การสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน พ.ศ. 2563

วันที่ 16 ตุลาคม 2563 ตำรวจสลายการชุมนุมของกลุ่มราษฎรในการประท้วงขับไล่รัฐบาลอย่างสงบด้วยกำลัง ได้แก่ ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมี และแก๊สน้ำตา ที่แยกปทุมวันไปจนถึงแยกราชเทวี ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.50–23.15 น. เบื้องต้นมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 6 คน และมีผู้ถูกจับกุมกว่า 100 คน

การสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน พ.ศ. 2563
เป็นส่วนหนึ่งของ การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564
การใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงที่แยกปทุมวัน
สถานที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
วันที่16 ตุลาคม 2563
ประเภทการสลายการชุมนุม
เจ็บอย่างน้อย 6 คน
ผู้ก่อเหตุตำรวจตระเวนชายแดน
หน่วยควบคุมฝูงชน ตำรวจนครบาล

ตำรวจยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามหลักสากลเรื่องการควบคุมฝูงชน แต่องค์การและปัจเจกหลายแห่งและคนทั้งในและต่างประเทศประณามการสลายการชุมนุมดังกล่าว ส่วนทางด้านนายกรัฐมนตรีนำคลิปวิดีโอที่ผู้ชุมนุมใช้คีมตัดเหล็กฟาดใส่ตำรวจในชุดเกราะมาโจมตีขบวนการนักศึกษา

ลำดับเหตุการณ์

แก้
ตำรวจใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน

ผู้ชุมนุมเริ่มชุมนุมที่แยกปทุมวันตั้งแต่เวลาประมาณ 17.40 น. ซึ่งเปลี่ยนจากแยกราชประสงค์ตามที่ได้กำหนดล่วงหน้าเนื่องจากมีการวางกำลังตำรวจอย่างแน่นหนา นอกจากนี้ กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) ยังมีคำสั่งปิดระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่โดยรอบ[1]

ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.50 น.[2] เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังสลายการชุมนุมด้วยปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและใช้น้ำผสมสารเคมีสีน้ำเงิน[3] และแก๊สน้ำตา[4] ตำรวจยังมีการใช้อุปกรณ์ส่งเคลื่อนรบกวนระยะไกล[1]

เวลา 19.20 น. พบเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนคนหนึ่งล้มลงกับพื้นหลังเริ่มฉีดน้ำ และมีรถพยาบาลเข้ามารับตัว[1] ผู้ชุมนุมเข้าไปหลบอยู่ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนทางมหาวิทยาลัยปิดประตูใหญ่ให้เข้าเฉพาะนิสิตที่แสดงบัตรนักศึกษา ให้เข้าเฉพาะทางประตูเล็ก ผู้ชุมนุมบริเวณถนนพญาไทประกาศยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 20.55 น. โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจักษ์ ก้องกีรติ[5]และอาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยบางคนช่วยจัดระเบียบให้เดินทางกลับ[1] ฝ่ายตำรวจตามสลายการชุมนุมด้วยปืนฉีดน้ำแรงดันสูงตั้งแต่แยกปทุมวันไปทางถนนพระราม 1 จนถึงเวลาประมาณ 21.10 น.[1][2] ในช่วงเวลานั้น ยังคงเหลือผู้ชุมนุมบริเวณถนนพญาไท ฝั่งราชเทวี และหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร[6] พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลพยายามเจรจากับตำรวจขอให้เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บออกจากที่ชุมนุม แต่ไร้ผล[7]

เวลาประมาณ 21.10 น. ตำรวจฉีดน้ำสลายการชุมนุมกลับมารวมตัวกันที่ฝั่งเอ็มบีเคเซ็นเตอร์[6] ตำรวจติดตามผู้ชุมนุมไปจนถึงสะพานเฉลิมหล้า 56 และแยกราชเทวี และมีการฉีดน้ำขับไล่จนยึดคืนและเปิดการจราจรได้เมื่อเวลาประมาณ 23.15 น.[6]

ผู้บาดเจ็บและผู้ถูกจับกุม

แก้

ศูนย์การแพทย์เอราวัณเปิดเผยในคืนนั้นว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คน เป็นเจ้าหน้าที่ 4 นายและประชาชน 2 คน[6]

ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่ามีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 100 คน รวมทั้งทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก, ณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน ผู้ร่วมก่อตั้ง Spaceth.co[6] (ซึ่งได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 17 ตุลาคม) วันเดียวกัน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนโพสต์ว่าศาลแขวงปทุมวันยกคำร้องขอฝากขังผู้ถูกจับกุมจำนวน 8 คน[8] สื่อมวลชนจากหนังสือพิมพ์ ประชาไท ถูกยึดโทรศัพท์มือถือระหว่างรายงานสด[6] และถูกจับกุมตัวไปยังกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ก่อนได้รับการปล่อยตัวในเช้ามืดวันที่ 17 ตุลาคม[9]

