บุญเพ็งหีบเหล็ก
บุญเพ็งหีบเหล็ก (พ.ศ. 2433 – 19 สิงหาคม พ.ศ. 2462) เป็นฉายาของบุญเพ็ง ซึ่งเป็นฆาตกรต่อเนื่องในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เขามีรูปแบบการฆาตกรรมด้วยการใช้ของมีคมสังหารเหยื่อ แล้วหั่นศพ ก่อนนำศพใส่หีบเหล็กถ่วงน้ำ ภายหลังเขาถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ และปลงศพที่วัดภาษี ซึ่งปัจจุบันมีศาลบูชาบุญเพ็งตั้งอยู่ภายในวัดนั้น
บุญเพ็ง | |
---|---|
ภาพบุญเพ็ง เจ้าของฉายาบุญเพ็งหีบเหล็ก | |
เกิด | บุญเพ็ง พ.ศ. 2433 ท่าอุเทน ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 19 สิงหาคม พ.ศ. 2462 (29 ปี) วัดพลับพลาไชย พระนคร ประเทศสยาม |
สาเหตุเสียชีวิต | ประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ |
สุสาน | วัดภาษี เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร |
สัญชาติ | จีน-ลาว |
อาชีพ | พระสงฆ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ |
มีชื่อเสียงจาก | ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องหั่นศพแล้วใส่หีบเหล็ก |
พิพากษาลงโทษฐาน | ฆาตกรรมต่อเนื่อง |
บทลงโทษ | ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ |
รายละเอียด | |
วันที่ | 19 สิงหาคม พ.ศ. 2462 |
ตาย | 2-7 คน |
อาวุธ | มีดและดาบ |
วันที่ถูกจับ | 14 มกราคม พ.ศ. 2461 |
ประวัติ
แก้บุญเพ็งเกิดในปีขาล ช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งตรงในปี พ.ศ. 2433 [1] ที่เมืองท่าอุเทน มณฑลอุดร (ปัจจุบันเป็นอำเภอ ขึ้นกับจังหวัดนครพนม) บิดาเป็นจีน ส่วนมารดาเป็นลาว (อดีตไทยภาคกลางยังเรียกคนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า ลาว) บุญเพ็งได้เข้ามาอยู่ในกรุงเทพมหานครตั้งแต่อายุ 5 ขวบ โดยอาศัยอยู่กับตาชื่อสุก และยายชื่อเพียร[2]
บุญเพ็งบวชเป็นภิกษุจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในเมืองนนทบุรี พระบุญเพ็งมีลูกศิษย์ส่วนมากเป็นผู้หญิงมีฐานะ พระบุญเพ็งจึงมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิงเหล่านี้ ต่อมาเกิดโลภมากในทรัพย์จึงได้ฆ่าสีกาที่เป็นเศรษฐินีเจ็ดคน แล้วนำศพยัดใส่หีบเหล็กแล้วถ่วงน้ำทุกครั้ง ผู้คนจึงเรียกเขาว่า "บุญเพ็งหีบเหล็ก" ต่อมาเขาถูกจับกุม เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2461 กำหนดวันประหาร เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2462 โดยบุญเพ็งเป็นนักโทษชายที่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตคนสุดท้าย ที่ถูกปลิดชีพด้วยการบั่นคอ (โดยเล่าลือว่าในตอนแรกขณะที่ประหารเพชฌฆาตไม่สามารถตัดคอบุญเพ็งได้เนื่องจากความแก่กล้าในคาถาอาคม) กรมหลวงชุมพรฯ ทรงเดินออกไปตรัสว่า ให้คลาย "ของขลัง" ออกจากปากเพราะเอ็งได้สร้างบาปกรรมไว้มากนะ จน บุญเพ็ง ได้ทำตามรับสั่ง และได้ประหารชีวิตที่วัดพลับพลาไชยในที่สุด[3] ต่อมา ศพฝังอยู่ที่ป่าช้า และทำพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดภาษี เขตวัฒนา ริมคลองแสนแสบ ปัจจุบัน มีศาลบูชาบุญเพ็ง ซึ่งบุคคลในวัดจะเรียกบุญเพ็งว่า "ลุงบุญเพ็ง" และยังเชื่อว่าหีบเหล็กทั้ง 7 ใบนั้นถูกฝังอยู่ใต้ศาลของบุญเพ็งที่วัด[4]
สิ่งสืบเนื่อง
แก้- ในปี พ.ศ. 2510 เรื่องราวของบุญเพ็งได้รับการนำมาถ่ายทอดเป็น ละครวิทยุ หลายครั้ง และสร้างเป็นภาพยนตร์ไทยกำกับโดยพยุง พยกุล นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี แสดงคู่กับปริศนา ชบาไพร และ แมน ธีระพล รับบท บุญเพ็ง
- ในปี พ.ศ. 2523 ได้นำมาสร้างภาพยนตร์ไทยอีกครั้ง นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี แสดงคู่กับปริศนา ชบาไพร และ ไพโรจน์ ใจสิงห์ รับบท บุญเพ็ง
- ในปี พ.ศ. 2549 สร้างเป็นภาพยนตร์ซีดี นำแสดงโดย พร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ แสดงคู่กับทัดทรวง มณีจันทร์ และมรกต มณีฉาย[5]
ดูเพิ่ม
แก้- สมศักดิ์ ขวัญแก้ว ฆาตกรอีกคนที่มีการตั้งศาลให้หลังจากการประหารชีวิต
อ้างอิง
แก้- ↑ ปฏิทินปีขาลสมัย รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
- ↑ ฆาตกรโหดสะท้านโลก เก็บถาวร 2014-08-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ตอนที่ 366 : บุญเพ็งหีบเหล็ก (The Murderer Iron Box) คดีหีบลอยน้ำ
- ↑ บุญเพ็ง หีบเหล็ก จอมไสยเวทย์ฆาตกรรม นักโทษตัดหัวคนสุดท้าย
- ↑ พลิกปูมบุญเพ็งหีบเหล็ก 90 ปี ..วิญญาณยังวนเวียนในวัด ไทยรัฐ, 20 ม.ค. 51
- ↑ ย้อนรอยอดีต “เด็จพี่” เล่นบทโจรขนปืนบุกบาร์ญี่ปุ่น เก็บถาวร 2011-11-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จาก ผู้จัดการออนไลน์
บรรณานุกรม
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- บุญเพ็งหีบเหล็ก (2510) ที่เว็บไซต์ ThaiFilmDb
- บุญเพ็งหีบเหล็ก (2523) ที่เว็บไซต์ ThaiFilmDb