ปรีชา เรืองจันทร์

อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดในประเทศไทย

รองศาสตราจารย์พิเศษ ปรีชา เรืองจันทร์ (เกิด 4 มิถุนายน พ.ศ. 2498) เป็นข้าราชการชาวไทย เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิษณุโลกตามลำดับ ปัจจุบันเขาประกอบอาชีพเกษตรกรรมและทำหน้าที่เป็นอาจารย์พิเศษและกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยนเรศวร


ปรีชา เรืองจันทร์

ปรีชาใน พ.ศ. 2566
เกิด4 มิถุนายน พ.ศ. 2498 (69 ปี)[1]
จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ศิษย์เก่าCebu Doctors' University
อาชีพข้าราชการ
คู่สมรสปิยธิดา เรืองจันทร์
บุตรประภัสสนันทน์ เรืองจันทร์
นนทนันทน์ เรืองจันทร์
ลายมือชื่อ

ประวัติ

แก้

ปรีชาเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2498 ที่ตำบลวังสำโรง อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ในครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม[2] เขาเริ่มศึกษาชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดหนองกอไผ่ ด้วยความที่เขาเป็นคนเรียนหนังสือดี จึงทำให้ครูไว้วางใจให้เขาเป็นผู้ช่วยครู จนกระทั่งเขาจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เขาจึงกลับมาทำเกษตรกรรม จนกระทั่งวันหนึ่งเขามีโอกาสเข้าสู่กรุงเทพมหานครและทำการสอบเทียบจนจบการศึกษาในระดับเทียบเท่า มศ. 5

เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากCebu Doctors' University ประเทศฟิลิปปินส์[3]

การรับราชการ

แก้

ปรีชาบรรจุรับราชการครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2519 ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผนระดับ 3 สำนักงานจังหวัดเพชรบูรณ์ จากนั้นเขาได้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ ปลัดอำเภอในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ นายอำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ นายอำเภอวังทรายพูน และนายอำเภอเมืองพิจิตร ปลัดจังหวัดพิจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งระหว่างที่เขารับราชการนั้นเขาต้องเผชิญปัญหากับผู้มีอิทธิพลในแต่ละท้องที่ รวมถึงการบุกรุกที่ดินสาธารณะในขณะที่เขารับราชการอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์[2] และเนื่องด้วยการบริหารราชการที่ตรงไปตรงมาส่งผลให้เขามีปัญหากับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นหลายครั้ง[2] โดยเขามักกล่าวกับพนักงานราชการภายใต้บังคับบัญชาของเขาเสมอว่า "หากล้มก็ขอให้ล้มคาหลัก หากตายก็ขอให้ตายคาหลัก"[2]

ต่อมาเขาได้รับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตใน พ.ศ. 2551[4][5] จากนั้นเขาได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิษณุโลก จนกระทั่งเกษียณอายุราชการใน พ.ศ. 2557 หลังเกษียณอายุราชการเขาได้รับการแต่งตั้งให้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร[1] โดยดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560 จนถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 หลังจากนั้นเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นรองศาสตราจารย์พิเศษ ทำหน้าที่เป็นอาจารย์พิเศษและกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยนเรศวร[6][1]

ภาพลักษณ์

แก้

ปัจจุบันหลังจากเกษียณอายุราชการเขาได้ใช้เวลาว่างไปกับการทำเกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของครอบครัวของเขา[7][8] และเขาเป็นที่จดจำจากการเป็นหนึ่งในผู้เป็นต้นแบบของการปฏิบัติตามหลักแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง[9][10]

ชีวิตส่วนตัว

แก้

ปรีชาสมรสกับปิยธิดา เรืองจันทร์[11] (นามสกุลเดิม : นรารักษ์) มีบุตรและธิดารวม 2 คน ได้แก่ ป. ประภัสสนันทน์ เรืองจันทร์ (ชื่อเล่น : นุ่น) [11] และ ป. นนทนันทน์ เรืองจันทร์ (ชื่อเล่น : นาย) [11] นอกจากนี้เขายังสามารถร้องเพลงลูกทุ่งและตีกลองได้ โดยใช้ชื่อในวงการว่า รุ่ง พระลอ[2] โดยชื่อ "รุ่ง" เพื่อนของเขาได้ตั้งให้เป็นชื่อเล่นเนื่องจากเขาไม่ได้มีชื่อเล่นมาก่อน[2] ส่วน "พระลอ" มาจากการที่เขาชื่นชอบชินกร ไกรลาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเพลง ยอยศพระลอ[2]

