กรมหลวงพิพิธมนตรี
กรมพระเทพามาตุ มีพระอิสริยยศเดิมว่า กรมหลวงพิพิธมนตรี[1] หรือ กรมหลวงพิจิตรมนตรี[2] เป็นพระอัครมเหสีน้อย[3] ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ และเป็นสมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวงในสมเด็จพระเจ้าอุทุมพรและสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์
กรมพระเทพามาตุ (พลับ) | |
---|---|
พระพันปีหลวง | |
กรมพระเทพามาตุ | |
ดำรงพระยศ | 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2301 - ประมาณตั้งเเต่ 31 ตุลาคม-29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2301 |
ก่อนหน้า | กรมพระเทพามาตย์ (กัน) |
ถัดไป | กรมพระเทพามาตย์ (นกเอี้ยง) |
พระอัครมเหสีกรุงศรีอยุธยา | |
ดำรงพระยศ | พ.ศ. 2280 - พ.ศ. 2301 |
ก่อนหน้า | กรมหลวงอภัยนุชิต |
ถัดไป | กรมขุนวิมลพัตร |
สวรรคต | ประมาณตั้งเเต่ 31 ตุลาคม-29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2301 |
ถวายพระเพลิง | 7 เมษายน พ.ศ. 2302 |
พระราชสวามี | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ |
พระราชบุตร | 8 พระองค์ |
ราชวงศ์ | บ้านพลูหลวง |
พระราชบิดา | นายจบคชประสิทธิ์ |
พระราชประวัติ
แก้พระพันวษาน้อย เป็นพระธิดาของนายช้างทรงบาศในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยพระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ระบุว่าเมื่อสมเด็จพระเพทราชาปราบดาภิเษก พระบิดานั้นได้รับแต่งตั้งเป็นกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข[4] แต่บัญชีพระนามเจ้านายในคำให้การชาวกรุงเก่าระบุว่า พระบิดาได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าพระบำเรอภูธร ส่วนมารดาเป็นสตรีเชื้อสายพราหมณ์บ้านสมอปลือ เมืองเพชรบุรี พระองค์มีพระนามเดิมว่าพลับ มีพระเชษฐภคินีพระองค์หนึ่งคือพระองค์ขาว ซึ่งได้เป็นพระชายาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นพระบัณฑูรน้อย ส่วนพระองค์พลับต่อมาก็ได้เป็นพระชายารองในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเช่นกัน ในระหว่างดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล พระองค์พลับมีพระราชโอรส 2 พระองค์ และพระราชธิดา 6 พระองค์ ตามลำดับดังนี้[5]
- เจ้าฟ้าหญิงสิริประชา (หรือเจ้าฟ้าประชาวดี)
- เจ้าฟ้าหญิงสิริประภา (หรือเจ้าฟ้าประภาวดี)
- เจ้าฟ้าหญิงอินทวดี (หรือเจ้าฟ้าพินทวดี)
- เจ้าฟ้าหญิงกษัตรีย์
- เจ้าฟ้าชายเอกทัศน์ กรมขุนอนุรักษ์มนตรี (คือสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์)
- เจ้าฟ้าหญิงบัวจัน (หรือเจ้าฟ้าจันทรวดี)
- เจ้าฟ้าหญิงนวน (หรือเจ้าฟ้านุ่ม)
- เจ้าฟ้าชายอุทุมพรราชกุมาร กรมขุนพรพินิต (สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร)
พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ระบุว่าเมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศปราบดาภิเษกในปี พ.ศ. 2275 ได้แต่งตั้งพระชายารองเป็นกรมหลวงพิพิธมนตรี[6] ในตำแหน่งพระอัครมเหสีน้อย จึงออกพระนามว่าพระพันวษาน้อย
แรม 5 ค่ำ เดือน 6 พ.ศ. 2301 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศประชวรหนักใกล้สวรรคต กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (เจ้าฟ้าชายอุทุมพร) โปรดให้ทูลเชิญกรมหลวงพิพิธมนตรี เจ้าฟ้าจันทวดี และกรมขุนยี่สารเสนี ไปประทับ ณ พระตำหนักสวนกระต่าย[7] เมื่อสวรรคตแล้ว กรมพระราชวังบวรสถานมงคลจึงขึ้นสืบราชสมบัติ แต่ได้เพียง 10 วัน ก็ถวายราชสมบัติแก่กรมขุนอนุรักษ์มนตรี แล้วเสด็จออกผนวช ส่วนกรมขุนอนุรักษ์มนตรีขึ้นครองราชย์เฉลิมพระนามว่าสมเด็จพระบรมราชา แล้วโปรดให้ตั้งพระบรมราชชนนีเป็น กรมพระเทพามาตุ แต่เมื่อถึงเดือน 12 พระบรมราชชนนีก็เสด็จสวรรคต จึงโปรดให้ตั้งพระบรมโกศไว้คู่กับพระบรมโกศพระบรมราชชนก ณ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ แล้วถวายพระเพลิงทั้งสองพระองค์พร้อมกันในวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 5 พ.ศ. 2303[8]
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม
แก้กรมพระเทพามาตุ หรือ กรมหลวงพิพิธมนตรี เป็นตัวละครในละครโทรทัศน์ ดังนี้
- ปนัดดา โกมารทัต ในละครโทรทัศน์เรื่อง บางระจัน เมื่อ พ.ศ. 2558
- สินจัย เปล่งพานิช ในละครโทรทัศน์เรื่อง ศรีอโยธยา เมื่อ พ.ศ. 2560
ดูเพิ่ม
แก้- เชิงอรรถ
- ↑ ประชุมคำให้การกรุงศรีอยุธยา รวม 3 เรื่อง, หน้า 174
- ↑ ประชุมคำให้การกรุงศรีอยุธยา รวม 3 เรื่อง, หน้า 116
- ↑ นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย, หน้า 172
- ↑ พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น, หน้า 318
- ↑ พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น, หน้า 623-624
- ↑ พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น, หน้า 356
- ↑ พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น, หน้า 368
- ↑ พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น, หน้า 371
- บรรณานุกรม
- มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา, 2554. 264 หน้า. ISBN 978-616-7308-25-8
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2553. 800 หน้า. ISBN 978-616-7146-08-9
- ประชุมคำให้การกรุงศรีอยุธยา รวม 3 เรื่อง. กรุงเทพฯ : แสงดาว, 2553. 536 หน้า. ISBN 978-616-508-073-6
ก่อนหน้า | กรมหลวงพิพิธมนตรี | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
กรมหลวงอภัยนุชิต | พระอัครมเหสีกรุงศรีอยุธยา (2280 – 2301) |
กรมขุนวิมลพัตร |