สโมสรฟุตบอลวีแกนแอทเลติก
สโมสรฟุตบอลวีแกนแอทเลติก (อังกฤษ: Wigan Athletic F.C.) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า วีแกน (Wigan) เป็นสโมสรฟุตบอลระดับอาชีพของอังกฤษ ตั้งอยู่ที่เมืองวีแกน เทศมณฑลเกรเทอร์แมนเชสเตอร์ ลงแข่งขันในลีกวัน มีสนามเหย้าชื่อดีดับเบิลยูสเตเดียม ในเมืองวีแกน โดยแบ่งกันใช้สนามกับสโมสรรักบี้ วีแกนวอร์ริเออร์ส
ชื่อเต็ม | สโมสรฟุตบอลวีแกนแอทเลติก (Wigan Athletic Football Club) | ||
---|---|---|---|
ฉายา | เดอะ ลาติกส์ (The Latics) | ||
ก่อตั้ง | 1932 | ||
สนาม | ดีดับเบิลยู สเตเดียม วีแกน, อังกฤษ | ||
ความจุ | 25,138 ที่นั่ง[1] | ||
ประธาน | ดาร์เรน รอยล์ | ||
ผู้จัดการ | Shaun Maloney | ||
ลีก | ลีกวัน | ||
2022–23 | ลีกวัน, อันดับที่ 12 | ||
เว็บไซต์ | เว็บไซต์สโมสร | ||
|
วีแกน แอทเลติก เคยลงแข่งขันในระดับพรีเมียร์ลีก ในช่วงระหว่างปี ค.ศ.2005−2013 โดยได้รับการบันทึกว่าเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกที่ 81 ปี
โดยสโมสรเคยได้แชมป์รายการสำคัญเพียงรายการเดียว คือเอฟเอคัพ ในฤดูกาล 2012–13 ด้วยการเอาชนะสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี ซึ่งเป็นสโมสรที่ใหญ่กว่าไปได้ 1–0 แต่ทว่าในฤดูกาลเดียวกันนั้นเองสโมสรกลับต้องตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก โดยถือเป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวจนถึงปัจจุบันนี้ที่ได้แชมป์เอฟเอคัพ แต่กลับต้องตกชั้นลงไปเล่นในลีกที่ต่ำกว่า[2]
ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยของยุโรป สโมสรเคยเข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2013–14
ประวัติ
แก้ประวัติศาสตร์สโมสร
แก้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1932 หลังการยุบทีมของสโมสรท้องถิ่น วีแกนโบโรเพียงหนึ่งปี ซึ่งทางวีแกนแอทเลติก ได้ทำการซื้อสนามสปริงฟีลด์ปาร์ค จากวีแกนโบโรอีกด้วย จากนั้นพวกเขาก็ได้รับเลือกให้เข้าสู่เชสเชียร์เคาน์ตีลีก
ในช่วงเริ่มต้นของสโมสรนั้น ผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือ การที่สโมสรนั้นชนะคาร์ไลลส์ยูไนเต็ด ไป 6-1 ในเอฟเอ คัพรอบแรก ฤดูกาล 1934-35 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในฟุตบอลถ้วย ที่ทีมจากนอกลีก ชนะทีมจากในลีก ซึ่งเป็นสถิติจนถึงทุกวันนี้ ต่อมาในปีค.ศ. 1945 วีแกนได้ถูกเลือกเข้าไปในอีกลีกคือ เดอะแลงคาเชียร์คอมบิเนชั่น ซึ่งในปีค.ศ. 1950 สโมสรก็พลาดการเข้าสู่ฟุตบอลลีกเพราะสโมสรได้แพ้ให้กับสคันธอร์ปยูไนเต็ด ในการโหวต
เข้าสู่ฟุตบอลลีก
แก้ในยุคของ รอย บี.มาติน หัวเรือใหญ่คนเมืองวีแกนแท้ เมื่อปี1944 ได้เข้ามายกระดับทีมจากดีวิชั่น3ในปีดังกล่าว โดยการหากลุ่มทุนจากสมาคมนักตกปลามอร์ซี่ และกลุ่มทุนจากประเทศกรีซ เข้ามาเป็นสปอนเซอร์หลักในช่วงแรกๆ ถึงตัวผู้เล่นคนสำคัญอย่าง โคบี้ อลันแกรนดวงยิงทีมชาติเวลล์ และกองกลางอย่าง ทีโมน ปาเก้ จากเซบีย่า ประกอบกับแผน4-3-3 ที่แตกต่างจากทีมสโมสรอังกฤษในยุคนั้น โดยกุนซือเจมส์ กราเนอร์ ทำสถิติไร้พ่ายติดกันถึง21นัดในปี1945 จากนั้นอีกสองปีวีแกนได้เลื่อนขึ้นดิวิชั่น1 ในยุคที่ทัพหงส์แดงครองหัวตาราง แต่ทว่าในปีแรกที่เลื่อนชั้นต้องพบกับลิเวอร์พลูเป็นนัดแรก และเป็นวีแกนในยุคของกราเนอร์ไล่ถล่มประตูไปได้ถึง0-90 ในรังแอนฟิล เรียกได้ว่าทำหนึ่งประตูต่อหนึ่งนาทีเลยทีเดียว
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เลื่อนชั้นอย่างต่อเนื่อง
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วีแกนในพรีเมียร์ลีก
