สุชาดา (ธิดาของเสนานีกุฎุมพี)

สำหรับความหมายอื่น ดู สุชาดา

สุชาดา (บาลี: Sujātā สุชาตา) เป็นธิดาของเสนานีกุฎุมพี นางเป็นผู้ถวายข้าวมธุปายาสพร้อมถาดทองคำแก่พระโคตมพุทธเจ้า หลังพระพุทธเจ้าได้เสวยข้าวมธุปายาสแล้วจึงขึ้นประทับ ณ โพธิบัลลังก์ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชราทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ ก่อนประกาศธรรมอันประเสริฐแก่เหล่าปัญจวัคคีย์ ต่อมาบุตรชายคนโตของสุชาดานามว่ายสะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ส่วนนางสุชาดาและสะใภ้ก็บรรดุโสดาบันเช่นกัน[1]

สุชาดา
นางสุชาดาขณะถวายข้าวมธุปายาส
นางสุชาดาขณะถวายข้าวมธุปายาส
ข้อมูลทั่วไป
สถานที่เกิดราชคฤห์ แคว้นมคธ
สถานที่บรรลุธรรมบ้านของตน
เอตทัคคะผู้ถึงสรณะก่อน
ฐานะเดิม
ชาวเมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ
นามบิดาเสนานี/เสนียะ
สถานที่รำลึก
สถานที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ถวายข้าวมธุปายาส
พระพุทธศาสนา ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

นางสุชาดาเป็นอุบาสิกาคนแรกในพุทธศาสนา และพระพุทธเจ้าทรงยกย่องนางสุชาดาเป็นเอตทัคคะผู้ถึงสรณะก่อน[2]

ประวัติแก้ไข

ชีวิตตอนต้นแก้ไข

นางสุชาดาเป็นธิดาของเสนานีกุฎุมพี[3] (อรรถกถาว่าเสนียะ) ในหมู่บ้านเสนานิคม ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม มีการสันนิษฐานถึงที่ตั้งของบ้านนางสุชาดาคือสุชาตาสถูปในหมู่บ้านพักเราร์ใกล้พุทธคยา[4] เมื่ออายุย่างเข้าสู่วัยสาวนางได้ทำพิธีบวงสรวงต่อเทพยดาที่สิงสถิต ณ ต้นไทรใหญ่ต้นหนึ่งใกล้บ้านของนาง โดยได้ตั้งปณิธานความปรารถนาไว้ 2 ประการ คือ

  1. ขอให้ได้สามีที่มีบุญ มีทรัพยสมบัติ และชาติสกุลเสมอกัน
  2. ขอให้มีบุตรคนแรกเป็นชาย

ถ้าความปรารถนาทั้ง 2 ประการ สำเร็จสมบูรณ์แล้ว จะทำพลีกรรมแก่ท่านด้วยของอันมีมูลค่า 100,000 กหาปณะ

ครั้นกาลต่อมา ความปรารถนาของนางสำเร็จทั้งสองประการ โดยได้สามีเป็นเศรษฐีมีฐานะเสมอกัน และได้บุตรคนแรกเป็นชายนามว่า ยสะ นางได้ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนลูกชายแต่งงานแล้ว จึงปรารภที่จะทำพลีกรรมบวงสรวงสังเวยเทพยดาด้วยข้าวมธุปายาสเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นางปุณณาทาสีสาวใช้ไปปัดกวาดทำความสะอาดบริเวณโคนต้นไทรนั้น

ถวายข้าวมธุปายาสแก้ไข

 
นางสุชาดาพร้อมเหล่านางทาสีขณะถวายข้าวมธุปายาสพร้อมถาดทองคำ

ขณะนั้น พระโคตมโพธิสัตว์เลิกอัตตกิลมถานุโยค หันมาเสวยพระกระยาหารหวังจะบำเพ็ญเพียรทางจิต ประทับนั่งพักผ่อนที่ใต้ต้นไทรนั้น ผินพระพักตร์ทอดพระเนตรไปทางทิศตะวันออก มีพระรัศมีแผ่ซ่านออกจากพระวรกายเป็นปริมณฑลดูงามยิ่งนัก นางทาสีสาวใช้เห็นแล้วก็ตระหนักแน่ในจิตคิดว่า คงเป็นเทวดาเจ้า มานั่งคอยท่ารับเครื่องพลีกรรม จึงมิได้เข้าไปทำความสะอาดดังที่ตั้งใจมา รีบกลับไปแจ้งแก่นางสุชาดา โดยด่วน

ฝ่ายนางสุชาดาจึงรีบแต่งกายด้วยเครื่องอาภรณ์อันงดงามเป็นที่เรียบร้อยแล้วยกถาดข้าวมธุปายาสขึ้นทูลศีรษะ ออกจากบ้านพร้อมด้วยบริวารไปยังต้นไทรนั้น ครั้นได้เห็นพระโพธิสัตว์งดงามเช่นนั้น ก็เกิดโสมนัสยินดีสำคัญว่าเป็นรุกขเทวดามานั่งคอยรับเครื่องพลีกรรม จึงน้อมนำเข้าไปถวายพร้อมทั้งถาดทองคำ

เมื่อพระบรมโพธิสัตว์ทรงรับข้าวมธุปายาสแล้ว เสด็จไปประทับที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ทรงบำเพ็ญเพียรทางจิตและได้ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้าในวันนั้น หลังจากได้ประทับเสวยวิมุติสุข คือสุขอันเกิดจากการตรัสรู้บริเวณใกล้ ๆ นั้นเป็นเวลา 7 สัปดาห์ รวม 49 วัน แล้วได้เสด็จไปแสดงธรรมโปรดปัญจวัคคีย์ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี

บรรลุโสดาบันแก้ไข

หลังจากยสะ บุตรชายคนโตได้บรรลุเป็นพระอรหันต์และอุปสมบทแล้ว พระพุทธเจ้าและพระสาวกรวมทั้งพระยสะได้ฉันภัตตาหารที่บ้านของนาง พระพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาจบแล้วนางสุชาดาและอดีตภริยาของพระยสะได้บรรลุโสดาบันและถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะทั้งสองคน[5]

บั้นปลายชีวิตแก้ไข

นางสุชาดาถึงแก่กรรมที่ใดและเมื่อไรไม่ปรากฏ แต่มีอายุสังขารมากพอสมควรแล้วก็ถึงแก่กรรม

อ้างอิงแก้ไข

  1. "ประวัติ นางสุชาดา (มารดาพระมหาสาวกยส)". ประตูสู่ธรรม. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-06. สืบค้นเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. Nintara (18 ตุลาคม 2561). "นางสุชาดา : อุบาสิกาคนแรกในพระพุทธศาสนา". Goodlife Update. สืบค้นเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  3. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
  4. Geary, David; Sayers, Matthew R.; Amar, Abhishek Singh (2012). Cross-disciplinary Perspectives on a Contested Buddhist Site: Bodh Gaya Jataka (ภาษาอังกฤษ). Routledge. p. 35-36. ISBN 9781136320675.
  5. อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอตทัคคบาลี

แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข