เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27

เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 เป็นการแสดงมวยปล้ำอาชีพแบบ เพย์-เพอร์-วิว (PPV) ของศึกเรสเซิลเมเนีย เป็นครั้งที่ 27 จัดโดย เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (WWE), โดยมีกำหนดจัดวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2011 ที่ สนามจอร์เจียโดม ในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย[2][3][4] มีผู้เข้าชมในสนามนี้ถึง 71,617 คน โดยเป็นศึกที่รวมการแสดงนักมวยปล้ำแต่ละค่ายของ WWE เอาไว้ทั้งหมด

เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27
โปสเตอร์โปรโมท เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 ประกอบไปด้วย เรย์ มิสเตริโอ, จอห์น ซีนา, ดิอันเดอร์เทเกอร์, เดอะมิซ, ทริปเปิล เอช, แรนดี ออร์ตัน และ เดอะ ร็อก
สมาคมดับเบิลยูดับเบิลยูอี
ค่ายรอว์ และ สแมคดาวน์
วันที่สหรัฐ 3 เมษายน ค.ศ. 2011
ไทย ทรูวิชั่นส์ 17 เมษายน ค.ศ. 2011
เมืองแอตแลนตา จอร์เจีย
สถานที่จอร์เจียโดม
ผู้ชม71,617 คน
แท็กไลน์"The Biggest WrestleMania Ever"
ลำดับเหตุการณ์ดับเบิลยูดับเบิลยูอี เน็ตเวิร์ค
← Previous
อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011)
Next →
เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011)
ลำดับเหตุการณ์เรสเซิลเมเนีย
← ก่อนหน้า
เรสเซิลเมเนีย XXVI
ถัดไป →
เรสเซิลเมเนีย XXVIII
ผู้ร่วมดำเนินรายการ
หน้าที่: ชื่อ:
ผู้บรรยายในสนาม เจอร์รี ลอว์เลอร์ (4 คู่แรก)
ไมเคิล โคล
จอช แมทิวส์ (5 คู่แรก)
จิม รอสส์ (คู่เอก)
บูเกอร์ ที (ช่วง ไมเคิล โคล เจอกับ เจอร์รี่ ลอว์เลอร์)
คาร์ลอส คาเบรล่า (ภาษาสเปน)
ฮิวโก ซาวิโนวิซ (ภาษาสเปน)
ผู้ประกาศตัวนักมวยปล้ำ จัสติน โรเบิร์ต (รอว์ และ สแมคดาวน์)
ฮาเวิร์ด ฟิงเกิล (WWE Hall of Fame)
ริคาร์โด โรดรีเกซ (อัลเบร์โต เดล ริโอ)
กรรมการ สก็อตต์ อาร์มสตรอง
ไมค์ ชิโอด้า
จอห์น โคน
แจ็ก โดน์
จัสติน คิง
แชด แพตตัน
ชารล์ส โรบินสัน

การสร้างสรรค์ แก้

 
บรรยายกาศใน เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 ที่มีจำนวนผู้เข้าชมถึง 71,617 คน

ในศึกนี้มีแขกรับเชิญ คือ ดเวย์น จอห์นสัน ซึ่งได้กลับมาที่ WWE อีกครั้ง ตอนของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2011 ในศึก Raw เพื่อเป็น พิธีกรรับเชิญ ในศึก เรสเซิลเมเนีย XXVII พร้อมกับเพลงเปิดตัวใหม่ แล้วได้บอกกลับแฟน ๆ ว่าทำไมเขาถึงกลับมายืนอยู่บนเวทีนี้ เขากลับมา ไม่ได้มาเพราะว่าต้องการเงิน ไม่ได้มาเพื่อโปรโมทหนัง แต่กลับในสังเวียนนี้ มาเพื่อแฟน ๆ หลังจากที่ วินซ์ แม็กแมน ได้ประกาศว่าจะมีพิธีกรรับเชิญมาเปิดตัวในสัปดาห์ถัดไป (ตอนของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2011)[5] ส่วนการเปิดตัว เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 นั้นจะมีนักร้อง R&B เคอรี ฮิลสัน จะร้องเพลง America The Beautiful[6]ทั้งนี้จะมีการปล้ำของ ทริส สตราตัส, นิโคล สนุ๊กกี้ ส่วน สนู๊ป ด็อกก์, เมย์ ยัง, มีน จีน โอกเคอแลนด์ รวมถึง สโตน โคลด์ ก็ได้มาร่วมนี้งานนี้ด้วย

เบื้องหลัง แก้

 
จอห์น ซีนา แพ้ให้กับ เดอะมิซ ในการท้าชิงแชมป์ WWE ในศึก เรสเซิลเมเนี่ย ครั้งที่ 27

