เครื่องราชกกุธภัณฑ์เนเธอร์แลนด์
เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของประเทศอื่นในยุโรปแล้ว เครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งเนเธอร์แลนด์ ถือว่ามีอายุไม่เก่าแก่มากนัก ถูกใช้งานเป็นครั้งแรกโดยพระเจ้าวิลเลิมที่ 2 ในปี พ.ศ. 2383 ซึ่งเครื่องราชกกุธภัณฑ์ชุดก่อนหน้าถูกทำขึ้นจากเงินและใช้งานโดยพระเจ้าวิลเลิมที่ 1 ในปี พ.ศ. 2358[1]
เครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งเนเธอร์แลนด์ประกอบด้วย :
- มงกุฎ หมายถึงอำนาจอธิปไตยแห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ อันประกอบไปด้วยเนเธอร์แลนด์ในยุโรปตะวันตก และประเทศในทะเลแคริบเบียนอีกสามประเทศคือ กือราเซา ซินต์มาร์เติน และอารูบา นอกจากนี้ยังหมายถึงพระเกียรติภูมิของพระมหากษัตริย์ในฐานะพระประมุขแห่งรัฐ มงกุฎนี้ถูกทำขึ้นโดยช่างทองในอัมสเตอร์ดัม โบเนอบักเกอร์ (ดัตช์: Bonebakker) โดยทำจากโลหะชุบเงิน ประดับตกแต่งด้วยหินสีและไข่มุกเทียม[2]
- คทา หมายถึงพระราชพันธกิจของพระมหากษัตริย์
- ลูกโลกประดับกางเขน หมายถึงดินแดนภายใต้อธิปไตย;
ซึ่งทั้งคทาและลูกโลกประดับกางเขนถูกทำขึ้นโดยช่างเพชรหลวง ไมเยอร์ (ดัตช์: Meijer) จากเมืองเดนฮาก (กรุงเฮก)[3]
- กระบี่อาญาสิทธิ์ หมายถึงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์
- ธงกอนฟาลอนแห่งรัฐ (ดัตช์: Rijksvaandel หรือ Rijksbanier) ธงผ้าไหมสีขาวลายมัวเรซึ่งถูกขึงโดยทวนเคลือบทอง บนธงเป็นรูปตราแผ่นดินของเนเธอร์แลนด์รุ่นวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2358 อันหมายถึงประเทศชาติ ต่อมาแม้จะมีการเปลี่ยนตราแผ่นดินรุ่นใหม่ แต่ตราแผ่นดินรุ่นเดิมก็ยังคงปรากฏอยู่บนธงกอนฟาลอนมาจนถึงปัจจุบัน[4] ตราแผ่นดินดังกล่าววาดโดยบาโตโลเมอึส โยฮันเนิส ฟัน โฮเฟอ[5]
เครื่องราชกกุธภัณฑ์ทุกชิ้นรวมถึงชุดคลุมราชาภิเษกจะถูกใช้งานในพิธีขึ้นครองราชย์ของพระมหากษัตริย์เท่านั้น ซึ่งเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทุกชิ้นถูกมอบให้อยู่ในการดูแลของมูลนิธิเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งราชวงส์ออเรนจ์-นัสเซาโดยพระราชินีนาถยูเลียนา[6]
การใช้งาน
แก้พระมหากษัตริย์เนเธอร์แลนด์จะไม่ได้รับการสวมมงกุฎทางกายภาพ ระหว่างพิธีขึ้นครองราชย์ มงกุฎ คทา และลูกโลกประดับกางเขน จะถูกวางบนโต๊ะภายในโบสถ์นีวเวอแกร์กในกรุงอัมสเตอร์ดัม ธงกอนฟาลอนแห่งรัฐและกระบี่อาญาสิทธิ์จะถูกประคองโดยเจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสในขบวนเสด็จฯ พระราชดำเนินจากพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัมมายังโบสถ์ และจะถูกประคองอยู่คนละฝั่งของแท่นพิธีขณะพระมหากษัตริย์ตรัสคำปฏิญาณตน[7]
