คาโต โยชิอากิ

ไดเมียว
(เปลี่ยนทางจาก คะโต โยะชิอะกิ)

คาโตะ โยชิอากิ (ญี่ปุ่น: 加藤 嘉明โรมาจิKatō Yoshiaki) เป็นหนึ่งในแม่ทัพของตระกูลโทโยโตมิและเป็นหนึ่งในแม่ทัพของตระกูลโทกุงาวะในช่วงศึกเซกิงาฮาระ เขาเป็นหนึ่งในเจ็ดขุนพลหอกผู้กล้าแห่งชิสุงาตาเกะ (賤ヶ岳の七本槍) ร่วมกับ คาโตะ คิโยมาสะ, ฟุกุชิมะ มาซาโนริ, วากิซากะ ยาสุฮารุ, คาตากิริ คัตสึโมโตะ, ฮิราโนะ นากายาสุ และ คะซุยะ ทาเกะโนริ

คาโตะ โยชิอากิ
加藤 嘉明
เจ้าแห่งแคว้นอิโยะ-มัตสึยามะ
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 1600 – ค.ศ. 1627
ก่อนหน้าไม่มี
ถัดไปกาโมะ ทาดะโตโมะ
เจ้าแห่งแคว้นไอซุ
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 1627 – ค.ศ. 1631
ก่อนหน้ากาโมะ ทาดะซาโดะ
ถัดไปคาโตะ อะกินาริ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดค.ศ. 1563
อำเภอฮาซุ แคว้นมิกาวะ
ปัจจุบันคือนครนิชิโอะในจังหวัดไอจิ
เสียชีวิต7 ตุลาคม ค.ศ. 1631
เอโดะ
เชื้อชาติญี่ปุ่น
คู่สมรสลูกสาวของโฮริเบ อิจิเอมง (堀部市右衛門)
บุตรนางเซกาคุอิน (星覚院) แต่งงานกับมัตสึชิตะ ชิเงะสึนะ
ภรรยาของอิเคดะ นางามาสะ
คาโตะ อะกินาริ
คาโตะ อะกิโนบุ
คาโตะ อะกิโตชิ
ภรรยาของนันบุ ชิเงะนาโอะ
บุพการี
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ตระกูลโทโยโตมิ
รัฐบาลเอโดะ
หน่วย ตระกูลคาโตะ
ผ่านศึกการโจมตีภูมิภาคชูโงกุ
ยุทธการที่ชิสุงาตาเกะ
การทัพในแคว้นคิอิ
การโจมตีภูมิภาคชิโกกุ
การทัพคิวชู
การล้อมปราสาทโอดะวาระ
การรบที่เกาหลี
ยุทธการที่เซกิงาฮาระ

สมัยของฮิเดโยชิ แก้

เขาเป็นที่รู้จักในชื่อเล่นคือ ซามะโนะสุเกะ (左馬助) เมื่อตอนที่เขาเกิด โนริอากิผู้เป็นบิดา ได้ไปเข้าร่วมกับกลุ่มอิกโกะ-อิกกิและก่อการจราจลในแคว้นมิกาวะ เมื่อการจราจลถูกโทกุงาวะ อิเอยาสุเข้าปราบปราม ตัวเขาในวัยแบเบาะจึงต้องลี้ภัยไปยังแคว้นโอมิพร้อมกับบิดา ซึ่งต่อมาบิดาก็ได้รับใช้ฮิเดโยชิที่ปราสาทนากาฮามะ และได้รับรางวัลจำนวน 300 โคกุในเขตการปกครองยาจิมะ (矢嶋郷) ส่วนตัวเขาได้ไปช่วยงานในโรงค้าม้าและถูกค้นพบโดยคาโตะ คาเงะยาสุซึ่งเป็นบิดาของคาโตะ มิตสึยาสุ คาเงะยาสุเห็นว่าเขาดูมีพรสวรรค์ จึงอนุญาตให้เขาได้รับสืบทอดชื่อตระกูลคาโตะ