เดอะมิซ จะเจอกับ จอห์น ซีนา หลังจากที่ ซีนาชนะในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ เพื่อไปชิงแชมป์ WWE Champion ในเรสเซิลเมเนี่ย ครั้งที่ 27[7] ในศึก Raw วันที่ 14 มีนาคม ท้ายรายการยังมีมิซ ปลอมตัวเป็น เดอะ ร็อก ออกมาหลอกให้คนดูเฮ แล้วก็ขึ้นมาก่อกวนแมตช์ที่ ซีนา กำลังปล้ำกับ เดล รีโอ อีกจนทำให้ยุติไป และการกลับมาของอเล็กซ์ ไรลีย์ จากการจ้างอีกครั้งของมิซ การเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ โดยเปลี่ยนตรงหัวเข็มขัด WWE จากตอนแรกเป็นโลโก้ของ WWE ที่หมุนได้ แต่มิซได้กลับหัวโลโก้ และ ล็อกหัวเข็มขัดกลายเป็นตัว "M" แทน ซีนา ทนไม่ได้ออกมาพูดอีกครั้ง และก็ออกมาที่สนาม และเล่นงานไรลีย์เป็นอันจบรายการ

ไฟล์:Edgeinwm27.png
The Rate R Superstar เอดจ์ ป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ไว้ได้โดยเจอกับ อัลเบร์โต เดล รีโอ ในศึก เรสเซิลเมเนี่ย ครั้งที่ 27

ส่วนทางฝั่ง Smackdown อัลเบร์โต เดล รีโอ ได้ท้าชิงแชมป์ World Heavyweight Champion จาก เอดจ์ จากการที่ อัลเบร์โต ชนะในศึก รอยัลรัมเบิล ซึ่ง เดล รีโอ ได้เลือกที่จะชิงเข็มขัดแชมป์นี้ เพื่อที่จะเจอกันในศึก เรสเซิลเมเนีย แต่หลังจาก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แล้ว เดล รีโอ ได้ทำร้าย เอดจ์ ตลอด จนตอนของวันที่ 4 มีนาคม ใน SmackDown ได้มีการเซ็นสัญญาแมทซ์การปล้ำ แต่หลังจากการเซ็นแล้ว เดล รีโอ ก็ทำร้ายเอดจ์ จนเลือดออกทางจมูก และพยายามจะเล่นงานที่แขนเมื่อกับที่เคยเล่นงาน คริสเตียน เมื่อ กันยายน ปีที่แล้ว และ คริสเตียน ก็ออกมาช่วย เล่นงาน เดล รีโอ ด้วยความแค้น ตั้งแต่ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ตอนที่เอดจ์ พึ่งชนะมาไม่นาน[8][9] ใน Smackdown ตอนของวันที่ 12 มีนาคม จากการที่เดล รีโอ และ โบรดัส เคลย์ เล่นงาน เอดจ์ ในตอนเริ่มรายการ ทำให้ ทีโอดอร์ ลอง ได้จัดแมตช์คู่เอก ในคืนนั้น โดยบอกว่า "โบรดัส เคลย์ และ อัลเบร์โต เดล ริโอ จะต้องเจอกับ สุดยอดแท็คทีมประวัติศาสตร์ของวงการ อดีต แชมป์แท็คทีม 7 สมัย ที่จะมารวมตัวกันในรอบ 10 ปี นี้ นั้นก็คือ เอดจ์ และ คริสเตียน (Edge & Christian)" ผลออกมา เอดจ์ และ คริสเตียน เป็นฝ่ายชนะ และถัดมาก็ได้มีเรื่องกันอีก หลังแมทซ์กรงเหล็ก ของเดล รีโอ กัล คริสเตียน ซึ่งเดล รีโอ เป็นฝ่ายแพ้ไป เอดจ์บีบแตรนั่งอยู่ในรถพูดเกี่ยวกับรถของ เดล รีโอ ที่เอามาวันนี้ และสักพัก เคลย์ก็เข้ามาทำร้ายจากด้านหลัง และได้ใช้เก้าอี้ตี เดล รีโอ มาถึงก็เล่นงาน เอดจ์ ด้วยท่า คอน-แชร์-โต ที่แขน เป็นอันจบรายการในวันนั้น เปิดรายการในสัปดาห์ถัดมา ลองได้สั่ง ทั้ง เอดจ์ และ เดล รีโอ ห้ามแตะต้องตัวกัน ก่อน เรสเซิลเมเนีย ถ้าฝืนคำสั่ง ลองก็จะแบนแมทซ์ ออกจาก เรสเซิลเมเนีย คริสเตียนก็บอกว่าเขาจะอยู่ข้างเอดจ์สำหรับคืนนี้ และจะจัดการ เดล รีโอ แทนเอดจ์ที่ถูกคำสั่งห้ามแตะต้องตัว หลังแมตช์ที่เอดจ์อยู่ด้านล่างเวที เป็นผู้จัดการของคริสเตียน ที่เจอกับ เดล รีโอ ซึ่ง คริสเตียนเป็นฝ่ายชนะไป เอดจ์จะเอาเก้าอี้ตี เดล รีโอ หลังจากที่อาทิตย์ที่แล้ว ได้เล่นงานแขนเอดจ์ แต่เอดจ์จำได้ว่า ลองได้สั่งว่า ห้ามแตะตัวกัน คริสเตียนเลยเก้าอี้มาตีแทน