เครื่องอัญมณี
แก้ในบางครั้งเครื่องราชกกุธภัณฑ์ (Regalia) ยังถูกใช้ในความหมายของชุดเครื่องอัญมณีของพระมหากษัตริย์ (Crown jewels) ในอดีตคำว่า รัตนากรของตระกูล (family jewels) ตามพระประสงค์ในปี พ.ศ. 2327 ของวิลเลิมที่ 5 สตัดเฮาเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น รัตนากรของราชวงศ์ (House-diamonds, House-jewels) ตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าวิลเลิมที่ 1 ในปี พ.ศ. 2384 ในปี พ.ศ. 2333 คำว่า มงกุฎเพชร (ฝรั่งเศส: Bijoux de la Couronne) ถูกใช้โดยหลุยส์แห่งเบราน์ชไวค์-ว็อลเฟินบึทเทิล เพื่อหมายถึงเพชรเม็ดใหญ่จากเกาะบอร์เนียว ในปี พ.ศ. 2439 บริษัทฟันแก็มเปินเอินเบอเคร์ (van Kempen & Begeer) ได้บันทึกเกี่ยวกับการจัดทำเครื่องราชกกุธภัณฑ์ขึ้นใหม่ โดยเรียกเครื่องราชกกุธภัณฑ์เหล่านั้นว่า เครื่องรัตนากรของพระมหากษัตริย์ (ดัตช์: juweleelen der kroon) พระราชินีนาถยูเลียนาทรงมอบชุดเครื่องเพชรทางการของพระองค์แก่มูลนิธิเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งราชวงศ์ออเรนจ์-นัสเซา ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2506 ในปี พ.ศ. 2511 มูลนิธิ โกรงคูเดอเรินฟันเอิตเฮยส์ฟันโอรันเยอ-นัสเซา ถูกก่อตั้งขึ้น เครื่องราชกกุธภัณฑ์และเครื่องประดับต่าง ๆ จึงตกไปอยู่ในความดูแลของมูลนิธิดังกล่าว
ราชวงศ์ออเรนจ์-นัสเซาครองครองชุดเครื่องอัญมณีซึ่งรวมถึงเพชรและไข่มุก เพชรแซนซีขนาด 34 กะรัต อันโด่งดัง[8] ถูกซื้อมาโดยเฟรเดอริก แฮ็นดริก และขณะนี้ตกอยู่ในความครอบครองพระราชวงศ์ปรัสเซีย ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของวิลเลิมที่ 3 สตัดเฮาเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ ในปี พ.ศ. 2245 ชุดเครื่องเพชรนี้ก็ถูกแยกออกจากกันหลายครั้ง สร้อยไข่มุกสีส้มอันโด่งดังถูกส่งไปยังปรัสเซีย ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 พระราชธิดาและพระราชปนัดดาของพระเจ้าวิลเลิมที่ 1 อีกทั้งพระราชธิดาของพระเจ้าวิลเลิมที่ 2 ได้รับพระราชทานชุดเครื่องเพชรเหล่านี้เมื่อเข้าพิธีเสกสมรส ปัจจุบันชุดเครื่องเพชรดังกล่าวกระจัดกระจายกันไปอยู่ในความครอบครองของเชื้อพระวงศ์สวีเดน เดนมาร์ก ปรัสเซีย และซัคเซิน-ไวมาร์ ต่อมาเจ้าชายแห่งออเรนจ์และพระมหากษัตริย์เนเธอร์แลนด์หลายพระองค์ทรงพยายามเรียกคืนเครื่องเพชรชุดดังกล่าวคืนแต่ไม่ประสบความสำเร็จ และในรัชสมัยของพระเจ้าวิลเลิมที่ 3 ทรงตัดสินพระทัยว่าเครื่องเพชรและเครื่องอัญมณีทั้งหลายต้องถูกรวบรวมขึ้นเป็น ชุดเครื่องเพชรของพระมหากษัตริย์ (The Diamonds of the Crown) และมีไว้ใช้งานโดยพระมหากษัตริย์และพระชายาเท่านั้น[9]