บทวิเคราะห์

แก้

สารเคมี

แก้

สีของน้ำนั้นคาดการณ์ว่าเป็นเมทิลลีนบลู, แอเซอร์เอ, หรือไทโอนีน และใช้ติดตามตัวบุคคลเป็นเวลาหลายวัน[10] ด้านตำรวจไม่สามารถยืนยันประเภทของสารเคมีได้แน่ชัด ทำให้ถูกวิจารณ์ว่าดูไม่ได้ศึกษาสารเคมีที่จัดซื้อมา[11] มีผู้โพสต์ในสื่อสังคมว่า ตนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นอวัยวะภายในช้ำ[12]

ตำรวจแถลงว่า สารเคมีนั้นไม่เป็นอันตราย และว่าได้ปฏิบัติตามมาตรฐานนานาชาติสำหรับการควบคุมฝูงชน[13][14] อย่างไรก็ดี แนวทางของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติระบุว่าควรใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงเฉพาะกับผู้ประท้วงรุนแรงเท่านั้น และห้ามฉีดใส่บุคคลโดยตรง[15]

คีมตัดเหล็ก

แก้

วรงค์ เดชกิจวิกรม และอัษฎางค์ ยมนาค หยิบยกคลิปโดยสำนักข่าวเอเอฟพีที่มีผู้ประท้วงใช้คีมตัดเหล็กฟาดใส่ตำรวจในชุดเกราะมาตั้งคำถามว่าผู้ชุมนุมมือเปล่าจริงหรือไม่[16][17] ในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ในวันที่ 21 ตุลาคม ประยุทธ์ระบุว่าผู้ประท้วงใช้คีมตัดเหล็กทำร้ายตำรวจ และว่ามี "พฤติกรรมรุนแรงอีกหลายอย่างต่อเจ้าหน้าที่"[18]

ปฏิกิริยา

แก้

ฝ่ายผู้ประท้วงตอบโต้โดยมีการจัดแฟลชม็อบที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และมหาวิทยาลัยขอนแก่นในคืนเดียวกัน[19][20][21] หลังจากนั้นผู้ประท้วงชุมนุมติด ๆ กันหลายวัน โดยรัฐบาลสั่งปิดระบบรถไฟฟ้าซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบหลายแสนคน[22] แต่ไม่มีการสลายการชุมนุมอีก

พรรคร่วมฝ่ายค้านประณามการสลายการชุมนุมโดยสงบ เป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ และให้เปิดสมัยประชุมวิสามัญของรัฐสภาโดยเร็ว[23]

ดาราหลายคนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการสลายการชุมนุม เช่น สมิทธิ์ อารยะสกุล, ปาณิสรา อารยะสกุล, แพรวา สุธรรมพงษ์ สมาชิกบีเอ็นเคโฟร์ตีเอต, เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ, คชาภา ตันเจริญ, พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ, เจษฎาภรณ์ ผลดี โดยเฉพาะโฟกัส จีระกุล ที่ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าขอเลือกข้างประชาธิปไตย[24] หนังสือพิมพ์ ข่าวสด และ บางกอกโพสต์ เขียนบทบรรณาธิการเรียกร้องให้ประยุทธ์ลาออกเพื่อลดความขัดแย้ง[25][26]

สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติและองค์การนิรโทษกรรมสากลรับรองสภาพสงบของการชุมนุม และประณามการสลายการชุมนุม[27][28] ผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอชเอเชียกล่าวว่า การทำให้การชุมนุมโดยสงบเป็นความผิดเป็นสัญลักษณ์ของการปกครองระบอบเผด็จการ ทั้งเรียกร้องให้สหประชาชาติและรัฐบาลนานาประเทศประณามด้วย และให้ปล่อยตัวนักโทษ[3] นักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกง โจชัว หว่อง โพสต์ทวิตเตอร์แสดงความเป็นอันหนึ่งเดียวกับผู้ประท้วง และขอให้ทั่วโลกสนใจการประท้วงในประเทศไทย[29] กลุ่มประชาสังคมในเกาหลีใต้เรียกร้องให้รัฐบาลเลิกส่งออกรถติดตั้งปืนฉีดน้ำแรงดันสูงแก่ทางการไทย[30]

วันที่ 22 ตุลาคม นายกรัฐมนตรีประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร[31][32] และคณะรัฐมนตรีออกพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสมัยวิสามัญในวันที่ 21 ตุลาคม

