สโมสรฟุตบอลคริสตัลพาเลซ
สโมสรฟุตบอลคริสตัลพาเลซ (อังกฤษ: Crystal Palace F.C.) หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า พาเลซ เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอยู่ในเซลเฮิสต์, เซาท์ลอนดอน, อังกฤษ พวกเขาแข่งขันในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ แม้ว่าสโมสรจะก่อตั้งอย่างเป็นทางการในฐานะทีมฟุตบอลอาชีพใน ค.ศ. 1905 ที่อาคารนิทรรศการคริสตัลพาเลซ แต่ต้นกำเนิดของสโมสรสามารถสืบย้อนไปได้ไกลถึง ค.ศ. 1861[3][4] สโมสรใช้สนามนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ซึ่งอยู่ภายในบริเวณสนามของพาเลซ เป็นสนามเหย้าระหว่าง ค.ศ. 1905 ถึง 1915 ก่อนที่จะถูกบังคับให้ย้ายออกจากสนามเนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ใน ค.ศ. 1924 พวกเขาย้ายไปยัง เซลเฮิสต์พาร์ก ซึ่งเป็นสนามเหย้าปัจจุบัน
![]() | ||||
ชื่อเต็ม | สโมสรฟุตบอลคริสตัลพาเลซ | |||
---|---|---|---|---|
ฉายา |
| |||
ก่อตั้ง | 10 กันยายน 1905[B] | |||
สนาม | เซลเฮิสต์พาร์ก | |||
ความจุ | 25,486[2] | |||
เจ้าของ |
| |||
ประธาน | สตีฟ แพริช | |||
ผู้จัดการ | โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ | |||
ลีก | พรีเมียร์ลีก | |||
2023–24 | พรีเมียร์ลีก อันดับที่ 10 จาก 20 | |||
เว็บไซต์ | เว็บไซต์สโมสร | |||
| ||||
พาเลซใช้ช่วงแรก ๆ ของการเป็นสโมสรอาชีพลงเล่นในเซาเทิร์นลีก และชนะเลิศการแข่งขันระดับภูมิภาคหลายสมัย พวกเขาได้รับเลือกให้เข้าเป็นสมาชิกฟุตบอลลีกใน ค.ศ. 1920 และโดยรวมแล้วพวกเขาได้แข่งขันในสองระดับสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ตลอดประวัติศาสตร์ลีกของพวกเขา ตั้งแต่ ค.ศ. 1964 เป็นต้นมา พาเลซตกชั้นลงมาต่ำกว่าระดับสองเพียงครั้งเดียวในช่วงสามฤดูกาลระหว่าง ค.ศ. 1974 ถึง 1977 ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 พาเลซกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งในลีกสูงสุดและท้าทาย อาร์เซนอล และลิเวอร์พูล เพื่อชิงแชมป์ลีกอังกฤษในฤดูกาล 1990–91 แต่สุดท้ายก็จบฤดูกาลในอันดับที่สาม ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดของสโมสรจนถึงปัจจุบัน พวกเขาพลาดการผ่านเข้าไปแข่งขันในยูฟ่าคัพในช่วงท้ายฤดูกาล เนื่องจากจำนวนสิทธิ์ในฟุตบอลยุโรปที่มีให้สโมสรจากอังกฤษมีจำกัด หลังจากยูฟ่ายกเลิกการแบนซึ่งเกิดจากภัยพิบัติสนามเฮย์เซล นอกจากนี้ พาเลซยังเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพใน ค.ศ. 1990 โดยแพ้อย่างเฉียดฉิวให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หลังจากการแข่งขันนัดแข่งใหม่ และคริสตัลพาเลซเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของพรีเมียร์ลีก
อย่างไรก็ตาม พาเลซตกต่ำลงหลังจากตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกใน ค.ศ. 1998 ประสบปัญหาทางการเงินซึ่งส่งผลให้สโมสรเข้าสู่ภาวะล้มละลายถึงสองครั้งใน ค.ศ. 1999 และ 2010 ในที่สุดพวกเขาก็ฟื้นตัวและเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกใน ค.ศ. 2013 ซึ่งสโมสรยังคงอยู่ที่เดิมตั้งแต่นั้นมา และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพอีกครั้งใน ค.ศ. 2016 และแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอีกครั้ง ปัจจุบัน สโมสรอยู่ในลีกสูงสุดติดต่อกันยาวนานที่สุด โดยทำได้สิบสองฤดูกาลติดต่อกันในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2024–25
สีชุดทีมเหย้าของสโมสรเป็นสีแดงเข้มและน้ำเงินจนถึง ค.ศ. 1973 จึงมีการเปลี่ยนเป็นแถบแนวตั้งสีแดงและน้ำเงินตามที่ใช้ในปัจจุบัน พาเลซมีคู่แข่งที่แข่งขันอย่างดุเดือดและยาวนานกับไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน[5] และยังมีการแข่งขันที่เข้มข้นกับสโมสรท้องถิ่นอย่างมิลล์วอลล์ และชาร์ลตันแอธเลติก