ภายในชุดเครื่องเพชรนี้ประกอบไปด้วยมงกุฎรูปทรงโบราณ ชุดเสื้อยกทรงและสร้อยคอประดับมรกต ไพลิน เพชร และทับทิมขนาดใหญ่ บางครั้งทรงสวมใส่เครื่องประดับเหล่านี้ในงานเลี้ยงรับรองอย่างเป็นทางการของรัฐ[10]
อัญมณีที่น่าประทับใจมากที่สุดในชุดคือเพชรอินเดียเจียระไนรูปกลีบกุหลาบทรงหยดน้ำที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของเจ้าหญิงแมรี พระราชกุมารีและเจ้าหญิงแห่งออเรนจ์ มันถูกอธิบายว่า "มีขนาดใหญ่เท่ากับไข่นกพิราบและโปร่งใสราวกับน้ำ" ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับการสวมใส่และน้ำหนักยังไม่เป็นที่ทราบโดยแน่ชัด ทั้งนี้ไม่มีชื่อเรียกที่แน่นอนสำหรับเพชรดังกล่าว แต่ในอดีตถูกอ้างถึงในชื่อเพชร สจวร์ต หรือ ฮอลแลนด์[11]
ส่วนชุดเครื่องเพชร ทับทิม และไพลิน ที่ถูกมอบให้แก่พระราชินีนาถวิลเฮลมินาและพระราชินีนาถยูเลียนา ตามกฎหมายแล้วไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องเพชรเหล่านี้ ชุดอัญมณีดังกล่าวประกอบไปด้วยเพชร 800 เม็ด และกำไลข้อพระกร การูดา อันโด่งดังจากบริษัทอินเดียตะวันออกของดัตช์ซึ่งถูกมอบให้แก่เจ้าหญิงยูเลียนา ต่อมาถูกแบ่งย่อยออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ และกลายเป็นส่วนประกอบตามต่างหู เข็มกลัด และเครื่องอัญมณีอื่น ๆ[12]
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เครื่องอัญมณีของดัตช์ถูกส่งจากกรุงเฮกไปเก็บรักษาไว้ในสหราชอาณาจักร ณ ห้องนิรภัยของศาลาว่าการเมืองวุลเวอร์แฮมป์ตัน ที่ซึ่งเจ้าหญิงไอรีน บริเจดแห่งเนเธอร์แลนด์ ผู้ประจำการอยู่ในกองทัพเนเธอร์แลนด์ในขณะนั้น ประจำการอยู่บริเวณใกล้เคียง ณ วรอตเตสลีย์ปาร์ก นครวุลเวอร์แฮมป์ตัน
ระเบียงภาพ
แก้
|
เชิงอรรถ
แก้- ↑ A.J.P.H. van Cruyningen, De inhuldiging van de Nederlandse vorst. Van Willem Frederik tot Beatrix Wilhelmina Armgard (unpublished MA thesis, Katholieke Universiteit Nijmegen, 1989) 61.
- ↑ Van Cruyningen, 61–62.
- ↑ Van Cruyningen, 62.
- ↑ Kl. Sierksma, Nederlands vlaggenboek. Vlaggen van Nederland, provincies en gemeenten (Utrecht/Antwerpen: Het Spectrum 1962, 17.
- ↑ http://beeldbank.nationaalarchief.nl/na:col1:dat534445
- ↑ Ren? Brus
- ↑ Van Cruyningen, passim.
- ↑ [1]
- ↑ Ren? Brus
- ↑ Ren? Brus
- ↑ Ren? Brus
- ↑ Ren? Brus
วรรณกรรม
แก้- Ren? Brus; "De juwelen van het Huis Oranje-Nassau, Haarlem 1996.
- Dieuwke Grijpma; Kleren voor de elite, 1999 ISBN 9789050184472