 
ดิอันเดอร์เทเกอร์ ยังสามารถครองสถิติ 19-0 โดยชนะ ทริปเปิล เอช ในศึก เรสเซิลเมเนี่ย ครั้งที่ 27

ในส่วนของการกลับมาของ ดิอันเดอร์เทเกอร์ กับการเผชิญหน้ากับ ทริปเปิล เอช ในรอว์ (ตอนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ หรือ 2.21.11) ตามที่เคยมีวิดีโอโปรโมทในการกลับมาของ ดิอันเดอร์เทเกอร์ หลังจากการพักจากอาการบาดเจ็บที่ผ่านมา แล้ว 2 คนจะเจอกัน เพื่อท้าทายอันเดอร์เทเกอร์ ว่าในเรสเซิลเมเนีย ครั้งนี้[10] จะเป็นครั้งที่ 19 ที่อันเดอร์เทเกอร์ชนะทุกคนในศึกเรสเซิลเมเนีย ที่ตัวเองลงแข่งติดต่อกัน 19 ครั้ง 19 ปี หรือไม่ และ ทริปเปิล เอช จะเป็นผู้ทำลายสถิติของเขาได้หรือไม่ สถิติของอันเดอร์เทเกอร์จะเป็น 18-1 หรือ 19-0[11] ต่อมา ตอนของวันที่ 7 มีนาคม อันเดอร์เทเกอร์ ได้ออกมาพูดและบอกว่า กฎการปล้ำ จะเป็นแบบ No Holds Barred ไม่มีนับเคาท์เอาท์, ไม่มีจับแพ้ฟาลว์ ใด ๆ ทั้งสิ้น ในสัปดาห์ถัดมาในรอว์ อันเดอร์เทเกอร์เผชิญหน้ากันอีกครั้ง กับ ทริปเปิล เอช แต่ยังไม่ทันได้พูด ชอว์น ไมเคิลส์ ก็ออกมาพูดกับทั้ง 2 คน พอเถียงสักพัก ไมเคิลส์จะใช้ท่า Sweet Chin Music ใส่เทเกอร์ แต่ก็จับขาได้และ เทเกอร์จะใช้ท่า Chokeslam เล่นงานไมเคิลส์ขึ้น แต่ว่าทริปเปิล เอช ก็เข้ามาขัด และบอกชอว์นว่า บอกเทเกอร์ว่าทำไม เขาถึงชนะเทเกอร์ ชอว์นก็นิ่งเงียบแล้วลงจากเวที จากนั้นเทเกอร์ก็ปล่อยให้ ทริปเปิล เอชอยู่เวทีคนเดียว

