ซามูเอล จอร์จ คลาฟลิน (อังกฤษ: Samuel George Clafflin) หรือ แซม คลาฟลิน เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1986 เป็นนักแสดงชาวอังกฤษ มีผลงานการแสดงครั้งแรกในละครชุดเรื่อง หลั่งเลือดค้ำบัลลังก์โลกหล้า (ค.ศ. 2010) โดยรับบทเป็น "อัศวินริชาร์ดแห่งคิงส์บริดจ์" ก่อนที่เขาจะได้มีผลงานการแสดงภาพยนตร์เป็นเรื่องแรกในภาพยนตร์ชุดไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน ภาค ผจญภัยล่าสายน้ำอมฤตสุดขอบโลก (ค.ศ. 2011) โดยรับบทเป็นมิชชันนารี "ฟิลิป สวิฟต์"

แซม คลาฟลิน
เกิดแซมมูเอล จอร์จ คลาฟลิน
(Samuel George Claflin)

(1986-06-27) 27 มิถุนายน ค.ศ. 1986 (37 ปี)
อิปสวิช, ประเทศอังกฤษ
อาชีพนักแสดง
ปีปฏิบัติงาน2009–ปัจจุบัน
คู่สมรสลอรา แฮดด็อก (สมรส 2013; 2019)
บุตร2

ส่วนผลงานการแสดงของเขาในภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ เช่นการรับบทเป็น "ดังคัน เอดเวิดส์" กองกลางของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดใน ยูไนเต็ด สู้สุดฝันวันแห่งชัยชนะ (ค.ศ. 2011), บท "ฟินนิก โอแดร์" ใน เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ และ เกมล่าเกม 3 ม็อคกิ้งเจย์ (ค.ศ. 2013–2015) รวมถึงการรับบทนักแสดงนำใน มี บีฟอร์ ยู (ค.ศ. 2016), สุดเขตแดนศึก (ค.ศ. 2017), รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน (ค.ศ. 2018), รัก แต่ง ซ้ำ (ค.ศ. 2020), บท "ไมครอฟต์ โฮมส์" ใน เอโนลา โฮล์มส์ และบท "เซอร์ ออสวอลด์ โมสลีย์" ในละครชุดที่ได้รับความนิยมทางเน็ตฟลิกซ์เรื่อง พีกี้ ไบลน์เดอร์ส (ค.ศ. 2019–22)

ชีวิตส่วนตัวของเขา เขามีน้องชายหนึ่งคนที่เข้าวงการบันเทิงเช่นกันกับเขานั่นคือโจ คลาฟลิน และเคยสมรสกับลอรา แฮดด็อก และเลิกรากัน ปิดฉาก 6 ปีแห่งความรัก[1][2]

วัยเด็ก แก้

คลาฟลิน เกิดที่เมืองอิปสวิช เทศมณฑลซัฟฟอล์ก ประเทศอังกฤษ[3] เป็นบุตรชายของ มาร์ค คลาฟลิน และ ซู คลาฟลิน พ่อของเขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การเงินและแม่ของเขาทำงานเป็นผู้ช่วยครู เขามีพี่ชาย 2 คน และน้องชาย 1 คน โดยน้องชายของเขา "โจเซฟ คลาฟลิน" เป็นนักแสดงผู้มีผลงานในละครโทรทัศน์เรื่อง มหาศึกชิงบัลลังก์ และ ดาวินชี่ อัจฉริยะจอมอหังการ[4] แม้ว่าเขาจะเกิดที่เมืองอิปสวิชแต่เขาใช้ชีวิตในวัยเด็กและเติบโตที่เมืองนอริช เทศมณฑลนอร์ฟอล์ก

ในวัยเด็กคลาฟลิน ชื่นชอบและมีทักษะทางฟุตบอล โดยเขาเคยเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน และมีความตั้งใจจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพของสโมสรฟุตบอลนอริชซิตี แต่กลับประสบปัญหาอาการบาดเจ็บหนักที่หัวเข่า ทำให้ไม่สามารถเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างที่ตั้งใจได้ หลังจากนั้นเขาได้มีโอกาสแสดงละครเวทีของโรงเรียน และฉายแววความเป็นนักแสดงออกมาบนเวที พ่อแม่รวมถึงครูที่โรงเรียนจึงแนะนำให้เขาศึกษาต่อทางด้านการแสดง[3][5]