เขาได้ทำงานเป็นเด็กรับใช้ของฮาชิบะ ฮิเดะคัตสึผู้เป็นลูกชายคนที่ 4 ของโอดะ โนบุนากะและเป็นลูกชายบุญธรรมของฮิเดโยชิกับท่านหญิงเนเนะ ในปี ค.ศ. 1576 เขาได้ติดตามไปยังการโจมตีแคว้นฮาริมะโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต เมื่อท่านหญิงเนเนะทราบเรื่องนี้ จึงขับไล่เขาทันทีด้วยความโกรธ แต่ฮิเดโยชิยินดีรับตัวเขาเอาไว้ใช้งานและได้มอบรางวัลจำนวน 300 โคกุ ทำให้เขาตัดสินใจที่รับใช้ฮิเดโยชิและออกรบเป็นครั้งแรกในการโจมตีปราสาทมิกิของเบโช นากาฮารุ

หลังจากยุทธการยามาซากิ เขาได้รับรางวัล 300 โคกุ ในหมู่บ้านฮิชิดะ (菱田村) แห่งแคว้นยามาชิโระ และหลังจากการรบที่ชิสุงาตาเกะ เขาก็ได้รับรางวัลจำนวน 3,000 โคกุ เมื่อฮิเดโยชิได้เป็นคัมปากุในปี ค.ศ. 1585 เขาได้เข้าร่วมกับกองทัพของโคบายาคาวะ ทากากาเงะในการโจมตีแคว้นอิโยะในภูมิภาคชิโกกุ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1586 เขาได้เป็นไดเมียวอย่างเต็มตัว จากการที่เป็นเจ้าของปราสาทชิจิ (志知城) และมีดินแดนจำนวน 15,000 โคกุในแคว้นอาวาจิ (ประกอบไปด้วยอำเภอสึนะกับอำเภอมิฮาระ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะ)

 
ภาพของ คาโตะ โยชิอากิ ในช่วงที่นำกองทัพเรืออาวาจิ สร้างสรรค์โดยโอจิไอ โยชิอิคุ

ในการทัพปราบตระกูลโฮโจ เขาได้เป็นผู้นำกองทัพเรืออาวาจิ (淡路水軍) ในการเข้าโจมตีปราสาทชิโมดะ และเมื่อฮิเดโยชิรวมแผ่นดินญี่ปุ่นได้สำเร็จ ก็ได้ทำการยกทัพบุกเกาหลี โดยเขามีบทบาททั้งในการรบทั้งทางบกและทางน้ำ ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 1597 เขาได้เป็นแม่ทัพเรือควบคู่กับโทโดะ ทากาโทระ สามารถเอาชนะกองทัพของวอน กยุนที่ช่องแคบชีลชอนลยอง (ภาษาญี่ปุ่นจะเรียก ชิสเซนเรียว, 漆川梁)

เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1598 เขาได้คอยช่วยเหลือกองทัพบกในการต่อสู้ช่วงฤดูใบไม้ผลิและส่งเสือที่เขาล่ามาได้ไปให้แก่ฮิเดโยชิและเขาได้รับคำชื่นชม แม้ว่ากองทัพญี่ปุ่นจะชนะการต่อสู้ แต่ขวัญกำลังใจก็ไม่เพิ่มขึ้น ในเดือนเมษายน โคนิชิ ยูกินากะและขุนพลคนอื่น ๆ ได้รับรู้ถึงข่าวกำลังเสริมของราชวงศ์เหม็ง จึงตัดสินใจที่จะถอนทัพ แต่เขาได้คัดค้านอย่างรุนแรง เมื่อฮิเดโยชิได้ทราบข่าว จึงได้มอบรางวัลจำนวน 37,000 โคกุ และฮิเดโยชิได้ตั้งใจไว้ว่าจะแต่งตั้งให้เขาเป็นไดเมียวที่มีรางวัลจำนวน 100,000 โคกุ แต่เมื่อฮิเดโยชิเสียชีวิตในเดือนกันยายน กองทัพญี่ปุ่นที่เหลือก็ได้ทำการถอนทัพกลับ

สมัยของรัฐบาลโชกุนเอโดะ แก้

ในปี ค.ศ. 1599 เขาได้มีความขัดแย้งกับอิชิดะ มิตสึนาริ จึงได้คิดวางแผนลอบสังหารมิตสึนาริ โดยได้ร่วมมือกับ คาโตะ คิโยมาสะ, ฟุกุชิมะ มาซาโนริ, คุโรดะ นางามาสะ, โฮโซคาวะ ทาดะโอกิ, อาซาโนะ ยุคินากะ และ อิเคดะ เทรุมาสะ โดยพวกเขาทั้งเจ็ดคนได้บุกไปที่บ้านของมิตสึนาริที่อยู่ในโอซากะ มิตสึนาริต้องหนีไปที่ปราสาทซาวายามะ เมื่อศึกเซกิงาฮาระได้เกิดขึ้น เขาได้นำทหารของตนเองจำนวน 3,000 นาย มาเข้าร่วมกับอิเอยาสุ

