พระยาสารสินสวามิภักดิ์ (เทียนฮี้ สารสิน)

นายพันตรี อำมาตย์โท พระยาสารสินสวามิภักดิ์ มีนามเดิมว่า เทียนฮี้ (15 สิงหาคม พ.ศ. 2391 – 22 มิถุนายน พ.ศ. 2468) เป็นอดีตแพทย์ใหญ่ทหารบก เป็นต้นตระกูลสารสิน[2] และเป็นบิดาของพจน์ สารสิน อดีตนายกรัฐมนตรีไทย

พระยาสารสินสวามิภักดิ์
(เทียนฮี้ สารสิน)
เกิด15 สิงหาคม พ.ศ. 2391
เสียชีวิต22 มิถุนายน พ.ศ. 2468 (76 ปี)
อาชีพแพทย์, ทหาร
คู่สมรสคุณหญิงสุ่น สารสินสวามิภักดิ์
แพ[1]
บุตร7 คน
บิดามารดา
  • ปั้นจู๊ลั่ว (บิดา)
  • หนู (มารดา)

ประวัติ

แก้

พระยาสารสินสวามิภักดิ์เกิดเมื่อวัน อังคาร เดือนเก้า แรม 2 ค่ำ ปีวอก สัมฤทธิศก จุลศักราช 1210 ตรงกับวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2391 ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีชื่อเดิมว่า “เทียนฮี้“ บิดาเป็นชาวจีนชื่อปั้นจู๊ลั่ว มารดาเป็นชาวไทยชื่อหนู ต่อมาบิดามารดาได้นำไปฝากเรียนอักขระสมัยในสำนักพระอาจารย์ทอง วัดทองนพคุณ

หลังจากศึกษาอยู่เจ็ดปี บิดามารดาได้ส่งไปเรียนที่โรงเรียนของเหล่ามิชชันนารี อเมริกันที่ตำบลสำเหร่และได้เข้ารีตนับถือศาสนาคริสต์นับแต่บัดนั้น ด้วยความที่เป็นคนเรียนเก่งทำให้เหล่ามิชชันนารีตัดสินใจส่งเทียนฮี้ไปยังสหรัฐ เพื่อศึกษาต่อทางด้านการแพทย์จนสำเร็จระดับปริญญาจาก มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เมื่อปี พ.ศ. 2414 และได้เดินทางกลับมายังสยาม

เทียนฮี้รับราชการครั้งแรกในตำแหน่งผู้ช่วยแพทย์ทหารบกประจำกรมทหารมหาดเล็กหรือกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ในปัจจุบันภายใต้การบังคับบัญชาของ จอมพล เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) ต่อมาเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีขณะมียศและบรรดาศักดิ์เป็น พันโท เจ้าหมื่นไวยวรนาถ ได้เดินทางไปเป็นแม่ทัพในสงครามปราบฮ่อ พระยาสารสินขณะมียศเป็น ร้อยเอกเทียนฮี้ ได้ร่วมเดินทางไปในราชการสงครามครั้งนั้นด้วย

เมื่อกลับถึงพระนคร ร้อยเอกเทียนฮี้ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศและบรรดาศักดิ์เป็น พันตรี หลวงดำรงแพทยาคุณ จากนั้นในปี พ.ศ. 2435 พันโท เจ้าหมื่นไวยวรนาถ ที่ได้รับพระราชทานยศและบรรดาศักดิ์เป็น พลตรี พระยาสุรศักดิ์มนตรี ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นเสนาบดี กระทรวงเกษตรพานิชการหรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปัจจุบัน ก็ได้ขอโอนย้ายหลวงดำรงแพทยาคุณมารับราชการเป็นล่ามประจำกระทรวง ภายหลังจึงได้ย้ายมารับราชการที่กระทรวงธรรมการหรือกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน ในสมัยที่เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค)เป็นเสนาบดีในตำแหน่งแพทย์และผู้จัดการโอสถศาลาในกรมพยาบาล และได้ย้ายมารับราชการที่กระทรวงมหาดไทยเป็นที่สุดท้ายในสมัยที่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นองค์เสนาบดีในตำแหน่งเจ้ากรมตำรวจภูบาลเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2440 โดยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระมนตรีพจนกิจ เมื่อปี พ.ศ. 2443

