งบประมาณแผ่นดินของไทย พ.ศ. 2564

งบประมาณแผ่นดินของไทยสำหรับปีงบประมาณ 2564 ซึ่งกินเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2564 เป็นงบประมาณแผ่นดินชุดที่ 2 ที่คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 62 (ประยุทธ์ 2) เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 25 โดยเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในวาระแรกในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

งบประมาณแผ่นดินของไทย พ.ศ. 2564
พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
วันที่เสนอ1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
เสนอโดยคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 62
เสนอต่อรัฐสภาไทย
รัฐสภาสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 25
พรรคพรรคพลังประชารัฐ
รัฐมนตรีฯ คลังสันติ พร้อมพัฒน์ (รมช. เป็นประธาน กมธ.)[1]
รายรับทั้งหมด2,677,000 ล้านบาท (กำหนด)
รายจ่ายทั้งหมด3,285,962 ล้านบาท (กำหนด)
การขาดดุล608,962.5 ล้านบาท (กำหนด)
เว็บไซต์สำนักงบประมาณ
‹ 2563
2565 ›

คณะรัฐมนตรีเสนองบประมาณเป็นวงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1 แสนล้านบาท ขาดดุล 6.23 แสนล้านบาท[2]

วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2563 สำนักงบประมาณเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2564 ให้คณะรัฐมนตรี[3]

สำหรับหน่วยรับงบประมาณที่ได้รับงบประมาณมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ งบกลาง (614,616 ล้านบาท), กระทรวงศึกษาธิการ (358,361 ล้านบาท), กระทรวงมหาดไทย (328,013 ล้านบาท), กระทรวงการคลัง (268,719 ล้านบาท) และกระทรวงกลาโหม (223,464 ล้าบาท)[4] และกระทรวงที่ของบประมาณเพิ่มจากปีที่แล้วสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ กระทรวงการคลัง (19,517 ล้านบาท), กระทรวงคมนาคม (17,459 ล้านบาท), กระทรวงมหาดไทย (13,352 ล้านบาท), กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (4,805 ล้านบาท) และกระทรวงสาธารณสุข (3,585 ล้านบาท)[5]

กระบวนการรัฐสภา แก้

งบประมาณแผ่นดินชุดนี้เข้าสู่การพิจารณารับหลักการในวาระแรกของสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 25 ในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ใช้เวลาพิจารณาอยู่ 3 วัน จึงมีมติรับหลักการด้วยคะแนนเสียง 273-200 งดออกเสียงอีก 3 เสียง จากผู้ลงมติทั้งหมด 476 คน และมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 72 คน โดยที่ประชุมกำหนดระยะเวลาแปรญัตติ 30 วัน[6]

หนี้สาธารณะ แก้

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะเปิดเผยว่า แผนการบริหารหนี้ปีงบประมาณ 2564 ประกอบด้วยการก่อหนี้ใหม่จำนวน 1.64 ล้านล้านบาท และการก่อหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เก่าที่ครบอายุอีก 1.27 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ แผนการกู้เพื่อการลงทุนระยะปานกลาง 5 ปี (2564-2568) จากเดิมที่มีแผนการลงทุน 238 โครงการ มูลค่าการลงทุน 1.2 ล้านล้านบาท แต่มีความล่าช้า 56 โครงการ ทำให้เหลือมูลค่าโครงการลงทุน 8.91 แสนล้านบาท ลดลง 30% ของแผนเดิม พร้อมคาดว่าหนี้สาธารณเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 9.3 ล้านล้านบาท หรือ 57% ของจีดีพี[7]

อ้างอิง แก้

  1. กมธ.งบฯ64เคาะตั้ง'สันติ พร้อมพัฒน์'นั่งประธานแทน'อุตตม'
  2. บีบีซีไทย (20 มิถุนายน 2563). "งบ 2564 : รัฐบาลตั้งงบ 3.3 ล้านล้านบาท หั่นงบกลาโหม 3.71% เพิ่มงบส่วนราชการในพระองค์ 16.88%". www.bbc.com. สืบค้นเมื่อ 2 กรกฎาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. ผู้จัดการออนไลน์ (16 มิถุนายน 2563). "นายกฯถกครม.-ไม่มีหารือ"Travel Bubble"". mgronline.com. สืบค้นเมื่อ 2 กรกฎาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  4. ฐานเศรษฐกิจ (1 กรกฎาคม 2563). "เช็กที่นี่ "งบ64" 10 กระทรวงไหน ได้งบ "มากสุด-น้อยสุด"". www.thansettakij.com. สืบค้นเมื่อ 2 กรกฎาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. ฐานเศรษฐกิจ (2 กรกฎาคม 2563). "เปิด "งบ 64" รายกระทรวง ที่ไหนถูกตัด ที่ไหนได้เพิ่ม". www.thansettakij.com. สืบค้นเมื่อ 2 กรกฎาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  6. ไทยรัฐ (3 กรกฎาคม 2563). "มติสภาฯ รับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบปี 64 ตั้ง 72 กมธ.วิสามัญ มีชื่อ "ธนาธร"". www.thairath.co.th. สืบค้นเมื่อ 4 กรกฎาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. "กู้สนั่นเมือง3ล้านล้านบาท หนี้ประเทศพุ่ง9ล้านล้าน". โพสต์ทูเดย์ (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 October 2020.