หลังจากที่เขาออกจากศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสรฟุตบอลนอริชซิตี[6]เขาได้ย้ายไปเรียนทางด้านการแสดงที่วิทยาลัยนอริช ซิตี ในปี ค.ศ. 2003[5] ก่อนจะย้ายไปลอนดอนเพื่อเรียนต่อที่สถาบันดนตรีและศิลปะการละครแห่งลอนดอน จนจบการศึกษาในปี ค.ศ. 2009[7]

อาชีพนักแสดง แก้

หลังจบการศึกษาจากสถาบันดนตรีและศิลปะการละครแห่งลอนดอน เขามีผลงานการแสดงเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2010 ในละครโทรทัศน์เรื่อง หลั่งเลือดค้ำบัลลังก์โลกหล้า โดยรับบทเป็น "อัศวินริชาร์ดแห่งคิงส์บริดจ์" และ พิทักษ์อนาคต พิภพดึกดำบรรพ์ จากนั้นในปี ค.ศ. 2011 เขาได้รับการติดต่อให้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ของยูนิเวอร์แซลพิกเจอส์เรื่อง บุตรคนที่ 7 จอมมหาเวทย์ ซึ่งสร้างมาจากนวนิยายเรื่อง "เดชหมอผี" แต่กลับไม่สามารถตกลงเงื่อนไขกันได้ บทดังกล่าวจึงตกเป็นของ เบ็น บานส์[8] หลังจากนั้นเขายังคงมีผลงานทางโทรทัศน์โดยแสดงเป็น "ดังคัน เอดเวิดส์" อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ ใน ยูไนเต็ด สู้สุดฝันวันแห่งชัยชนะ (ค.ศ. 2011) ทางช่องบีบีซี

แซม คลาฟลิน ได้รับโอกาสในการแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกใน ผจญภัยล่าสายน้ำอมฤตสุดขอบโลก (ค.ศ. 2011) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ชุดภาคที่ 4 ของ ไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน โดยรับบทเป็นมิชชันนารี "ฟิลิป สวิฟต์" จากบทดังกล่าวทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอมไพร์อวอร์ด สาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และเริ่มมีชื่อเสียงในแวดวงภาพยนตร์อเมริกัน ต่อมาเขามีผลงานในภาพยนตร์ที่สร้างจากเทพนิยายเรื่อง สโนว์ไวท์และพรานป่า ในศึกมหัศจรรย์ (ค.ศ. 2012) รวมถึงการรับบทเป็น "เฟนนิค โอแดร์" ใน เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ (ค.ศ. 2013)

ในปี ค.ศ. 2014 เขามีผลงานการแสดงภาพยนตร์ถึง 4 เรื่องได้แก่ ดัก จับ ผี, ชมรมสุภาพบุรุษสุดเฮ้ว, เพื่อนรักกั๊กเป็นแฟน และ เกมล่าเกม 3 ม็อคกิ้งเจย์ ต่อมาในปี ค.ศ. 2016 เขาได้แสดงนำคู่กับเอมีเลีย คลาร์กในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทางรายได้อย่างสูงเรื่อง มี บีฟอร์ ยู โดยเขาต้องรับบทชายที่เป็นอัมพาต และมาได้รับกระแสคำชื่นชมจากนักวิจารณ์รวมถึงสื่อต่างๆกับฝีมือการแสดงที่พัฒนาขึ้นกับบทบาทการแสดงในภาพยนตร์สงครามเรื่อง สุดเขตแดนศึก (ค.ศ. 2017) ที่เขาต้องรับบทเป็น "ร้อยเอก สแตนโฮป"

ปี ค.ศ. 2018 เขาแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน และแสดงภาพยนตร์ระทึกขวัญจากประเทศออสเตรเลียเรื่อง ปักษาพยาบาท ก่อนจะมีผลงานในละครชุดที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทางบีบีซีและเน็ตฟลิกซ์เรื่อง พีกี้ ไบลน์เดอร์ส ในซีซันที่ 5–6 (ค.ศ.2019–2022) โดยรับบทเป็น "เซอร์ ออสวอลด์ โมสลีย์" นักการเมืองผู้ฝักใฝ่ลัทธิฟาสซิสต์ โดยในปี ค.ศ. 2019 เขาได้มีผลงานการแสดงร่วมกับ โจ คลาฟลิน น้องชายของเขาเป็นครั้งแรกใน เดอะ คอร์รัปเตด

