กรมการท่องเที่ยว

กรมการท่องเที่ยว (อังกฤษ: Department of Tourism) เป็นส่วนราชการระดับกรม ในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีหน้าที่เกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวในด้านบริการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว ธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์และผู้นำเที่ยว มาตรฐานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การรักษาความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว รวมถึงการสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักร ให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กฎหมายว่าด้วยภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

กรมการท่องเที่ยว
Department of Tourism
ตราเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์
ภาพรวมหน่วยงาน
ก่อตั้ง3 ตุลาคม พ.ศ. 2545; 21 ปีก่อน (2545-10-03)
หน่วยงานก่อนหน้า
  • สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว
สำนักงานใหญ่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ชั้น 2 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
งบประมาณประจำปี521,064,700 บาท (พ.ศ. 2563)[1]
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน
  • จาตุรนต์ ภักดีวานิช[2], อธิบดี
  • บุญเสริม ขันแก้ว, รองอธิบดี
  • ณัฏฐิรา แพงคุณ, รองอธิบดี
ต้นสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เว็บไซต์http://www.dot.go.th

ประวัติการก่อตั้ง แก้

กรมการท่องเที่ยว เดิมชื่อ “สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว” จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545[3] เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 โดยเป็นการถ่ายโอนภารกิจบางส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภารกิจด้านภาพยนตร์จากกรมประชาสัมพันธ์ มาไว้ในการดูแลของสำนักงานฯ

ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ให้เปลี่ยนชื่อสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว เป็น “กรมการท่องเที่ยว” ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว เป็นกรมการท่องเที่ยว พ.ศ. 2553 มีผลบังคับใช้ คือ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553[4]

ภาพเครื่องหมายราชการของกรมการท่องเที่ยว แก้

เครื่องหมายราชการของกรมการท่องเที่ยว เป็นรูปเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งกิ่งรูปโขนเรือเป็นศีรษะหงส์ ยาตรามาในกระบวนพยุหยาตรา โดยชลมารคเทียบท่าฉนวน หน้าวัดอรุณราชวราราม ในดวงสัญลักษณ์ปรากฏเฉพาะโขนเรือพระที่นั่ง อันงามสง่า ปากหงส์ห้อยพวงแก้วและพู่จามรี่ คอหงส์ห้อยมาลัยกรองตาข่ายดอกรักห้อย พวงกลางกรองดอกไม้สด พู่เฟื่องอุบะ การนำโขนเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์มาเป็นตราสัญลักษณ์ประทับใจ และรู้จักแพร่หลายกันทั่วโลก ดังที่ประธานองค์การเรือโลกทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญรางวัลมรดกทางทะเล ขององค์การเรือโลก ประจำปี พ.ศ. 2535 แด่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เบื้องหลังโขนเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เป็นรูปพระปรางค์ประธานและปรางค์องค์น้อยบริวาร วัดอรุณราชวรารามก็เป็นที่ชนชาวโลกรู้จักกันแพร่หลาย เช่น อันว่าเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงประเทศไทย นอกจากนี้ยังแสดงฝั่งน้ำและพื้นระลอกน้ำของลำน้ำเจ้าพระยาอันเป็นแม่น้ำสายสำคัญ ซึ่งก่อเกิดรากเหง้าแห่งวัฒนธรรมศิลป์ของชาติไทย ล้อมรอบด้วยข้อความภาษาไทยด้านบนมีคำว่า “กรมการท่องเที่ยว” ด้านล่างภาษาอังกฤษมีคำว่า “DEPARTMENT OF TOURISM”

  • ลายเส้นต่างขนาดช่วงบน หมายถึง คุณค่าทางศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรมอันดีงาม ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมที่บริสุทธิ์ และสวยงาม ซึ่งทำให้การท่องเที่ยวของไทยโดดเด่นในหลาย ๆ มิติ และยังเปรียบเสมือนการปกป้อง คุ้มครอง ดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ตลอดระยะเวลาในการเดินทางในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ของประเทศไทย
  • ลายน้ำช่วงล่าง หมายถึง พื้นน้ำที่จะนำพาเรือให้ล่องไปทุก ๆ ที่ของประเทศไทยที่มีความงาม ล้วนแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และบริการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมาตรฐาน ใครได้มาแล้วจะต้องกลับมาเที่ยวอีก
  • สีทอง หมายถึง ความมีคุณค่า ความสง่างาม มั่งคั่ง มั่งมี อบอุ่น เป็นมิตร สร้างสรรค์ นักคิดค้น ประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ อิสระ ความเมตตา อันแสดงถึงอัตลักษณ์ และ ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทย
  • สีขาว หมายถึง แสงสีขาวจากดวงอาทิตย์เปรียบเสมือนกรมการท่องเที่ยว เป็นความหมายที่แสดงให้เห็นถึงความมีอำนาจ การพัฒนาการท่องเที่ยวทำให้นักท่องเที่ยวมองเห็นแล้วมีความรู้สึกต่าง ๆ ตามอิทธิพลของสิ่งสร้างสรรค์ เกี่ยวกับวิถีชีวิตของมนุษย์ ความสวยงาม กลมกลืน การจัดกลุ่ม การสื่อความหมาย ความช่วยเหลือ ความบริสุทธิ์ สะอาด ความถูกต้อง การสร้างสรรค์งานพัฒนา สร้างบรรยากาศ และการเปลี่ยนแปลง
  • สีฟ้า หมายถึง การท่องเที่ยวที่สุขสบาย มีชีวิตชีวา ความสวยงาม โปร่งใส สะอาด ปลอดภัย ความเป็นอิสระ เสรีภาพ การช่วยเหลือ แบ่งปัน และความสนุกสนาน ในบรรยากาศที่สดใส
  • สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ สิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ สวยสดงดงาม ให้ความรู้สึกที่สงบ งอกงาม สดชื่น เงียบ ร่มรื่น ร่มเย็น การพักผ่อน ผ่อนคลาย ปลอดภัย ความสุข ความสุขุมเยือกเย็น
  • สีน้ำเงิน หมายถึง ประชาชนคนไทยมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี มีความซื่อสัตย์ ความรู้สึกสงบ เป็นเจ้าบ้านที่ดี ความมั่นคง ความสม่ำ เสมอ เสถียรภาพ ความแน่นอน ความแข็งแรง ความเป็นผู้นำ ความเย็น ความสบาย ความไว้วางใจ คลาสสิก