ผู้เล่น
แก้ผู้เล่นชุดปัจจุบัน
แก้- ณ วันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2025[6]
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว
แก้การยืมตัวที่ระบุไว้ที่นี่มีไว้สำหรับผู้เล่นที่ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่หรือผู้เล่นอายุต่ำกว่า 21 ปีที่เคยลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ หรือถูกเรียกเข้าสู่ทีมชุดใหญ่สำหรับนัดการแข่งขัน
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
เกียรติประวัติ
แก้ลีก
- เซคันด์ดิวิชัน / เฟิร์สต์ดิวิชัน / แชมเปียนชิป (ระดับ 2)
- เทิร์ดดิวิชัน / เทิร์ดดิวิชันเซาท์ (ระดับ 3)
- โฟร์ทดิวิชัน (ระดับ 4)
- รองชนะเลิศ: 1960–61
คัพ
รางวัลในช่วงสงคราม
- ฟุตบอลลีกเซาท์
- ชนะเลิศ: 1940–41
- วอร์ไทม์เซาท์ดีลีก
- ชนะเลิศ: 1939–40
การแข่งขันระดับภูมิภาค
- เซาเทิร์นฟุตบอลลีกดิวิชันวัน
- รองชนะเลิศ: 1913–14
- เซาเทิร์นฟุตบอลลีกดิวิชันทู
- ชนะเลิศ: 1905–06
- ยูไนเต็ดลีก[7]
- เซาเทิร์นโปรเฟสชันนัลฟลัดลิตคัพ
- รองชนะเลิศ: 1958–59
- ลอนดอนชาเลนจ์คัพ[D]
- ชนะเลิศ: 1912–13, 1913–14, 1920–21
- รองชนะเลิศ: 1919–20, 1921–22, 1922–23, 1931–32, 1937–38, 1946–47
- เซอร์รีย์ซีเนียร์คัพ[8]
- ชนะเลิศ: 1996–97, 2000–01, 2001–02
- เคนต์ซีเนียร์ชิลด์
- ชนะเลิศ: 1911–12
- รองชนะเลิศ: 1912–13
หมายเหตุ
แก้- ↑ ชื่อในประวัติศาสตร์ ยังคงใช้มาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก
- ↑ แม้ว่าสโมสรฟุตบอลอาชีพคริสตัลพาเลซ จะก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1905 แต่สโมสรอ้างว่าพวกเขาสานต่อจากทีมฟุตบอลสมัครเล่นดั้งเดิมที่ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1861[1]
- ↑ นี่คือการแข่งขันฟุตบอลถ้วยที่จัดขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1985 ถึง 1992 โดยเป็นที่รู้จักในชื่อผู้สนับสนุนว่า ซิมอดคัพ ตั้งแต่ ค.ศ. 1987 ถึง 1989 และ เซนิทดาตาซิสเตมส์คัพ ตั้งแต่ ค.ศ. 1989 ถึง 1992 การแข่งขันนี้ก่อตั้งขึ้นหลังจากภัยพิบัติสนามกีฬาเฮย์เซล เมื่อสโมสรจากอังกฤษถูกแบนจากการแข่งขันระดับยุโรป เป็นการแข่งขันเพิ่มเติมสำหรับสโมสรในสองดิวิชันสูงสุด
- ↑ การแข่งขันจัดโดยสมาคมฟุตบอลลอนดอน การแข่งขันครั้งแรกจัดขึ้นใน ค.ศ. 1908 และจัดต่อเนื่องทุกฤดูกาล ยกเว้นในช่วงสงครามโลก จนกระทั่ง ค.ศ. 1974 จึงได้มีการยกเลิกการแข่งขัน
อ้างอิง
แก้- ↑ Wilson, Paul (22 April 2020). "Crystal Palace launch plan to claim title of oldest Football League club". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 22 April 2020.
- ↑ "Premier League Handbook 2020/21" (PDF). Premier League. p. 14. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 April 2021. สืบค้นเมื่อ 12 April 2021.
- ↑ Palace at the Palace. Peter Manning 2018.
- ↑ The Origin of Crystal Palace FC, Volume I. Steve Martyniuk 2016.
- ↑ "The Unlikely Rivalry Between Brighton and Crystal Palace". In Bed With Maradona. 7 August 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 September 2017. สืบค้นเมื่อ 4 September 2017.
- ↑ "First-Team Squad". Crystal Palace Football Club.
- ↑ "United League". www.royalsrecord.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-12.
- ↑ "Saturday Senior Cup Previous Winners". Surrey FA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 May 2014. สืบค้นเมื่อ 31 March 2016.