมอบให้ทางการไทย เมื่อเกิดขาดแคลนธนบัตรจึงได้นำมาแก้ไขใช้งาน มีขนาด 7.3 x 11.4 ซม. สีน้ำเงิน
ด้านหน้า (1) พิมพ์ "รัฐบาลไทย" (บน) และ "ธนบัตรเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย" (ล่าง แต่บางฉบับก็ไม่มีคำว่า ที่) ด้วยหมึกดำ เหนือคำว่า "ONE BAHT" (2) เลขหมาย -เลขหมวด อักษรไทย (เหนือ) และเลขอาหรับ (ล่าง) -เลขฉบับ เลขอาหรับ
ด้านหลัง ไม่ได้พิมพ์แก้ไข
ธนบัตรที่ระลึกและบัตรธนาคารแก้ไข
ธนบัตรที่ระลึกและบัตรธนาคาร เป็นธนบัตรที่ออกเนื่องในวาระสำคัญต่าง ๆ เช่น ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี เป็นต้น มูลค่าแลกเปลี่ยนมักจะสูงกว่าราคาที่กำหนด ธนบัตรชนิดนี้จะพิมพ์ออกมาเพียงครั้งเดียวไม่มีการพิมพ์ทดแทน ส่วนบัตรธนาคารก็จะคล้ายกับธนบัตรที่ระลึก จะต่างกันที่การออกบัตรธนาคารกระทำโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ใช่ออกโดยรัฐบาลไทย ซึ่งก็มีเพียงแบบเดียวที่ออกมาในรัชสมัยรัชกาลที่ ๙ คือ บัตรธนาคาร ชนิดราคา 60 บาท ที่ออกใช้เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2530 (ประกาศใช้ 3 มิถุนายน 2530)
ชื่อธนบัตร | ชนิด | ออกใช้ |
---|---|---|
บัตรธนาคาร | 60 บาท | 5 ธันวาคม 2530 |
ธนบัตรที่ระลึกเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเจริญพระชนมายุ 90 พรรษา | 50, 500 บาท | 21 ตุลาคม 2533 |
ธนบัตรที่ระลึกเนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง | 1000 บาท | 12 สิงหาคม 2535 |
ธนบัตรที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ 120 ปี กระทรวงการคลัง | 10 บาท | 14 เมษายน 2538 |
ธนบัตรที่ระลึกเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี | 50, 500, 500 บาท แบบพิเศษ | 3 เมษายน 2539 |
ธนบัตรที่ระลึกเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร | 1000 บาท | 1 พฤศจิกายน 2542 |
ธนบัตรที่ระลึกวันราชาภิเษกสมรสครบ ๕๐ ปี ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง |
50, 500,000 | 8 พฤษภาคม 2543 |
ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ | 100 บาท | 22 เมษายน 2547 |
ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสการจัดงาน ฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี |
60 บาท | 24 เมษายน 2549 |
ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร | 1,5,10 | 14 สิงหาคม 2550 |
ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ | 100 บาท | 24 มิถุนายน 2554 |
ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา | 80 บาท | 27 กรกฎาคม 2555 |
ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี | 70 บาท | 9 มิถุนายน 2559 |
ธนบัตรที่ระลึก ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แห่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร | 20 บาท 50 บาท 100 บาท 500 บาท 1000 บาท | 20 กันยายน 2560 |
ธนบัตรที่ระลึกเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ | 100 บาท 1000 บาท | วันที่ 12 ธันวาคม 2563 |
ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบรมวงศานุวงศ์แก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดูเพิ่มแก้ไข
วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ: |
อ้างอิงแก้ไข
แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข
- ข้อมูลธนบัตรไทยจากธนาคารแห่งประเทศไทย
- ธนบัตรที่ระลึกในปี พ.ศ. 2555
- กรมธนบัตร: ประวัติศาสตร์ธนบัตรไทยสมัยใหม่และรัฐกิจการเงินสมัยรัชกาลที่ 5
บทความเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ การเงิน ธุรกิจ หรือ การค้านี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |