ความขัดแย้งภายในพม่า

ความขัดแย้งภายในพม่า หมายถึง ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศพม่าปัจจุบัน ซึ่งมีมาตั้งแต่ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรใน พ.ศ. 2491 รัฐบาลกลางหลายชุดต่อกันมาได้สู้รบกับกบฏเชื้อชาติและการเมืองไม่จบสิ้น ในการก่อการกำเริบช่วงแรก ๆ เกิดจากพวกนิยมซ้าย "หลายสี" ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า และโดยสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กบฏเชื้อชาติอื่นปะทุขึ้นเฉพาะช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 หลังรัฐบาลกลางปฏิเสธรัฐบาลแบบสหพันธรัฐ อย่างไรก็ดี นับแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา การก่อการกำเริบด้วยอาวุธที่มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองค่อย ๆ หมดไปเป็นส่วนใหญ่ แต่การก่อการกำเริบด้านเชื้อชาติยังคงอยู่ และยังไม่มีทีท่ายุติ

ความขัดแย้งภายในพม่า

สถานการณ์การทหารในพม่า ข้อมูลเมื่อ 28 พฤษภาคม 2567 (2567 -05-28) พื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพพม่าจะเน้นด้วยสีแดง
วันที่2 เมษายน พ.ศ. 2491[2] – ปัจจุบัน
(76 ปี 11 เดือน 1 สัปดาห์)
สถานที่
สถานะ กำลังดำเนินอยู่
คู่สงคราม

รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (ตั้งแต่ 2021)


กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์[a]
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
มี่นอองไลง์ ดู่หว่า ละชี ละ
หน่วยที่เกี่ยวข้อง
 ตะมะดอ หลากหลาย
กำลัง
  • 406,000 (2021 IISS ประมาณการ)[3]
  • 150,000 (2023 USIP ประมาณการ)[4]
จำนวนกำลังทั้งหมดไม่ทราบแน่ชัด
ความสูญเสีย
เสียชีวิต 180,000+ [b]
โยกย้ายในประเทศ 600,000–1,000,000

การก่อการกำเริบเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนหรือถูกต่างชาติบงการ ทำให้การปิดประเทศทรุดหนัก ความสงสัยและความกังวลในหมู่ชาวพม่าทั้งชนกลุ่มน้อยในประเทศและต่างประเทศ อังกฤษบางกลุ่มสนับสนุนกะเหรี่ยง ปากีสถานตะวันออก (บังกลาเทศปัจจุบัน) หนุนหลังมุสลิมโรฮีนจาตามแนวชายแดนกับการหนุนหลังของตะวันออกกลาง อินเดียกล่าวกันว่าข้องเกี่ยวกับกะชีนและกะเหรี่ยง จีนสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์พม่า (ภายหลังคือ พวกว้า) กบฏนากและกะชีน สหรัฐสนับสนุนก๊กมินตั๋ง และไทยสนับสนุนกลุ่มกบฏหลายกลุ่ม เพื่อสร้างรัฐหรือพื้นที่กันชน[7] ก่อนการหยุดยิง กองทัพที่มีชาวพม่าเป็นส่วนใหญ่ได้ดำเนินการทัพในฤดูแล้งทุกปีแต่คว้าน้ำเหลว พวกกบฏจะกลับมาทุกครั้งเมื่อกองทัพถอนกำลังกลับไป

รัฐบาลกลางที่พม่าครอบงำ (พลเรือนหรือคล้ายทหาร) ไม่สามารถบรรลุความตกลงทางการเมืองได้แม้เป้าหมายของการก่อการกำเริบทางเชื้อชาติสำคัญส่วนมาก (รวมทั้ง KNU) คือ การปกครองตนเองมิใช่การแยกตัวเป็นเอกราช ปัจจุบัน รัฐบาลได้ลงนามความตกลงหยุดยิงอย่างอึดอัดกับกลุ่มก่อการกำเริบส่วนใหญ่ แต่กองทัพยังไม่ได้รับความเชื่อใจจากประชากรท้องถิ่น กองทัพถูกกล่าวหาอย่างกว้างขวางว่าปฏิบัติต่อประชากรท้องถิ่นอย่างเลวร้ายแต่ไม่ถูกลงโทษ และถูกมองว่าเป็นกองกำลังยึดครองในภูมิภาคเชื้อชาติต่าง ๆ

