รายชื่อประภาคารในประเทศไทย
นี่คือหน้าของรายชื่อประภาคารในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องหมายทางเรือในประเทศไทย ปัจจุบันมีหน่วยงานหลักดูแลอยู่ 2 หน่วยงาน คือ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม และกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ
ประวัติ แก้
แต่เดิมเครื่องหมายเดินเรือในน่านน้ำไทยอยู่ในความรับผิดชอบของทั้งกรมเจ้าท่า และกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือโดยไม่มีการแบ่งเขตความรับผิดชอบกันอย่างชัดเจน จนระทั่งมีการกำหนดเขตความรับผิดชอบขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2515 โดยกำหนดให้กรมเจ้าท่าดูแลเครื่องหมายเดินเรือในร่องน้ำ คือตั้งแต่ปากร่องน้ำเข้าไปจนถึงปลายร่องน้ำที่มีการขุดลอกเข้าไปยังพื้นที่ท่าเรือ และกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ดูแลเครื่องหมายเดินเรือนอกร่องน้ำ คือตั้งแต่ปากร่องน้ำที่มีการขุดลอกออกไปยังทะเล[1]
ประภาคารถือเป็นเครื่องหมายเดินเรือภายนอกร่องน้ำ จึงอยู่ในความดูแลของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือทั้งหมดในปัจจุบัน[1] ซึ่งมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอยู่หลายครั้งจนปัจจุบันประเทศไทยมีประภาคารตามทำเนียบเครื่องหมายทางเรือในประเทศจำนวนทั้งสิ้น 9 ประภาคาร[2]
ประภาคาร แก้
ประภาคารในประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ มีจำนวนทั้งสิ้น 9 ประภาคาร[2] ตามทำเนียบเครื่องหมายทางเรือในประเทศ[3][4][5]
ชื่อ | ภาพ | เริ่มใช้งาน (พ.ศ.) | ที่ตั้ง | ลักษณะไฟ | ความสูงหอ | พิสัย | รหัสประจำประภาคาร | |||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
THN | NGA | Admiralty | ARLHS | |||||||
ประภาคารอัษฎางค์ (หินสัมปะยื้อ) | 2434 | กองหิน ชลบุรี | Fl(3) W 15s (fl 0.5s, ec 1.5s)x 2, fl 0.5s, ec 10.5s | 9 เมตร (30 ฟุต) | 10 ไมล์ทะเล (19 กิโลเมตร) | 102 | 20672 | F2954 | THA010[6] | |
ประภาคารระยอง | 2462 | ปากน้ำระยอง | Fl(3) W 15s (fl 0.5s, ec 1.5s)x 2, fl 0.5s, ec 10.5s | 16 เมตร (52 ฟุต) | 21 ไมล์ทะเล (39 กิโลเมตร) | 114 | 20600 | F2988 | THA067[7] | |
ประภาคารแหลมสิงห์ | 2449 | ปากน้ำจันทบุรี | Fl(3) W 15s (fl 0.5s, ec 1.5s)x 2, fl 0.5s, ec 10.5s | 6 เมตร (20 ฟุต) | 10 ไมล์ทะเล (19 กิโลเมตร) | 118 | 20580 | F2996 | THA066[5] | |
ประภาคารแหลมงอบ | 2487 | ปลายแหลมงอบ ตราด | Oc W 3s fl 1.0s, ec 2.0s | 14 เมตร (46 ฟุต) | 13 ไมล์ทะเล (24 กิโลเมตร) | 121 | 20568 | F3002 | THA065[8] | |
ประภาคารเกาะมัตโพน | 2451 | ทางเข้าแม่น้ำชุมพร | LFl WR 7s fl 2.0s, ec 5.0s | 12 เมตร (39 ฟุต) | ขาว 16 ไมล์ทะเล (30 กิโลเมตร)
แดง 8 ไมล์ทะเล (15 กิโลเมตร) |
211 | 20796 | F2924 | THA025[9] | |
ประภาคารเกาะปราบ | 2450 | ยอดเกาะ ทางเข้าแม่น้ำบ้านดอน สุราษฎร์ธานี | Fl W 6s fl 1.5s, ec 4.5s | 14 เมตร (46 ฟุต) | 21 ไมล์ทะเล (39 กิโลเมตร) | 216 | 20836 | F2916 | THA034[10] | |
ประภาคารกาญจนาภิเษก | 2539 | แหลมพระเจ้า (แหลมพรหมเทพ) ภูเก็ต | Fl W 9s fl 0.21s, ec 8.79s | 19 เมตร (62 ฟุต) | 22 ไมล์ทะเล (41 กิโลเมตร) | 310 | 22182 | F1169.5 | THA048[11] | |