หลังจากที่มีเรื่องกันระหว่าง ไมเคิล โคล และ เจอร์รี ลอว์เลอร์ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 เจอร์รี ได้มีโอกาสท้าชิงแชมป์ WWE กับ เดอะ มิซ ในรูปแบบการปล้ำ TLC Match แต่สุดท้าย เจอร์รี ลอว์เลอร์ ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ เพราะ ไมเคิล โคล ได้เข้ามาขัดขวาง ทำให้ เดอะ มิซ ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ในที่สุด และต่อมาในศึก Raw ที่จัดขึ้นหลังรอยัลรัมเบิล 1 วัน ได้มีการปล้ำแบบ รอว์ รัมเบิล ซึ่งผู้ที่ชนะจะได้รับสิทธิ์ในการเจอกับ เดอะ มิซ ใน อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แต่ผลที่ออกมาก็คือ เจอร์รี่ เป็นฝ่ายแพ้ไป จากนั้นในวันถัดมา ในการสัมภาษณ์ระหว่าง เจอร์รี่ และ โคลล์ หลังจากการที่แพ้ เดอะ มิซ ในการปล้ำชิงแชมป์ โดยที่ โคลล์ได้พูดยั่วยวน เจอร์รี่สารพัด จน เจอร์รี่ท้าโคลล์ เพื่อที่จะเจอกันใน เรสเซิลเมเนีย ซึ่งในสัปดาห์ถัดมา คำตอบที่ได้คือ ไม่ แต่มีข้อแม้คือถ้าจะเจอกัน จะต้องเจอแบบมีผู้จัดการอยู่ด้านล่างเวที และ มีกรรมการพิเศษตัดสินบนเวที โดยมีโคลล์เป็นคนเลือกเอง และได้เปิดตัวผู้จัดการส่วนตัวคือ แจ็ก สแวกเกอร์ เจอร์รี่จึงยอมที่จะเจอโคลล์ใน เรสเซิลเมเนี่ย ในวันที่ 6 มีนาคม ในรอว์ โคลล์ ได้ประกาศว่า ในเรสเซิลเมเนีย โคลล์ จะเจอกับ ลอว์เลอร์ โดยที่ จอห์น "แบรดชอว์" เลย์ฟิลด์ เป็นกรรมการพิเศษ เลย์ฟิลด์มาพร้อม ลีมูซีน และบอกว่า โคลล์คิดถูกแล้วที่เลือกเขา แต่ขณะที่กำลังจะเซ็นสัญญาการเป็นกรรมการนั้น สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน ก็ได้ออกมา จัดการ เลย์ฟิลด์ โดยท่า สตันเนอร์ แล้วเซ็นสัญญา เป็นกรรมการพิเศษ ซึ่งโคลล์ได้บอกว่า เป็นวันที่เขารอคอย และเป็นคืนของเขา แต่ สโตน โคลด์ ก็เอาเบียร์ ราดหัว ไมเคิล โคลล์ ขนาดที่ทำหน้าที่เป็นผู้บรรยาย เพราะจากที่โคลล์ได้พูดจาถึง สโตน โคลด์ และประกาศว่า "เจอร์รี ลอว์เลอร์ จะเจอกับ ไมเคิล โคล โดยมี สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน เป็นกรรมการพิเศษ" และเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ไมเคิล โคล ได้เรียก ไบรอันคริสโตเฟอร์ หรือ แกรนด์ มาสเตอร์ เซ็กซี่ อดีตแท็กทีม คู่กับ สก็อตตี้ ทู ฮ็อตตี้ ในนามแท็กทีมว่า ทู คูล บอกกับรอว์เลอร์ ว่า ลอว์เลอร์ไม่เหมาะที่จะเป็นพ่อของเขาที่ผ่านมา จิม รอส ก็มาออกมาพูดช่วย รอว์เลอร์ เพื่อนรักเขา แล้วโคล ก็ทำท่าพูดยั่ว จนสักพัก สแวกเกอร์ก็ลอบทำร้าย ลอว์เลอร์จากด้านหลัง แล้วเล่นงาน จิม รอสส โคล พูดบังคับให้ JR ตบพื้นยอมแพ้ สักพัก ลอว์เลอร์จะมาช่วย แต่ก็โดน สแวกเกอร์เล่นงานอีก โดยท่า แองเกิลล็อก (Angle Lock) และ โคล ก็ใช้ท่านี้เล่นงาน JR ด้วย และวันที่ 21 มีนาคม ใน รอว์ เปิดรายการด้วยเพลงของ จิม รอสส์ แต่กลาย ไมเคิล โคล ที่แต่งตัวล้อเลียน เดินออกมาที่สนามอีก จนเกือบจะมีเรื่องกันถ้า การ์ดไม่กันไว้ก่อน ในการปล้ำ ระหว่าง อีฟ ทอร์เรส กับ มารีส โคล ก็พูดขัดการปล้ำของอีฟอีก นับว่าเป็นหลายครั้งแล้ว ที่โคล ก็ก่อกวน อีฟ จนจบแมทซ์ เมื่อ อีฟชนะ ได้พยายามจะเข้าไปหาโคล แต่การ์ด กันไว้ ขณะที่โคลยืนอยู่ใน บูธที่เค้านั่งพากย์ แต่สุดท้าย อีฟก็เดินเข้ามาตบหน้า โคล โคลไล่ให้การ์ดนำตัวอีฟออกทันที (มันก็น่าโดนตั้งนานแล้ว แค่นี้มันน้อยไป) และได้ออกมาพูดกลางเวที ถึงเรื่องครอบครัวของ เจอร์รี่ ลอว์เลอร์ ตั้งแต่อดีต โดยมีรูปครอบครัวของ ลอว์เลอร์ ตั้งแต่รุ่นพ่อของ เจอร์รี ว่าครอบครัว ลอว์เลอร์ ว่าเป็นพวกขี้แพ้ ลอว์เลอร์ทนไม่ได้ วิ่งมา แต่ สแวกเกอร์เข้ามากัน ลอว์เลอร์ไม่สน เล่นงาน สแวกเกอร์ร่วงไปสักพักนึง ขึ้นไปบนเวที แต่ โคล รู้ทนรีบลงไปด้านล่าง จากนั้น ลอว์เลอร์ก็โดนสแวกเกอร์เล่นในที่สุด นอกจากนั้น โคลก็ออกมาเล่นงาน และบอกให้ ลอว์เลอร์ตบพื้น ยอมแพ้ JR ก็ออกมาพูดหลังจากได้ชม รอว์ ตอนที่ผ่านมานี้ ว่า "รู้สึกไม่ดีเลยที่ โคล พูดถึงพ่อแล้วก็แม่ของ ลอว์เลอร์ แบบนั้น เพราะทั้งพ่อและแม่ของเขาต่างก็เสียชีวิตไปแล้ว โดยแม่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนพ่อนั้นเสียชีวิตไปตอนวันเกิดอายุครบ 19 ปีของ ลอว์เลอร์ พอดี ซึ่งมันน่าเศร้าใจมากๆสำหรับ ลอว์เลอร์"