ด้านชีวิตครอบครัวพระยาสารสินสวามิภักดิ์สมรสกับคุณหญิงสุ่น มีบุตร-ธิดา ทั้งสิ้น 7 คน คือ

พระยาสารสินขณะมีบรรดาศักดิ์เป็น พระมนตรีพจนกิจ และดำรงตำแหน่งเจ้ากรมมหาดไทยฝ่ายเหนือได้กราบถวายบังคมลาออกจากราชการอันเนื่องมาจากป่วยเมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2444[3] จากนั้นในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2460 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยาสารสินสวามิภักดิ์ ถือศักดินา 1000 และได้เข้ารับพระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์ที่ พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2461[4]

กระทั่งถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2468 ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะอายุได้ 76 ปี[5] โดยมีพิธีฝังศพตามแบบศาสนาคริสต์ที่สุสาน ถนนสีลม เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2468 ในการนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานรถวอรับศพ เครื่องขมาศพ เงิน 2000 สตางค์ และผ้าขาว 4 พับ[6]

ตำแหน่ง

แก้
  • 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2433 - นายแพทย์ใหญ่ในกรมยกกระบัตรทัพยกใหญ่[7]
  • พ.ศ. 2435 - ล่ามประจำกระทรวงเกษตรพานิชการ [8]
  • พ.ศ. 2438 - แพทย์และผู้จัดการโอสถศาลา ในกรมพยาบาล กระทรวงธรรมการ[9]
  • 5 มีนาคม พ.ศ. 2440 - เจ้ากรมตำรวจภูบาล[10]
  • 17 เมษายน พ.ศ. 2442 เจ้ากรมมหาดไทยฝ่ายเหนือ[11]
  • 11 เมษายน พ.ศ. 2444 ลาออกจากราชการ
  • 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2433 - พันตรี [12]
  • 20 สิงหาคม พ.ศ. 2454 - อำมาตย์โท (ได้รับพระราชทานขณะมีบรรดาศักดิ์เป็น พระมนตรีพจนกิจ นอกราชการ)[13]

บรรดาศักดิ์

แก้
  • 25 สิงหาคม พ.ศ. 2435 - หลวงดำรงแพทยาคุณ[14]
  • 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2443 - พระมนตรีพจนกิจ ถือศักดินา 800[15]
  • 25 ธันวาคม พ.ศ. 2444 - พระมนตรีพจนกิจ นอกราชการ ถือศักดินา 400[16]
  • 19 ธันวาคม พ.ศ. 2460 - พระยาสารสินสวามิภักดิ์ ถือศักดินา 1000[17]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. เสมียนนารี (26 เมษายน 2567). "สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เจ้านายที่รัชกาลที่ 5 ทรงล้อว่า "รวย"". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 3 พฤษภาคม 2567. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศพระราชทานนามสกุลครั้งที่ 74 เล่ม 34 หน้า 3244, 3 กุมภาพันธ์ 2461
  3. แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
  4. รายวันพระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวตาย
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวฝังศพ
  7. ประกาศกรมยุทธนาธิการ (หน้า 169)
  8. ตำแหน่งกระทรวงเกษตรพนิชการ ในรัตนโกสินทรศก 111
  9. ตำแหน่งข้าราชการ ในกระทรวงธรรมการ รัตนโกสินทรศก 114 (หน้า 323)
  10. แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
  11. แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
  12. ประกาศกรมยุทธนาธิการ (หน้า 169)
  13. พระบรมราชโองการ ประกาศพระราชทานยศ แก่ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย (หน้า 972)
  14. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตร
  15. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง
  16. แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
  17. พระราชทานบรรดาศักดิ์
  18. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญปราบฮ่อ
  19. "พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (หน้า 457)" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-07-03. สืบค้นเมื่อ 2020-07-03.

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

แก้
  • บุญพิสิฐ ศรีหงส์. (2564). ต้นธารสารสิน. ใน สารสิน: อนุสรณ์ในการพระราชทานเพลิงศพ นายพงส์ สารสิน. บรรณาธิการโดย วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย. หน้า 58-97. กรุงเทพฯ: อมรินทร์.