วรงค์ เดชกิจวิกรม
นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม (เกิด 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2504) เป็นนักการเมืองชาวไทย อดีตแพทย์ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย แกนนำกลุ่มไทยภักดี ประธานพรรคไทยภักดี
วรงค์ เดชกิจวิกรม | |
---|---|
วรงค์ ใน พ.ศ. 2553 | |
ประธานพรรคไทยภักดี | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 5 สิงหาคม พ.ศ. 2566 | |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก | |
ดำรงตำแหน่ง 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 | |
ก่อนหน้า | พิทักษ์ สันติวงศ์เดชา |
ถัดไป | ปดิพัทธ์ สันติภาดา |
หัวหน้าพรรคไทยภักดี | |
ดำรงตำแหน่ง 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564 – 5 สิงหาคม พ.ศ. 2566 | |
ก่อนหน้า | ก่อตั้งพรรค |
ถัดไป | อิสราพร นรินทร์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | ไทยรักไทย (2543–2547) ประชาธิปัตย์ (2547–2562) รวมพลัง (2562–2563) ไทยภักดี (2564–ปัจจุบัน) |
คู่สมรส | สุวรี เดชกิจวิกรม |
ลายมือชื่อ | |
ประวัติ
แก้วรงค์ เดชกิจวิกรม มีชื่อเล่นว่า "โก๋"[1] เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 ที่ตำบลธานี อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร ระดับปริญญาตรี แพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระดับปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และวุฒิบัตรแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทาง สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่[2] ซึ่งในขณะศึกษานั้น ได้รับเลือกให้เป็นนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (อ.มช.) อีกด้วย
ด้านชีวิตครอบครัว วรงค์ สมรสกับ สุวรี เดชกิจวิกรม (ชื่อเล่น:น้อง) โดยทั้งคู่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนระดับมหาวิทยาลัย มีบุตร-ธิดา 2 คน[1]
การทำงาน
แก้การรับราชการ
แก้วรงค์ เคยรับราชการเป็นนายแพทย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข และเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลโซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลพรเจริญ อ.พรเจริญ จ.หนองคาย เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ต่อมาจึงได้ลาออกจากราชการเพื่อเข้าสู่งานการเมือง
งานการเมือง
แก้วรงค์ เริ่มต้นงานการเมืองภายหลังลาออกจากราชการ โดยแรกเริ่มอยู่ในสังกัดพรรคไทยรักไทย (ทรท.) แต่ทว่าได้ลาออกจากพรรคไทยรักไทย เมื่อทางพรรคได้เปลี่ยนแปลงตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก เมื่อปี พ.ศ. 2547 ดังนั้น เจ้าตัวจึงย้ายไปอยู่ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แทน และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2548 และได้รับเลือกตั้งอีกในปี พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2554[3] สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เขาเคยได้รับแต่งตั้งเป็นรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เขามีบทบาทในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเรื่องนโยบายจำนำข้าว และเป็นที่ยอมรับของฝ่ายค้านด้วยกัน[4]
เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง[5]
กระทั่งวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 วรงค์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ต่อ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์โดยให้มีผลทันที [6] และเตรียมแถลงชี้แจงเหตุผลการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ในวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 [7] โดยในวันเดียวกัน เขาได้สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) แบบตลอดชีพ [8] ต่อมาเขาได้จัดตั้งพรรคไทยภักดีประเทศไทย และทำหน้าที่หัวหน้าพรรค
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เขาลงสมัครรับเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคไทยภักดี แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2554 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[9]
- พ.ศ. 2551 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[10]
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 บ้านนี้สีฟ้า รีรัน, รายการทางบลูสกายแชนแนล: เสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2556
- ↑ "สภาผู้แทนราษฎร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2011-12-24.
- ↑ "ผลการเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดพิษณุโลก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2011-12-24.
- ↑ วิปค้านยกนิ้ว “วรงค์” บี้โกงจำนำข้าว ตอก “เจริญ” ไม่เป็นกลาง หวังลักไก่ล้างผิด[ลิงก์เสีย]
- ↑ แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ เตรียมหย่อนบัตรปี 62 ส.ส. ลด 23 จังหวัด อีสานหด 10 ที่นั่ง
- ↑ คอนเฟิร์ม'วรงค์'ลาออกพ้นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
- ↑ ปชป.กระเพื่อมอีกแล้ว! ช็อก'วรงค์'ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรค
- ↑ ‘หมอวรงค์’ ย้ายซบเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๔, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๑๓, ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๓๑, ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๑
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้