ส่วนทางด้านของแรนดี ออร์ตันจะเจอกับซีเอ็ม พังก์ ตามคำสั่งของผู้จัดการทั่วไปของรอว์ โดยออร์ตันจะเจอกับสมาชิกกลุ่มเดอะเน็กซัสในทุกสัปดาห์ โดยถ้าออร์ตันแพ้ กลุ่มเน็กซัสจะมีสิทธิ์ในการยืนคุมด้านล่างเวที แต่ถ้าชนะ กลุ่มของเน็กซัสจะถูกแบนในแมทซ์ที่จะต้องเจอในเรสเซิลเมเนีย โดยเริ่มจากการเจอไมเคิล แมคกิลลิคัตตี ประเดิมเป็นสัปดาห์แรก ต่อด้วยเดวิด โอทังกา สัปดาห์ที่สอง ถึงแม้จะโดนเล่นงานก่อนหน้าที่จะแมทซ์ก็ตาม แต่ว่าออร์ตันก็สามารถชนะได้ และสัปดาห์ที่ 3 ได้เจอกับเมสัน ไรอัน แต่ก็ชนะได้อีก โดยสรุปก็คือกลุ่มของนิวเน็กซัสจะถูกแบนในการปล้ำของออร์ตันและพังก์ สัปดาห์ที่ 4 พวกกลุ่มนิวเน็กซัสไม่มาก็จริง แต่ออร์ตันก็ต้องปล้ำกับเรย์ มิสเตริโอ แต่การปล้ำยังไม่จบ พังก์ก็ขู่ว่าจะไปทำร้ายไปหาภรรยาของออร์ตันบนรถ จนออร์ตันต้องออกจากเวที เพื่อไปที่ลาดจอดรถ แต่ถึงลานจอดรถแล้ว พังก์ก็ลอบทำร้ายที่ขา จากด้านหลัง จนภรรยาของออร์ตันต้องมาดูอาการ หลายคนสงสัยว่า ผู้หญิงที่ออกมาจากรถบัสที่บอกว่าเป็นภรรยาของออร์ตัน นั้นใช่ตัวจริงไหม คำตอบคือไม่ใช่ เป็นแค่คนที่จ้างให้มารับบทเท่านั้น

ในทางของเรย์ มิสเตริโอ ที่มีปัญหากับโคดี โรดส์ ในสแมคดาวน์ เมื่อเดือนมกราคมก่อน รอยัลรัมเบิล ที่ทำให้ โคดี ถอนตัวจากการปล้ำทั้งแมตช์ 40 คน รอยัลรัมเบิล รวมถึงศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ที่ไม่ได้ลงแข่ง ในตอนของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ในสแมคดาวน์ หลังจากการปล้ำชนะของเรย์ แล้ว ก็มีเพลงของ "ดิ อเมริกัน ดรีม" ดัสตี โรดส์ พ่อของโคดีออกมาพูดให้ โคดีออกมาขอโทษเรย์ แล้วโคดีก็ออกมาแล้วพูดขอโทษ จากนั้นเมื่อเรย์ จะลงจากเวที ดัสตี้ก็ดึงมือ เรย์ไว้ แล้ว โคดีก็เล่นงาน เรย์ จับอัดใส่มอนิเตอร์ แล้วถอดหน้ากากของเรย์ออก ซึ่งกรรมการก็ต้องรีบนำผ้าปิดหน้าเรย์ ก่อนที่จะเริ่มแมตช์ต่อไปในสแมคดาวน์ ในสัปดาห์ต่อมา วันที่ 4 มีนาคม โคดีได้ล้อเลียน เรย์ โดยการเปิดเพลง ของเรย์ ทำท่าเลียนแบบ รวมถึงใส่หน้ากากที่ดึงมาจากเรย์อีกด้วย แล้วพูดท้าทายเรย์ว่าเจอต้องเจอกันในเรสเซิลเมเนียกัน

วันที่ 14 มีนาคม ในรอว์ เชมัสเจอแดเนียล ไบรอัน โดยได้กล่าวในอาทิตย์ก่อนว่า ถ้าเขาแพ้อีก เขาจะออกจาก WWE และผลออกมา เชมัสเป็นฝ่ายชนะ และได้แชมป์ United States Champion อีกด้วย และสัปดาห์ต่อมา (21 มีนาคม 2011) หลัง เชมัสปล้ำชนะแดเนียลได้ออกมาพูดเพื่อต้องการรีแมตช์แชมป์ US อีกครั้งโดยเจอกันในเรสเซิลเมเนีย

ไฟล์:Trishinwn27.png
ทีมของทริส สตราตัสเป็นฝ่ายชนะในการปล้ำแบบแทกทีมผสม 6 คน ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27