หลังจากการรบ เขาได้รับตำแหน่งเป็นโทซามะไดเมียว และได้รับรางวัลจำนวน 200,000 โคกุในแคว้นอิโยะ และได้มีการสร้างปราสาทมัตสึยามะ (ซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่มัตสึยามะ จังหวัดเอฮิเมะ) เมื่อโทกุงาวะ ฮิเดะทาดะได้เป็นโชกุน เขาก็ได้เป็นผู้อำนวยการก่อสร้างปราสาทเอโดะ ปราสาทซุนปุ ปราสาทซาซายามะ และปราสาทนาโกยะ

ในการทัพโอซากะช่วงฤดูหนาว ปี ค.ศ. 1614 เขาได้สละตำแหน่งผู้นำให้แก่อะกินาริผู้เป็นลูกชายคนโต และรับใช้โชกุนฮิเดทาดะ และเข้าร่วมในการทัพโอซากะช่วงฤดูร้อนในปี ค.ศ. 1615

ในสมัยของโชกุนอิเอมิตสึ เขาได้เป็นกรมวังในสังกัดของจักรพรรดิโกะ-มิสุโนะควบกับตำแหน่งราชองครักษ์ประจำปราสาทนิโจในปี ค.ศ. 1626 ในปีต่อมา เขาได้ย้ายไปอยู่ที่ปราสาทวากามัตสึในแคว้นไอซุ ซึ่งมีจำนวนประมาณ 435,500 โคกุ เขาเสียชีวิตในวัย 68 ปี และได้รับชื่อธรรมะ คือ โชเอ็นอินเด็น ชูอิชากุ โดโย ไดเซ็นโจมง (松苑院殿拾遺釈道誉大禅定門) ก่อนที่จะมาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ซันเนียวอิน โดโย เซ็นเคียว (三明院道誉宣興) ในปี ค.ศ. 1647

11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1917 เขาได้รับการอวยยศย้อนหลังเป็นขุนนางชั้นสาม (Junior third rank, 従三位) โดยจักรพรรดิไทโช

เรื่องเบ็ดเตล็ด แก้

คาโตะ โยชิอากิ มีข้ารับใช้อยู่ 6 คน มีรายนามต่อไปนี้

  1. สึคุดะ คะสุนาริ (佃 十成) เขามีชื่อเสียงจากการโจมตีตอนกลางคืนที่มิตสึฮามะในแคว้นอิโยะ (การรบเกิดขึ้นประมาณวันที่ 23 ถึง 24 ตุลาคม ค.ศ. 1600) ซึ่งในการรบครั้งนั้น เขาสามารถเอาชนะมุราคามิ โมโตโยชิ ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิชิดะ
  2. บัน ดันเอมง (塙 団右衛門) มีชื่อเสียงในการเข้าร่วมกับตระกูลโทโยโตมิในช่วงศึกโอซาก้า ซึ่งในอดีต เขาเคยเป็นผู้นำกองพลปืนไฟ ให้กับโยชิอากิ แต่เขาได้ตัดสินใจยกเลิกรับใช้โยชิอากิในปี ค.ศ. 1600
  3. คุโรดะ คิวเบ นาโอะสึกุ (黒田 九兵衛 直次) เสียชีวิตในการโจมตีที่มิตสึฮามะ
  4. ยาบุ โยซาเอมง (藪 与左衛門) ไม่ทราบรายละเอียด
  5. อิชิกาวะ ริวจิ (石川 隆次) ไม่ทราบรายละเอียด
  6. อะดาจิ ชิเงะโนบุ (足立 重信) เป็นข้ารับใช้ของโยชิอากิ ได้รับการแต่งตั้งย้อนหลัง เป็นขุนนางชั้นที่ห้า ในปี ค.ศ. 1919

อ้างอิง แก้

  • 徳永真一郎「加藤左馬助嘉明」(『賤ヶ岳七本槍』(PHP文庫)収録)
  • 南条範夫「口惜しや忰の愚昧-加藤左馬助嘉明」(『おのれ筑前、我敗れたり』(文春文庫)収録)