สมัยปัจจุบัน ความขัดแย้งนั้นเป็นไปเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารซึ่งปกครองประเทศตั้งแต่ พ.ศ. 2505 ถึง 2554 ความขัดแย้งนี้เป็นสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก[8] และได้รับความสนใจจากนานาชาติอันเป็นผลจากการก่อการกำเริบ 8888 ใน พ.ศ. 2531, งานของนักเคลื่อนไหว ออง ซาน ซูจี, การประท้วงต่อต้านรัฐบาลในปลาย พ.ศ. 2550 และความเสียหายอันเกิดขึ้นจากพายุไซโคลนนาร์กิส ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 80,000 คน และสูญหายอีก 50,000 คน ในกลาง พ.ศ. 2551

การหยุดยิง พ.ศ. 2555

แก้

ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 รัฐบาลพม่าประกาศความตกลงหยุดยิงกับกบฏกะเหรี่ยง การหยุดยิงรวมถึงความตกลงซึ่งกำหนดการสื่อสารเปิดเผยระหว่างรัฐบาลกับกบฏกะเหรี่ยง เช่นเดียวกับเปิดช่องทางปลอดภัยแก่กบฏกะเหรี่ยงในประเทศ รัฐบาลพม่าได้นิรโทษกรรมนักโทษ KNU กว่า 6,000 คน และลดโทษนักโทษอีก 38,964 คน[9]

ความตกลงสันติภาพระหว่าง KNU กับรัฐบาลพม่าเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องหลักโดยประเทศตะวันตกก่อนจะมีการยกเลิกการลงโทษทางเศรษฐกิจ[10]

ดูเพิ่ม

แก้

เชิงอรรถ

แก้
  1. รัฐบาลพม่าเรียกกลุ่มกบฏทั้งหมดว่า "กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์" รวมถึงกลุ่มอื่น เช่น แนวร่วมประชาธิปไตยของมวลนักศึกษาพม่า และพรรคคอมมิวนิสต์พม่า ซึ่งไม่ได้ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มชาติพันธุ์ใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ[1]
    • 130,000 (1948–2011)[5]
    • 53,000+ (ตั้งแต่ 2011)[6]

อ้างอิง

แก้
  1. "Ethnic armed organisations' conference commences" (ภาษาอังกฤษ). Government of Myanmar. 26 July 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 February 2021. สืบค้นเมื่อ 8 February 2022.
  2. Lintner, Bertil; Wyatt (maps prepared by), David K. (1990). The rise and fall of the Communist Party of Burma (CPB). Ithaca, NY: Southeast Asia Program, Cornell University. p. 14. ISBN 0877271232. สืบค้นเมื่อ 15 December 2016.
  3. IISS 2021, pp. 285–287.
  4. Hein, Ye Myo. "Myanmar's Military Is Smaller Than Commonly Thought — and Shrinking Fast". United States Institute of Peace (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 12 April 2024.
  5. "Modern Conflicts Database: Alternative Estimates for Death Tolls" (PDF). Political Economy Research Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 20 July 2011.
  6. "ACLED Dashboard". Armed Conflict Location and Event Data Project. สืบค้นเมื่อ 4 December 2023.
  7. Steinberg, p. 44
  8. Burma: world's longest war nears its end (2009!) เก็บถาวร 2009-05-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. In Burma the war has go on from 1949, the war i Sudan start in 1955.
  9. http://www.nytimes.com/2012/01/13/world/asia/myanmar-signs-truce-with-ethnic-rebel-group.html Burmese Government and Ethnic Rebel Group Sign Cease-Fire
  10. http://www.bbc.co.uk/news/world-asia-16523691 Burma government signs ceasefire with Karen rebels