ล่าสุด เมื่อ วิกกี เกร์เรโร ถูกท้าทายด้วยแมทซ์การปล้ำที่จะต้องปล้ำกับ ทริส สตราตัส ใน Raw ตามคำสั่งของ ผู้จัดการทั่วไป WWE Raw ถ้าวิคกี้แพ้ จะไม่ได้ทำงานในรอว์ ในตอนของวันที่ 14 มีนาคม Raw ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะมีแขกรับเชิญจากเรียลลิตี้ Jersey Shore ที่ออกอากาศทาง MTV คือ นิโคล "สนุ๊กกี" โพลิซซี และได้พูดก่อนที่จะมีแมทซ์การปล้ำ ของ ทริส และ วิกกี้ ในแบบ ไม่มีการจับแพ้ฟาล์ว ขณะที่ปล้ำอยู่นั้น ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ แฟนของวิกกี หลังจากที่โดน ทีโอดอร์ ลองไล่ออกใน Smackdown ก่อน อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ 2 วัน ซึ่งตอนนี้ก็ได้ทำงานใน Raw แล้วจากการชนะจอห์น มอร์ริสัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อตำแหน่งงานของดอล์ฟในRaw ก็ออกมาบนเวที และมอร์ริสันก็ขึ้นมาเล่นงานดอล์ฟลงจากเวที และใช้ท่า Starship Pain ลงมาบนพื้น และเหตุการณ์วุ่นวายมากเพราะเลย์คูล (เลย์ลา กับ มิเชล แมคคูล) ดันขึ้นมาช่วยวิกกี โดยเล่นงานทริสจนทริสต้องแพ้และวิกกีได้งานใน Raw นิโคล แขกรับเชิญใน Raw ทนไม่ไหว วิ่งกระโดดใส่วิกกี้ เล่นงานวิกกี้จนวุ่นวายสุด ๆ วิกกี้เลยท้าว่า ทริส สตราตัส, นิโคล สนุ๊กกี้ และมอร์ริสัน จะเจอกับ ดอล์ฟ และ ทีมเลย์คูล ใน เรสเซิลเมเนีย สัปดาห์ถัดมา เป็นการเจอระหว่าง มอร์ริสัน มาพร้อมกับ ทริส เจอกับ ดอล์ฟ มาพร้อม วิกกี้ และ ทีมเลย์คูล หลังจากปล้ำเพียงไม่นาน มิเชลเข้ามาก่อกวนการปล้ำ ทริสเข้าไปเล่นงาน มิเชลออกจากสนาม จนต้องมีแมทซ์การปล้ำ แฮนดิแคป 4 รุม 2 ระหว่าง ทริส และมอร์ริสันเจอกับ ดอล์ฟ, ทีม เลย์-คูล และ วิกกี ผลออกมาก็น่าจะรู้ ทีมของดอล์ฟเป็นชนะ ต่อมาในรอว์ ภาพได้ถ่าย ไปที่ ทริส และ สนุ๊กกี้ ที่อยู่ในบาร์แห่งหนึ่งใน นิว เจอร์ซีย์ โดย ทีมเลย์คูลเข้าไปหา แต่ไม่ทันไร สนุ๊กกี้ได้เอาน้ำสาดใส่ จึงมีเรื่องกันในนั้น จนกระทั่งพนักงานรักษาความปลอดภัยต้องคอยห้าม ส่วนในสนามที่ ชิคาโค อิลลินอยด์ วิกกี้ ได้ออกมาล้อเลียนท่าทางของ มอร์ริสัน ก่อนที่จะเริ่มปล้ำแทกทีมซึ่งจับคู่กันโดยทั้ง 4 คน จะได้ปล้ำในเรสเซิลเมเนีย โดยในวันนั้นซิกก์เลอร์จับคู่กับเชมัสเอาชนะมอร์ริสันจับคู่กับไบรอันไปได้

ก่อนที่จะถึงอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ระหว่างการปล้ำของบิ๊กโชว์ และเวด บาร์เร็ตต์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดกลุ่มใหม่ ชื่อว่า เดอะคอร์ โดยมีรวมตัวอีก 3 คนนอกจากบาร์เร็ตต์ แล้วยังมีสมาชิกเก่า ของเน็กซัส 2 คน คือ ฮีท สเลเตอร์ และจัสติน เกเบรียล และอีก 1 คนที่กลับมาในวันนั้นและเข้ามาทำร้าย บิ๊กโชว์คืออีซีคีล แจ็กสัน หลายสัปดาห์ กลุ่มเดอะคอร์ ก็ได้สร้างความปั่นป่วนทั้ง รอว์ และสแมคดาวน์ โดยเล่นงานเคนหลังจากแมตช์จบ และได้ชนะซานติโน มาเรลลา และวลาดิเมียร์ คอซลอฟ ในการปล้ำในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ และได้แชมป์แทคทีมไปด้วย เดอะคอร์ ได้ทำร้ายทั้ง 4 คน ทั้งรอว์ และสแมคดาวน์ติดต่อกันหลายสัปดาห์ จนล่าสุด ทั้ง 4 คน บิ๊กโชว์จะจับคู่กับ เคน, ซานติโน และคอซลอฟ โดยจะต้องเจอกับเดอะคอร์และแมตช์ล่าสุดในการเจอระหว่างซานติโน กับเกเบรียล ผลออกมาซานติโนชนะ และก็ชวนคอซลอฟและบิ๊กโชว์มาฉลองด้วย แต่ใครจะรู้ว่าเคนก็เล่นกับซานติโนด้วย ล่าสุดคอซลอฟต้องออกจากการปล้ำแทกทีม 8 คน เนื่องจากอาการบาดเจ็บช่วงไหล่ด้านซ้าย ในวันที่ 2 เมษายน หลังงานเรสเซิลเมเนียแอ็กซ์เซ็ส คอซลอฟต้องเจอกับไทเลอร์ เร็กส์ แต่ก็ถูกเดอะคอร์ลอบทำร้าย โดยต้องออกจากแมตช์ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทันที และยังไม่ทราบว่าใครจะมาแทนที่คอซลอฟในวันนั้น และในวันจริงคือ โคฟี คิงส์ตัน