ประภาคารเกาะนก | 2504 | กันตรัง ตรัง | Fl W 3s fl 0.3s, ec 2.7s | 8 เมตร (26 ฟุต) | 10 ไมล์ทะเล (19 กิโลเมตร) | 316 | 22176 | F1184 | THA027[12] | |
ประภาคารเกาะตะเภาน้อย | 2442 | ยอดเกาะ ท่าเรือภูเก็ต | Fl(2) W 20s fl 0.144s, ec 6.522s fl 0.144s, ec 13.190s | 12 เมตร (39 ฟุต) | 20 ไมล์ทะเล (37 กิโลเมตร) | 312 | 22188 | F1174 | THA043[13] |
อดีตประภาคาร แก้
อดีตประภาคาร คือกระโจมไฟที่เคยมีสถานะเป็นประภาคารและมีเครื่องหมายช่วยในการเดินเรือในความรับผิดชอบ แต่ถูกปรับลดสถานะในภายหลัง และประภาคารที่เคยทำหน้าที่ประภาคารในอดีตแต่ปัจจุบันอยู่ในสภาพไม่สามารถใช้การได้
- ประภาคารสันดอนปากน้ำเจ้าพระยา ใช้งานระหว่างปี พ.ศ. 2417 ถึง พ.ศ. 2472
เครื่องหมายทางเรืออื่น ๆ แก้
เครื่องหมายทางเรืออื่น ๆ ในประเทศไทยตามทำเนียบเครื่องหมายทางเรือในประเทศไทย ประกอบไปด้วย[14]
- กระโจมไฟเสี้ยว (Sector Light) จำนวน 5 กระโจม
- กระโจมไฟทั่วไป (Lighted Beacon) จำนวน 126 กระโจม
- เครื่องหมายจตุรทิศ (Cardinal Marks) จำนวน 28 ทุ่น
- ทุ่นเครื่องหมายทางข้าง (Lateral Marks) จำนวน 567 ทุ่น
- ทุ่นเครื่องหมายพิเศษ (Special Marks) จำนวน 51 ทุ่น
- เครื่องหมายสิ่งอันตรายโดดเดี่ยว (Isolated Danger Marks) จำนวน 46 ทุ่น
- เครื่องหมายแสดงที่ปลอดภัย (Safe Water Marks) จำนวน 75 ทุ่น
- หลักไฟนำ (Leading Light) จำนวน 80 ต้น
ดูเพิ่ม แก้
- สถานีนำร่อง (ประเทศไทย) - ที่ทำการของเจ้าพนักงานนำร่องกรมเจ้าท่าสำหรับนำร่องเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังท่าเรือกรุงเทพ
กระโจมไฟ แก้
อ้างอิง แก้
- ↑ 1.0 1.1 กำหนดขอบเขตความรับผิดชอบ ละการประสานงานเกี่ยวกับงานเครื่องหมายช่วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย ระหว่าง กรมเจ้าท่า กับ กรมอุทกศาสตร์ 26 มิถุนายน 2515 (PDF). กรมเจ้าท่าและกรมอุทกศาสตร์. 2515.
- ↑ 2.0 2.1 รายงานประจำปี กรมอุทกศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ 2565 (PDF). กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ. 2565.
- ↑ ทำเนียบไฟและทุ่นในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2556 (PDF). กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ. 2556.
- ↑ Bub.112 List of Lights: Radio aids and fog signals 2023 - Western Pacific and Indian Oceans, Including Persian Gulf and Red Sea. National Geospatial-Intelligence Agency. 2023. p. 344.
- ↑ 5.0 5.1 "Laem Sing Light - ARLHS THA-066". wlol.arlhs.com.
- ↑ "Hin Sampayu Light - ARLHS THA-010". wlol.arlhs.com.
- ↑ "Rayong Light - ARLHS THA-067". wlol.arlhs.com.
- ↑ "Laem Ngob/Laem Ngop Light - ARLHS THA-065". wlol.arlhs.com.
- ↑ "Ko Mattaphon Light - ARLHS THA-025". wlol.arlhs.com.
- ↑ "Ko Prap (Bandon River) Light - ARLHS THA-034". wlol.arlhs.com.
- ↑ "Kanchanaphisek/Laem Phra Chao/Promthep Cape Light - ARLHS THA-048". wlol.arlhs.com.
- ↑ "Ko Nok (West Coast) Light - ARLHS THA-027". wlol.arlhs.com.
- ↑ "Ko Taphao Noi (Phuket Island) Light - ARLHS THA-043". wlol.arlhs.com.
- ↑ ประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 146/2563 เรื่อง ทำเนียบเครื่องหมายทางเรือ (Aids to Navigation) ในประเทศไทย (PDF). กรมเจ้าท่า. 2563.