ผลงานหนังสือ

แก้
  • ฉากชนบท (พ.ศ. 2542)
  • คนกินอุดมการณ์ (พ.ศ. 2542)
  • ลูกล่อลูกชนคนทำงาน (พ.ศ. 2542)
  • ก็อดอามี่มณีลอยปลุกราชบุรีเขย่าโลก (พ.ศ. 2543)
  • ขวัญใจชาวบ้าน (พ.ศ. 2544)
  • น้ำฝนน้ำฟ้า น้ำตาน้ำก้อ (พ.ศ. 2544)
  • คนแบกเสบียง (พ.ศ. 2545)
  • สอนให้จำ ทำให้ดู อยู่ให้เห็น (พ.ศ. 2549)
  • ชีวิตต่าง วางหัวโขน (พ.ศ. 2560)

ผลงานทางวิชาการ

แก้
  • หนังสือเสริมการอ่าน “แม่ค้าขายผัก” (พ.ศ. 2528)
  • จอมพล ป. พิบูลสงคราม : นายพลผู้สร้างนครบาลเพชรบูรณ์ (พ.ศ. 2549)
  • การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม (พ.ศ. 2559)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

แก้

ปรีชาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย ดังรายการต่อไปนี้

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 1.2 ตั้ง ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ อดีตผวจ.ลูกชาวนา รรท.อธิการบดี ม.นเรศวร
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 จากเด็กเลี้ยงควายไถนา สู่ผู้ว่าฯ ตงฉิน ‘ปรีชา เรืองจันทร์’
  3. ปรีชา เรืองจันทร์ อดีตผู้ว่าฯ ดีกรีด็อกเตอร์ ใช้ชีวิตหลังเกษียณ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง "ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก"
  4. Preecha Ruangjan installed as new governor
  5. Gov Preecha transferred out in civil service reshuffle
  6. "รองศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ปรีชา เรืองจันทร์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-03-19. สืบค้นเมื่อ 2023-01-31. {{cite web}}: ระบุ |accessdate= และ |access-date= มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ |archivedate= และ |archive-date= มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ |archiveurl= และ |archive-url= มากกว่าหนึ่งรายการ (help)
  7. แห่ชื่นชม!อดีตผู้ว่าฯติดดินหลังเกษียณทำนา
  8. ชื่นชมบุคคลตัวอย่าง! ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ อดีตผู้ว่าฯพิษณุโลก เหชีวิตมาทำไร่ทำนา
  9. ร.10 ทรงมอบกระเช้า "ปรีชา เรืองจันทร์" บุคคลตัวอย่างด้านเศรษฐกิจพอเพียง
  10. "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชกระแสชมเชยและกระเช้าพระราชทาน แก่นายปรีชา เรืองจันทร์ อดีตผู้ว่าฯ พิจิตร ในฐานะบุคคลต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-02-02. สืบค้นเมื่อ 2023-02-02. {{cite web}}: ระบุ |accessdate= และ |access-date= มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ |archivedate= และ |archive-date= มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ |archiveurl= และ |archive-url= มากกว่าหนึ่งรายการ (help)
  11. 11.0 11.1 11.2 ตั้งอดีตผู้ว่าฯพอเพียงนั่งรรท.อธิการบดีม.นเรศวร
  12. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๕, เล่ม ๑๒๙ ตอนที่ ๓๕ ข หน้า ๔, ๓ ธันวาคม ๒๕๕๕
  13. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๑๘ ข หน้า ๑๔, ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
  14. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๙๖ ตอนที่ ๑๕๙ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๘, ๑๗ กันยายน ๒๕๒๒
  15. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๑๙ ตอนที่ ๒ ข หน้า ๒๕๙, ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕
  16. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ และเหรียญลูกเสือสดุดี ประจำปี ๒๕๕๑, เล่ม ๑๒๖ ตอนที่ ๕ ข หน้า ๗, ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๒

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้