โปรดักชั่น แก้

ในกันยายน ปี 2009 มีการรายงานว่าเมืองแอตแลนต้าได้เข้าร่วมการคัดเลือกเมืองที่จะเป็นสถานที่ ที่จะจัด เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 โดยใช้สถานที่จัดคือ จอร์เจีย โดม.โดยเมื่อมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2010 เมืองแอตแลนต้าก็ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นสถานที่จัด เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 โดยที่ WWE's senior vice president of special events, John Saboor ได้กล่าวในงานว่า แอตแลนต้าได้รับเลือกในที่สุด เหตุผลก็คือ "ในบันทึกการจัดกิจกรรมใหญ่พวกเขา พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างดี มีพื้นฐานที่ดี เหมาะต่อการจัดงานของ WWE" ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ เรสเซิลเมเนีย มาจัดที่รัฐ จอร์เจีย

บัตรได้จัดจำหน่ายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2010[12] โดยงานที่จะจัดก่อนถึง เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 มีชื่อเรียกรวมกันว่า "WrestleMania Week" โดยมีงาน เรสเซิลเมเนีย แอ๊กซ์เซส สำหรับแฟนๆ ได้มาพบปะ และพูคุยกัน กับ นักมวยปล้ำ ,งาน ฮอลล์ ออฟ เฟม สำหรับการมอบรางวัลให้กับนักมวยปล้ำ ที่ได้เข้าสู่หอเกียรติยศ,งาน เรสเซิลเมเนีย อาร์ต ครั้งที่ 4 สำหรับให้นักมวยปล้ำนำภาพมาแสดง , และงาน Pro-Am Golf tournament. โดยที่เรสเซิลเมเนีย แอ๊กซ์เซส จัดที่ จอร์เจีย เวิร์ด คองเกรส เซ็นเตอร์, ส่วนงาน ฮอลล์ ออฟ เฟม จัดขึ้นที่ ฟิลิปส์ อารีน่า[13][14]

เพลง "Written in the Stars" โดย Tinie Tempah[1] ถูกประกาศให้เป็นเพลงประจำรายการ และมีนักร้อง R&B เคอรี ฮิลสัน ร้องเพลง America The Beautiful ก่อนการเริ่มเรสเซิลเมเนียครั้งนี้ ตัวเลขผู้เข้าชมงานของ เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 อย่างเป็นทางการของ WWE นั้นมีจำนวน 71,617 คน โดยทาง WWE ประกาศว่า "นี่เป็นงานทางด้านบันเทิงที่มีผู้เข้าชมสู้ที่สุดของ จอร์เจีย โดม". โดยที่ เรสเซิลเมเนียครั้งนี้ทำเงินจากการขายบัตรไปได้ทั้งสิ้น 6.6 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ[15]

ทั้งนี้ เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 ยังถือว่าเป็น รายการ เพย์-เพอร์-วิว ครั้งแรกของ WWE หลังจากการทำสัญญากับ ร้าน เค-มาร์ท.โดยที่ เค-มาร์ท จะเป็นผู้สนับสนุนหลักของ WWE ในสหรัฐอเมริกา ทั้งปีนี้.[16] การโปรโมทแบบอื่นๆ ก็ได้แก่, WWE Magazine ได้สร้าง "Guide to WrestleMania XXVII" โดยเป็นแอปพลิเคชัน บน iPhone, iPod Touch and iPad[17]