ผลงานการแสดง แก้

ภาพยนตร์ แก้

ปี เรื่อง บท หมายเหตุ
2011 ผจญภัยล่าสายน้ำอมฤตสุดขอบโลก มิชชันนารี ฟิลิป สวิฟต์
2012 สโนว์ไวท์และพรานป่า ในศึกมหัศจรรย์ วิลเลียม
2013 เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์ ฟินนิค โอแดร์
2014 ดัก จับ ผี ไบรอัน แม็คนีล
ชมรมสุภาพบุรุษสุดเฮ้ว อลิสแตร์ รายล์
เพื่อนรักกั๊กเป็นแฟน อเล็กซ์ สจ๊วต
เกมล่าเกม 3 ม็อคกิ้งเจย์ ภาค 1 ฟินนิค โอแดร์
2015 เกมล่าเกม 3 ม็อคกิ้งเจย์ ภาค 2 ฟินนิค โอแดร์
2016 พรานป่าและราชินีน้ำแข็ง วิลเลียม นักแสดงรับเชิญ
มี บีฟอร์ ยู วิล เทรย์เนอร์
แดร์ ไฟเนสต์ ทอม บัคลีย์
2017 เสน่ห์นาง ลางมรณะ ฟิลิป แอชลีย์
สุดเขตแดนศึก ร้อยเอก สแตนโฮป
2018 รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน ริชาร์ด ชาร์ป
ปักษาพยาบาท ฮอว์กินส์
2019 เดอะ คอร์รัปเตด เลียม
รองเท้าสีแดงและคนแคระทั้งเจ็ด เมอร์ลิน (พากย์เสียง)
นางฟ้าชาร์ลี อเล็กซานเดอร์ โบรค
2020 รัก แต่ง ซ้ำ แจ็ค
เอโนลา โฮล์มส์ ไมครอฟต์ โฮมส์
2021 ลมหายใจลวงแค้น เจมส์
ฝัน หลอน ที่โซโห นักสืบลินด์เซย์ นักแสดงรับเชิญ
ชาร์ลอตต์ อเล็กซ์ แนกเลอร์ (พากย์เสียง)
2022 นิยายรักฉบับฉันและเธอ เฮนรี คอปเปอร์

ทางโทรทัศน์ แก้

ปี เรื่อง บท หมายเหตุ
2010 หลั่งเลือดค้ำบัลลังก์โลกหล้า ริชาร์ดแห่งคิงส์บริดจ์ 8 ตอน
พิทักษ์อนาคต พิภพดึกดำบรรพ์ คาเลป ภาพยนตร์ทางโทรทัศน์
แอนี ฮิวแมน ฮาร์ท โลแกน 4 ตอน
2011 ยูไนเต็ด สู้สุดฝันวันแห่งชัยชนะ ดังคัน เอดเวิดส์ ภาพยนตร์ทางโทรทัศน์
2012 ไวท์ ฮีท แจ็ค วอลช์ 6 ตอน
2013 แมรีแอนด์มาร์ธา คุณแม่หัวใจนักสู้ เบน ภาพยนตร์ทางโทรทัศน์
2019–22 พีกี้ ไบลน์เดอร์ส เซอร์ ออสวอลด์ โมสลีย์ ซีซัน 5–6
2021 เดย์ซี โจนส์ แอนด์ เดอะซิกซ์ บิลลี ดันน์

อ้างอิง แก้

  1. https://movie.mthai.com/movie-news/199382.html เก็บถาวร 2020-10-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 5 คู่รักคนดังที่ทำให้รู้ว่า อดีตและอนาคตไม่สำคัญเท่ากับปัจจุบันที่มีเธอ
  2. https://www.hellomagazine.com/celebrities/2019091777824/sam-claflin-discusses-life-after-split-wife-laura-haddock/ Peaky Blinders star Sam Claflin discusses life post-split from wife Laura Haddock
  3. 3.0 3.1 "Sam Claflin Biography". Biography.com. สืบค้นเมื่อ 21 November 2013.
  4. "Anything you can do... – Rising star Joe aims to follow in brother Sam Claflin's footsteps – News – Norwich Evening News". Eveningnews24.co.uk. 25 August 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-29. สืบค้นเมื่อ 21 November 2013.
  5. 5.0 5.1 Walsh, Peter (20 November 2010). "Former Costessey pupil lands major Manchester United film role". Norwich Evening News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-02. สืบค้นเมื่อ 22 August 2012.
  6. "Film star wanted to play football for Norwich City". Eveningnews24.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-06. สืบค้นเมื่อ 21 November 2013.
  7. Cornet, Roth. "Interview: Sam Claflin Talks 'Snow White and the Huntsman'". ScreenRant.com. สืบค้นเมื่อ 22 August 2012.
  8. Fleming, Mike (24 มิถุนายน 2011). "Ben Barnes Lands Lead Opposite Jeff Bridges In Warner Bros' 'Seventh Son'". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 ตุลาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2012.