อักษรย่อส่วนราชการ แก้

กรมการท่องเที่ยว ใช้อักษรย่อว่า “กทท.”

DEPARTMENT OF TOURISM ใช้อักษรย่อว่า “DOT.”

“DOT.” หมายถึง จุดหลาย ๆ จุดต่อเรียงกันก็จะเป็นเส้นตรง การทำให้บางสิ่งบางอย่างเจริญเติบโตขึ้นได้ก็จะต้องเกิดจากจุด จุดต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นพื้นฐาน เพื่อป้องกันมิให้ส่วนต่อยอดขึ้นไปนั้นสั่นคลอน จุดเป็นหลักเพื่อควบคุมส่วนประกอบ หรือสาขา จุดถูกใช้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องใกล้ตัว ไปจนถึงการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมือง และอารยธรรมของมนุษยชาติ ดังนั้น จุดศูนย์กลางเล็ก ๆ นี้ สามารถสร้างสรรค์จินตนาการให้แผ่ขยายออกไปได้อย่างกว้างขวาง

การแบ่งส่วนราชการ แก้

กรมการท่องเที่ยว แบ่งส่วนราชการออกเป็น 6 หน่วยงาน ได้แก่

  1. สำนักงานเลขานุการกรม
  2. กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ
  3. กองทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
  4. กองพัฒนาบริการท่องเที่ยว
  5. กองพัฒนามาตรฐานบุคลากรด้านการท่องเที่ยว
  6. กองพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว[5]

สถานที่ตั้ง แก้

กรมการท่องเที่ยว เดิมมีที่ทำการตั้งอยู่เลขที่ 154 สนามกีฬาแห่งชาติ ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 ปัจจุบันได้ย้ายที่ทำการมายัง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ชั้น 2 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563[6]

กรมการท่องเที่ยว มีสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มีหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแลธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยว ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ดังนี้

  • สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขากรุงเทพมหานคร สำนักงานตั้งอยู่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ชั้น 2 เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร รับผิดชอบในเขตกรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชัยนาท นครนายก นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ราชบุรี ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง และอุทัยธานี
  • สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคตะวันออก (จังหวัดชลบุรี) สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 168/3 หมู่ที่ 1 ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี รับผิดชอบในเขตจังหวัดชลบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด ปราจีนบุรี ระยอง และสระแก้ว
  • สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 414/20 -21 หมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ถนนช้างคลาน ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รับผิดชอบในเขตจังหวัดเชียงใหม่ กำแพงเพชร เชียงราย ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย และอุตรดิตถ์
  • สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดนครราชสีมา) สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 539 หมู่ 2 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา รับผิดชอบในเขตจังหวัดนครราชสีมา กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี
  • สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคใต้ 1 (จังหวัดสุราษฎร์ธานี) สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 248/1 ถนนดอนนก ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี รับผิดชอบในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สตูล และสงขลา
  • สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคใต้เขต 1 สาขาย่อยหาดใหญ่ (จังหวัดสงขลา) สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 151/38 หมู่ที่ 4 ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รับผิดชอบในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคใต้ 1[7]
  • สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคใต้ 2 (จังหวัดภูเก็ต) สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 63/710 ถนนวิรัชหงษ์หยก ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต รับผิดชอบในเขตจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา และระนอง[8]

อ้างอิง แก้

  1. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เล่ม 137 ตอนที่ 15ก วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563
  2. ครม.ไฟเขียว จาตุรนต์ ภักดีวานิช ขึ้นแท่นอธิบดีกรมการท่องเที่ยว
  3. "พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-12. สืบค้นเมื่อ 2010-06-21.
  4. พระราชกฤษฎีกา เปลี่ยนชื่อสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว เป็นกรมการท่องเที่ยว พ.ศ. ๒๕๕๓
  5. กฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ. ๒๕๕๙
  6. ประกาศกรมการท่องเที่ยว เรื่อง การย้ายที่ทำการกรมการท่องเที่ยวและเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์[ลิงก์เสีย]
  7. "กำหนดสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้เขต 1 (สาขาย่อยหาดใหญ่) พ.ศ. 2563". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-17. สืบค้นเมื่อ 2021-02-01.
  8. ประกาศแจ้งย้ายสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขา 5 สาขา จะดำเนินการย้ายที่ทำการสำนักงานไปยังที่ทำการแห่งใหม่ ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป[ลิงก์เสีย]

แหล่งข้อมูลอื่น แก้