เสรีนครลือเบ็ค
เสรีนครลือเบ็ค หรือ เสรีนครฮันเซอแห่งลือเบ็ค (เยอรมัน: Freie und Hansestadt Lübeck) เป็นนครรัฐที่รุ่งเรืองระหว่างปี ค.ศ. 1226 ถึงปี ค.ศ. 1937 ที่ตั้งอยู่ในรัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์และรัฐเมคเลินบวร์ค-ฟอร์พ็อมเมิร์นในประเทศเยอรมนีปัจจุบัน
เสรีนครลือเบ็ค Freie und Hansestadt Lübeck | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1226 – 1811 ค.ศ. 1815 – 1937 | |||||||
ที่ตั้งของเสรีนครลือเบ็คภายในจักรวรรดิเยอรมัน | |||||||
สถานะ | เสรีนครของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ รัฐสมาชิกในจักรวรรดิเยอรมัน | ||||||
เมืองหลวง | ลือเบ็ค | ||||||
ภาษาราชการ | เยอรมัน | ||||||
การปกครอง | สาธารณรัฐ | ||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ยุคกลางถึงสมัยใหม่ | ||||||
• ก่อตั้ง | ค.ศ. 1226 | ||||||
• ผนวกโดยฝรั่งเศส | ค.ศ. 1811 | ||||||
ค.ศ. 1815 | |||||||
• ยุบเลิกตามรัฐบัญญัติ เกรตเตอร์ฮัมบวร์ค | 1 เมษายน ค.ศ. 1937 | ||||||
พื้นที่ | |||||||
ค.ศ. 1905 | 297.7 ตารางกิโลเมตร (114.9 ตารางไมล์) | ||||||
ประชากร | |||||||
• ค.ศ. 1834 | 36464 | ||||||
• ค.ศ. 1871 | 52158 | ||||||
• ค.ศ. 1900 | 96775 | ||||||
• ค.ศ. 1933 | 136413 | ||||||
|
ประวัติ
แก้เสรีนครและสันนิบาตฮันเซอ
แก้ในปี ค.ศ. 1226 สมเด็จพระจักรพรรดิฟรีดริชที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์มีพระราชประกาศให้ลือเบ็ค[1] มีฐานะเป็นเสรีนครจักรวรรดิ ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ลือเบ็คก็กลายเป็นเมือง "ราชินีแห่งสันนิบาตฮันเซอ" เพราะความที่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีอำนาจมากที่สุดในบรรดารัฐสมาชิกในกลุ่มการค้าของยุคกลาง
ระหว่างนั้นก็มีการต่อสู้ช่วงชิงสิทธิทางการค้าระหว่างลือเบ็คและสันนิบาตฮันเซอในการต่อต้านเดนมาร์คที่มีผลได้บ้างเสียบ้าง แต่ลือเบ็คและสันนิบาตฮันเซอก็ดำรงตัวอยู่ได้ระหว่างปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ระหว่างปี ค.ศ. 1435 ถึงปี ค.ศ. 1512 ลือเบ็คมาเสียทีเมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างเคานท์ (Count's Feud) ซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในเดนมาร์กระหว่างปี ค.ศ. 1534 ถึงปี ค.ศ. 1536 นอกจากนั้นก็ยังเข้าร่วมในสันนิบาตชมัลคัลดิก (Schmalkaldic League) หลังจากพ่ายแพ้ในความขัดแย้งแล้วอำนาจของลือเบ็คก็ค่อยๆ เสื่อมโทรมลง แต่ระหว่างสงครามสามสิบปีลือเบ็คสามารถดำรงความเป็นกลางไว้ได้ ความเสียหายอย่างหนักหลังจากการสงครามอันยืดเยื้อ และ เส้นทางการค้าใหม่ของยุโรปที่หันไปใช้การข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกทำให้สันนิบาตฮันเซอและลือเบ็คหมดความสำคัญลง เมื่อสหพันธ์มายุบตัวลงในปี ค.ศ. 1669 ลือเบ็คก็ยังคงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางการค้าในบริเวณทะเลบอลติค
คริสต์ศตวรรษที่ 19
แก้ลือเบ็คยังคงมีฐานะเป็นเสรีนครจักรวรรดิแม้ว่าจะเกิดการปฏิรูปดินแดนในเยอรมนีในปี ค.ศ. 1803 หลังจากนั้นก็กลายเป็นรัฐอิสระเมื่อจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์สลายตัวในปี ค.ศ. 1806 ระหว่างสงครามพันธมิตรที่สี่ (War of the Fourth Coalition) ในการต่อต้านจักรพรรดินโปเลียน กองทัพภายใต้แบร์นาด็อตต์ (Charles XIV John of Sweden) เข้ายึดครองลือเบ็คที่มีฐานะเป็นกลางหลังจากการต่อสู้กับ เก็บฮาร์ด เลเบอเร็คท์ ฟอน บลืเชอร์ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1806 การดำเนินนโยบายระบบแผ่นดินใหญ่ (Continental System) ซึ่งเป็นนโยบายต่างประเทศของนโปเลียนในการต่อต้านอังกฤษทางการค้าระหว่าง ค.ศ. 1811 ถึง ค.ศ. 1813 สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจแก่ลือเบ็คเป็นอันมาก และลือเบ็คก็ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1
การประชุมแห่งเวียนนาในปี ค.ศ. 1815 หลังจากการพ่ายแพ้ของนโปเลียน ทำให้ลือเบ็คและรัฐต่างๆ อีก 39 กลายเป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธรัฐเยอรมัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1867 ลือเบ็คก็เป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธรัฐเยอรมัน และกลายมาเป็นรัฐอิสระของจักรวรรดิเยอรมนีที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1871
การถูกผนวก
แก้ในปี ค.ศ. 1937 รัฐบาลนาซีก็อนุมัติรัฐบัญญัติที่เรียกว่ารัฐบัญญัติฮัมบวร์คและปริมณฑล (เยอรมัน: Gesetz über Groß-Hamburg und andere Gebietsbereinigungen) ที่มีผลให้เมืองฮัมบวร์คขยายออกไปรวมเมืองต่างๆ ที่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ของปรัสเซีย เพื่อเป็นการตอบแทนการสูญเสียดินแดนของปรัสเซีย อิสรภาพของลือเบ็คที่มีมาเป็นเวลา 711 ปี ก็มาสิ้นสุดลงเมื่อกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์