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 "#16ตุลาไปแยกปทุมวัน ตำรวจสลายการชุมนุม ฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 26 October 2020.
  2. 2.0 2.1 "ตำรวจสลายการชุมนุม ม็อบแยกปทุมวัน". ประชาชาติธุรกิจ. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 26 October 2020.
  3. 3.0 3.1 "Water cannon used on protesters". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  4. "Thai police resort to teargas, arrest warrants against protesters". Nikkei Asia. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  5. ลั่นตัดสินใจถูก เปิดคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ พื้นที่ปลอดภัย รับม็อบถูกสลายชุมนุม
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 6.5 "เกาะติดเหตุสลายการชุมนุม "คณะราษฎร" ที่แยกปทุมวัน - บีบีซีไทย". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 26 October 2020.
  7. "พรรคก้าวไกล เจรจา ผบช.น. เข้าพื้นที่ชุมนุม พาคนเจ็บออกจากม็อบ". ประชาชาติธุรกิจ. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  8. "ปล่อยตัว "เติ้ล ณัฐนนท์" หนุ่มวางโบขาว หลังถูกจับระหว่างสลายการชุมนุม". ไทยรัฐ. สืบค้นเมื่อ 26 October 2020.
  9. "ใช้กำลังสลายการชุมนุมต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง จับกุมนักข่าว-ประชาชนกว่าร้อยคน". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 26 October 2020.
  10. "ไขข้อสงสัย สลายม็อบ 'แยกปทุมวัน' ทำไมต้อง 'น้ำสีฟ้า' !?". ฺBangkokbiznews. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  11. "Police insist water cannons did not fire harmful chemicals". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
  12. "ผู้ชุมนุมถูกฉีดน้ำแยกปทุมวัน เผยมีอวัยวะภายในช้ำ-มีสารพิษตกค้างในร่างกาย". ฝ่ายข่าว ช่อง 3. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-30. สืบค้นเมื่อ 26 October 2020.
  13. Neumann, Scott (16 October 2020). "Police In Bangkok Use Water Cannon To Break Up Anti-Government Protests". NPR.com. สืบค้นเมื่อ 21 October 2020.
  14. Yuda, Masayuki (18 October 2020). "Thailand's crackdown on protests turns violent: Five things to know". Nikkei Asian Review. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-18.
  15. Human Rights Watch (17 October 2020). "Thailand: Water Cannon Used Against Peaceful Activists". Human Rights Watch. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-31.
  16. "'หมอวรงค์'งัดภาพม็อบทำร้ายจนท.ด้วยคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ แฉขบวนการบิดเบือน". สยามรัฐ. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  17. "อัษฎางค์ เปิดประเด็น ม็อบมือเปล่าจริงหรือ ด่าสถาบันฯ กลางราชประสงค์...เรียกชุมนุมสงบจริงหรือ". ทีนิวส์. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  18. "คำแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี "ถอยคนละก้าว เข้าสภา ใช้สติและปัญญา แก้ปัญหาร่วมกัน"". รัฐบาลไทย. สืบค้นเมื่อ 26 October 2020.
  19. "นักศึกษาธรรมศาสตร์ จัดแฟลชม็อบ ประณามสลายการชุมนุม". ประชาชาติธุรกิจ. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  20. "นศ.ลุกฮือประณามรัฐ ต่อต้านใช้ความรุนแรง". Bangkokbiznews (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  21. "นักศึกษา ม.ขอนแก่น รับไม่ได้ ลุกฮือจัดชุมนุม ประณามการกระทำจนท". ข่าวสด. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  22. "Protesters pick 3 sites as mass transit shut down". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  23. "พรรคร่วมฝ่ายค้านประณามสลายชุมนุมแยกปทุมวันชี้ทำเกินเหตุ". โพสต์ทูเดย์. สืบค้นเมื่อ 26 October 2020.
  24. "คนบันเทิงประณามการใช้ความรุนแรง สลายการชุมนุมแยกปทุมวัน - ข่าวช่อง3 CH3 Thailand NEWS". ฝ่ายข่าว ช่อง 3. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-31. สืบค้นเมื่อ 26 October 2020.
  25. English, Khaosod (2020-10-16). "7 Arrested for Fresh Protest, Cops Threaten to Charge Everyone". Khaosod English (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-19. สืบค้นเมื่อ 2020-10-17.
  26. "Listen to the young". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-10-19.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  27. "Thailand: Bangkok shuts public transport as protests persist | DW | 17.10.2020". Deutshe Welle. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
  28. "Thailand: Police disperse pro-democracy protesters outside PM's office". Euro News (ภาษาอังกฤษ). 15 October 2020. สืบค้นเมื่อ 15 October 2020.
  29. "โจชัว หว่อง ฝากถึงชาวโลก ให้ช่วยยืนเคียงข้างชาวไทยหัวใจประชาธิปไตย". Khaosod. 16 October 2020. สืบค้นเมื่อ 16 October 2020.
  30. "เกาหลีใต้ จี้ รบ.เลิกส่งออกรถฉีดน้ำสลายม็อบ". VoiceTV. สืบค้นเมื่อ 23 October 2020.
  31. "State of emergency ends in Bangkok". Bangkok Post. 22 October 2020. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.
  32. Regan, Helen (22 October 2020). "Thailand's Prime Minister lifts state of emergency. Protesters give him three days to resign". CNN.com. สืบค้นเมื่อ 22 October 2020.