จักรพรรดิเอ็นยู

จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น
(เปลี่ยนทางจาก จักรพรรดิเอ็งยู)

จักรพรรดิเอ็นยู (ญี่ปุ่น: 円融天皇โรมาจิEn'yū-tennō) จักรพรรดิองค์ที่ 64 แห่ง ราชวงศ์ญี่ปุ่น ตามที่ได้จัดเรียงไว้ใน รายพระนามจักรพรรดิญี่ปุ่น

จักรพรรดิเอ็นยู
จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น องค์ที่ 64
ครองราชย์
27 กันยายน ค.ศ. 969 - 24 กันยายน ค.ศ. 984
พิธีขึ้น5 พฤศจิกายน ค.ศ. 969
ไดโจไซ18 ธันวาคม ค.ศ. 970
รัชศกอังนา (968 - 970)
ก่อนหน้าเรเซ
ถัดไปคาซัง

พระบรมนามาภิไธยโมะริฮิระ
พระราชสมภพ12 เมษายน ค.ศ. 959
นครหลวงเฮอัง
สวรรคต1 มีนาคม ค.ศ. 991
นครหลวงเฮอัง
สุสานหลวงโนะชิ โนะ มูรากามิ (เคียวโตะ)
พิธีฉลองการเจริญวัย21 มกราคม ค.ศ. 972
พระราชบิดาจักรพรรดิมูรากามิ

จักรพรรดิเอ็นยูทรงครอง ราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศ ระหว่างปี ค.ศ. 969 - ค.ศ. 984

พระนามของพระองค์ต่อมาได้ใช้เป็นพระนามของ จักรพรรดิโกะ-เอ็นยู จักรพรรดิผู้อ้างสิทธิพระองค์ที่ 5 จาก ราชสำนักเหนือ ใน ยุคราชสำนักเหนือ-ใต้ ในช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 14

พระราชประวัติ

แก้

ก่อนจะขึ้นสืบ ราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศ จักรพรรดิเอ็นยูมีพระนามเดิมว่า เจ้าชายโมะริฮิระ (ญี่ปุ่น: 守平親王โรมาจิMorihira-shinnō)

เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 5 ใน จักรพรรดิมุระกะมิ จักรพรรดิองค์ที่ 62 ที่ประสูติแต่ ฟุจิวะระ โนะ อังชิ (จักรพรรดินียะซุโกะ) เป็นพระราชอนุชาร่วมพระราชมารดาเดียวกับ จักรพรรดิเรเซ จักรพรรดิองค์ที่ 63 และเป็นพระราชบิดาของ จักรพรรดิอิชิโจ จักรพรรดิองค์ที่ 66

ในปี ค.ศ. 967 ทรงได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาทเมื่อพระบรมเชษฐาคือเจ้าชายโนะริฮิระทรงขึ้นสืบราชบัลลังก์เป็นจักรพรรดิเรเซ

เหตุการณ์ในพระชนมชีพของจักรพรรดิเอ็นยู

แก้
  • 27 กันยายน ค.ศ. 969 (วันที่ 13 เดือน 8 ปี อังนา ที่ 2) : ปีที่ 2 ในรัชสมัยจักรพรรดิเรเซองค์จักรพรรดิสละราชบัลลังก์ให้แก่เจ้าชายโมะริฮิระพระราชอนุชาที่รัชทายาทพระชนมายุเพียง 10 พรรษาขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อมาเป็น จักรพรรดิเอ็นยู หลังจากนั้นไม่นานจึงได้มีการประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกจักรพรรดิเอ็นยู
  • 8 มิถุนายน ค.ศ. 976 (วันที่ 11 เดือน 5 ปี เท็งเอ็น ที่ 2) : ปีที่ 6 ในรัชสมัยได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นในพระราชวังหลวงเฮอังทำให้กระจกศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในสามสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ในพระราชพิธีราชาภิเษกได้รับความเสียหาย
  • 31 ธันวาคม ค.ศ. 980 (วันที่ 22 เดือน 11 ปี เท็งเง็ง ที่ 3) : ปีที่ 11 ในรัชสมัยพระราชวังหลวงเกิดเพลิงไหม้ขึ้นอีกครั้งคราวนี้ทำให้กระจกศักดิ์สิทธิ์แตกหักเป็นสองส่วน
  • 5 ธันวาคม ค.ศ. 982 (วันที่ 17 เดือน 11 ปี เท็งเง็ง ที่ 5) : ปีที่ 13 ในรัชสมัยเกิดเพลิงไหม้ในพระราชวังหลวงอีกเป็นครั้งที่ 3 คราวนี้กระจกศักดิ์สิทธิ์ได้รับการซ่อมแซม
  • 24 กันยายน ค.ศ. 984 (วันที่ 27 เดือน 8 ปี เอะอิคัง ที่ 2) : ปีที่ 15 ในรัชสมัยจักรพรรดิเอ็นยูสละราชบัลลังก์ให้แก่ เจ้าชายโมะโระซะดะ พระราชนัดดาเมื่อพระชนมายุเพียง 26 พรรษา