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วีแกนได้ขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล2005/2006 โดยวีแกนจบด้วยอันดับ10 และปาสกาล ชิมบงด้า กองหลังของทีมได้ติดทีมยอดเยี่ยมของฤดูกาลก่อนที่ฤดูกาล2006/2007 วีแกนฟอร์มตกอย่างชัดเจนก่อนที่นัดสุดท้ายวีแกนสามารถเอาชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 จบด้วยอันดับ17ซึ่งเหนือโซนตกชั้นไป1อันดับหลังจากนั้นพอล จีเวล ได้ลาออกจากตำแหน่งและเป็นคริส ฮัทชิ่ง เข้ามาคุมทีมแทนก่อนฮัทชิ่งจะโดนปลดออกในเวลาต่อมาวีแกนได้แต่งตั้งสตีฟ บรูซ มาเป็นผู้จัดการทีมและก่อนฤดูกาล2009/2010จะเริ่มขึ้นบรูซได้ลาออกไปคุมซันเดอร์แลนด์หลังจากนั้นวีแกนได้แต่งตั้งโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ อดีตนักเตะวีแกนชาวสเปนขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมในฤดูกาล2009-2010 วีแกนสามารถเอาชนะbig 4(แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด,อาร์เซนอล,ลิเวอร์พูล,เชลซี)ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นชั้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกโดยชนะเชลซี3-1 ในช่วงเดือนพฤศจิกายนวีแกนบุกไปแพ้ท็อตแน่มฮ็อตสเปอร์ 9-1 ซึ่งถือว่าแพ้ย่อยยับที่สุดของสโมสรในรอบ31ปีโดยเป็นการแพ้ที่ย่อยยับที่สุดนับตั้งแต่เกมส์ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ชนะ อิปสวิสทาวน์ 9-0 ในปี1995ในฤดูกาลนี้วีแกนทำผลงานได้อย่างย่ำแย่แต่สิ่งที่น่าจดจำในปีนี้คือสามารถพลิกล็อกเอาชนะลิเวอร์พูลได้1-0จากฮูโก้ โรดาเยก้า กองหน้าทีมชาติโคลอมเบียและประตูของเมย์เนอร์ ฟิเกรัว กองหลังทีมชาติฮอนดูรัสในเกมส์พบสโต๊คซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นgoal of the season โดยฟิเกรัวยิงจากครึ่งสนามเข้าประตูแต่สุดท้ายก็จบด้วยการเสมอ2-2
สปอนเซอในปัจจุบัน
แก้ปัจจุบันวีแกนแอทเลติกได้รับการสนับสนุนจาก 12bet ซึ่งดำเนินงานโดย Pacific Sea Invests S.A. (“PSI”)
ผู้เล่นชุดปัจจุบัน
แก้หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
อดีตผู้เล่นที่โด่งดัง
แก้- ปีเตอร์ อเตอร์ตัน
- โรเบร์โต มาร์ติเนซ (1995−2001)
- เลห์ตัน เบนส์ (2002−2007)
- มาร์คัส เบนท์
- จิมมี่ บูลลาร์ด
- รอย คาร์โรลล์
- ปัสกาล แช็งบงดา (2005−2006)
- ปีเตอร์ คอลล์
- อายันส์ เดอ ซูส์
- เกรแอม คาวานาฟ
- เควิน คิลบาน
- นาธาน เอลลิงตัน
- จอห์น ฟีแลน
- เอมีล เฮสกีย์ (2006−2009)
- พอล จีเวลล์
- ลี แมคคัลลอช
- สตีเว่น แม็คมิลาน
- วิลสัน ปาลาซิออส (2008−2009)
- อันโตนิโอ บาเลนเซีย (2006−2009)
- อะลี อัลฮับซี (2010−2015)
- ไตตัส บรัมเบิล (2007−2010)
- เจสัน โรเบิร์ต
- ลี แคตเทอร์โมล
เกียรติประวัติ
แก้- อีเอฟแอลแชมเปียนชิป
- รองแชมป์ : 2004–2005
- อีเอฟแอลลีกวัน
- เอฟเอคัพ
- แชมป์ : (2012–2013)[3]
- ลีกคัพ
- รองแชมป์ : 2005–2006
อ้างอิง
แก้- ↑ "JJB Stadium - Facts & Figures". Wigan Warriors. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-10-14. สืบค้นเมื่อ 2006-12-29., "12bet". 12bet. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-19. สืบค้นเมื่อ 2012-03-21.
- ↑ หน้า 23 ต่างประเทศ กีฬา, เรือได้ลุ้นล้างตาวีแกนศึกเอฟเอคัพ. "ปืนจ่อเซ็น'โอบาเมย็อง'60ล้านปอนด์". คมชัดลึกปีที่ 17 ฉบับที่ 5921: วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561
- ↑ "'วีแกน'คว้าแชมป์เอฟเอคัพพลิกคว่ำเรือ". คมชัดลึก. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-12. สืบค้นเมื่อ 2013-05-11.