ผล แก้

ลำดับ กำหนด เวลา[18]
1D Sheamus (c) vs. Daniel Bryan ไม่มีผลตัดสิน ลัมเบอร์แจ็กชิงWWE United States Championship[19] N/A
2D The Great Khali ชนะโดยปราบ Sheamus คนสุดท้าย[Note 1] แบทเทิลรอยัล[20] N/A
3 Edge (c) (พร้อม Christian) ชนะ Alberto Del Rio (พร้อม Brodus Clay และ Ricardo Rodriguez) ชิงWorld Heavyweight Championship[21] 11:09
4 Cody Rhodes ชนะ Rey Mysterio ปล้ำเดี่ยว[22] 11:58
5 Big Show, Kane, Kofi Kingston และ Santino Marella ชนะ The Corre (Ezekiel Jackson, Heath Slater, Justin Gabriel และ Wade Barrett) แท็กทีม8คน[23] 1:32
6 Randy Orton ชนะ CM Punk ปล้ำเดี่ยว[24] 14:46
7 Michael Cole (พร้อม Jack Swagger) ชนะ Jerry Lawler โดยการฟาล์ว[Note 2] ปล้ำเดี่ยวโดยมี Stone Cold Steve Austin เป็นกรรมการพิเศษ[25] 13:45
8 The Undertaker ชนะ Triple H โดยซับมิสชั่น ไม่มีกฎกติกา[26] 29:23
9 John Morrison, Nicole "Snooki" Polizzi และ Trish Stratus ชนะ Dolph Ziggler และ LayCool (Layla และ Michelle McCool) (พร้อม Vickie Guerrero) แท็กทีมผสม6คน[27] 3:16
10 The Miz (c) (พร้อม Alex Riley) ชนะ John Cena[Note 3] ชิงWWE Championship[28] 15:21
  • (c) – หมายถึงเจ้าของเข็มขัดแชมป์ก่อนเริ่มแข่งขัน
  • D – หมายถึงเป็นแมทช์การปล้ำก่อนรายการ
  1. ผู้เข้าร่วมอื่นๆ Tyler Reks, Curt Hawkins, Yoshi Tatsu, R-Truth, Jey Uso, Jimmy Uso, Mark Henry, Primo, Zack Ryder, Chavo Guerrero, David Hart Smith, JTG, Trent Barreta, Tyson Kidd, Johnny Curtis, Chris Masters, Evan Bourne, William Regal, Ted DiBiase, Drew McIntyre, และ Daniel Bryan
  2. เดิม Lawler เป็นฝ่ายชนะโดยซับมิสชั่น, แต่ผู้จัดการนิรนามของ Raw กลับคำตัดสินและให้ Cole ชนะฟาล์ว เนื่องจากการรบกวนของ Austin
  3. เดิมคู่นี้จบด้วยการเคาท์เอาท์, แต่ The Rock ได้ออกมาสั่งเริ่มใหม่ภายใต้กติกา "จับกดหรือยอมแพ้เท่านั้น"

ดูเพิ่ม แก้

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 "Wrestlemania: "Written in the Stars" by Tinie Tempah is one of the official theme songs for WrestleMania XXVII". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-09. สืบค้นเมื่อ 2011-02-03.
  2. "Atlanta to host WrestleMania XXVII". World Wrestling Entertainment. 2010-02-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-17. สืบค้นเมื่อ 2010-02-01.
  3. "WWE WrestleMania XXVII". Georgia Dome. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-17. สืบค้นเมื่อ 2011-02-07.
  4. "WWE Magazine". November 2010: 25. {{cite journal}}: Cite journal ต้องการ |journal= (help)
  5. Bishop, Matt (2011-02-15). "Finally, The Rock has returned to WWE". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ 2011-02-15.[ลิงก์เสีย]
  6. ""Pretty Girl Rock's" Keri Hilson to Perform at WrestleMania XXVII". World Wrestling Entertainment. 2011-03-22. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-20. สืบค้นเมื่อ 2011-03-26.
  7. Adkins, Greg (2011-02-20). "Oakland raider". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2011-02-21.
  8. Murphy, Ryan (2011-01-30). "Del Rio "sleazes" the opportunity". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2011-01-31.
  9. name="WorldHeavyweightChampionship"
  10. Coyle, James (2011-02-22). "Deadman set to face Triple H". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 2011-02-26.
  11. Caldwell, James (2011-02-25). "Undertaker vs. Triple H official for WrestleMania, WWE acknowledges back-story on feud". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 2011-02-26.
  12. "WrestleMania XXVII Tickets On Sale This Saturday". World Wrestling Entertainment. 2010-11-10. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-14. สืบค้นเมื่อ 2011-02-13.
  13. "WrestleMania Week". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2011-02-07.
  14. "WrestleMania Axxess". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2011-02-07.
  15. "WrestleMania 27 Sets Attendance Record". World Wrestling Entertainment. 2011-04-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-20. สืบค้นเมื่อ 2011-04-04.
  16. "Kmart Becomes Official Sponsor of WWE". World Wrestling Entertainment. 2011-03-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-10. สืบค้นเมื่อ 2011-03-05.
  17. "WWE Magazine's Guide to WrestleMania XXVII app". World Wrestling Entertainment. 2011-03-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-07. สืบค้นเมื่อ 2011-03-05.
  18. Caldwell, James (April 3, 2011). "CALDWELL'S WWE Wrestlemania 27 PPV Results 4/3: Complete "virtual time" coverage of live PPV - Rock hosting, Cena-Miz, Taker-Hunter for The Streak". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ May 15, 2017.
  19. "Results:Battle Royal". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-04-06. สืบค้นเมื่อ 2011-04-05.
  20. "Results:The Great Khali won the Over-the-Top-Rope WrestleMania Battle Royal". World Wrestling Entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-04-06. สืบค้นเมื่อ 2011-04-05.
  21. "Full WrestleMania XXVII results". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2017-03-16.
  22. "Full WrestleMania XXVII results". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2017-03-16.
  23. "Full WrestleMania XXVII results". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2017-03-16.
  24. "Full WrestleMania XXVII results". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2017-03-16.
  25. "Full WrestleMania XXVII results". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2017-03-16.
  26. "Full WrestleMania XXVII results". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2017-03-16.
  27. "Full WrestleMania XXVII results". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2017-03-16.
  28. "Full WrestleMania XXVII results". World Wrestling Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2017-03-16.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้