เมืองกำแพงเกาลูน

เมืองกำแพงเกาลูน (จีน: 九龍寨城; ยฺหวิดเพ็ง: gau2 lung4 zaai6 sing4; อังกฤษ: Kowloon Walled City) เป็นชุมชนแออัดในฮ่องกง ตั้งอยู่ที่เมืองเกาลูนในอาณานิคมฮ่องกงของอังกฤษ เดิมเป็นป้อมปราการทางทหารของจีน ในสมัยต่อมา ถึงแม้ว่าฮ่องกงจะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ แต่เมืองนี้ก็ยังถือเป็นดินแดนของจีนโดยพฤตินัย จำนวนประชากรในเมืองเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากการยึดครองฮ่องกงของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1990 เมืองนี้มีประชากรประมาณ 50,000 คน[1] และมีพื้นที่ประมาณ 2.6 เฮกตาร์ (6.4 เอเคอร์) เมืองกำแพงเกาลูนเคยถูกควบคุมโดยกลุ่มอั้งยี่ จึงมีอัตราการค้าประเวณี การพนัน และการใช้ยาเสพติดสูง

เมืองกำแพงเกาลูน

九龍寨城

Kowloon Walled City
ชุมชนแออัด
เมืองกำแพงเกาลูนเมื่อ ค.ศ.1989
เมืองกำแพงเกาลูนเมื่อ ค.ศ.1989
เมืองกำแพงเกาลูนตั้งอยู่ในฮ่องกง
เมืองกำแพงเกาลูน
เมืองกำแพงเกาลูน
พิกัด: 22°19′56″N 114°11′25″E / 22.33222°N 114.19028°E / 22.33222; 114.19028
ประเทศที่ตั้งจีน
บริติชฮ่องกง
ญี่ปุ่น
ที่ตั้งเมืองเกาลูน
เริ่มต้นประมาณ ค.ศ. 1898
รื้อถอน1994
การปกครอง
 • ประเภทไร้การควบคุม
พื้นที่
 • ทั้งหมด2.6 ha (6.4 เอเคอร์)
ประชากร
 (1990)
 • ทั้งหมด50,000 คน
 • ความหนาแน่น1,930,000 คน/ตร.กม. (5,000,000 คน/ตร.ไมล์)
เมืองกำแพงเกาลูนเมื่อ ค.ศ.1991

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1987 รัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศแผนการรื้อถอนเมืองกำแพงเกาลูน หลังจากถ่ายโอนที่ดินมาจากประเทศจีนได้สำเร็จ การรื้อถอนเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1993 และแล้วเสร็จในเดือนเมษายน ค.ศ. 1994 ปัจจุบันนี้ เมืองกำแพงเกาลูนกลายเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ โดยภายในสวนมีการจัดแสดงโบราณวัตถุและมีโบราณสถานต่าง ๆ ที่หลงเหลืออยู่จากการรื้อถอน

ลักษณะของเมือง แก้

โครงสร้างและสถาปัตยกรรม แก้

แต่เดิมนั้นเมืองกำแพงเกาลูนเคยเป็นป้อมปราการมาก่อน โดยป้อมปราการถูกสร้างขึ้นบนเนิน มีความกว้าง 210 เมตร ยาว 120 เมตร มีประตูเข้าออกอยู่ 4 ทาง และมีกำแพงหนา 4.6 เมตร ซึ่งกำแพงนี้ถูกรื้อถอนไปเมื่อ ค.ศ. 1943 [2][3]

ในช่วง 60 ปีแรก เมืองกำแพงเกาลูนเป็นเพียงย่านชุมชนแออัดธรรมดาที่ประกอบไปด้วยตึกเตี้ย ๆ ไม่กี่แห่ง จนเมื่อเข้าสู่ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 และ 1970 ก็มีการก่อสร้างอาคารสูงจำนวนมาก จนในที่สุดเมืองนี้ก็กลายเป็นย่านแออัดที่เต็มไปด้วยตึกสูงกว่า 10 ชั้นนับร้อยตึกเรียงติดกันอยู่อย่างมิดชิด[4][5]

ภายในเมืองเต็มไปด้วยตรอกซอยเล็ก ๆ ที่กว้างประมาณ 1–2 เมตรซึ่งมีแสงไฟส่องไม่ทั่วถึง[6] บริเวณชั้นบนมีบันไดมากมายเชื่อมต่อกันเป็นระบบ ทำให้ผู้คนสามารถเดินทางได้ทั่วเมืองโดยไม่ต้องลงมาที่พื้นดินเลย[4] ตึกในเมืองประมาณ 350 ตึกถูกสร้างโดยไร้การควบคุมจากรัฐบาล ทำให้หลายตึกมีรากฐานไม่มั่นคงและไม่มีระบบสาธารณูปโภคอย่างทั่วถึง[4] นอกจากนี้ ในเมืองมีห้องอพาร์ทเมนต์ที่ค่อนข้างแคบ (ประมาณ 23 ตร.ม./ห้อง) จึงมีการสร้างส่วนต่อขยาย เช่น ระเบียง เพิงบนหลังคาตึก เป็นต้น[7] บริเวณหลังคาของแต่ละตึกเต็มไปด้วยเสาอากาศโทรทัศน์ ราวตากผ้า และถังน้ำ แต่ละตึกในเมืองสูงไม่เท่ากัน จึงมีบันไดพาดเอาไว้ให้สามารถปีนผ่านหลังคาของแต่ละตึกได้[4]

อ้างอิง แก้

  1. "Life Inside The Most Densely Populated Place On Earth [Infographic]". Popular Science (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 18 มีนาคม 2019.
  2. Sinn, Elizabeth. "Kowloon Walled City: Its Origin and Early History" (PDF). Journal of the Hong Kong Branch of the Royal Asiatic Society. 27: 30–31. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 30 เมษายน 2011. สืบค้นเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2009.
  3. Benedetti, Paul (18 กันยายน 1982). "A nervy tour of Kowloon's Walled City". The Globe and Mail. สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2009.
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 Lambot, Ian (กันยายน 2007). City of Darkness: Life in Kowloon Walled City. Watermark. ISBN 978-1-873200-13-1.
  5. Goddard, Charles. "The Clearance". City of Darkness: Life in Kowloon Walled City. pp. 208–11. ISBN 1-873200-13-7.
  6. Wesley-Smith, Peter (1998). Unequal treaty, 1898–1997: China, Great Britain, and Hong Kong's new territories (rev. ed.). Hong Kong: Oxford University Press. pp. 189–90. ISBN 0-19-590354-4.
  7. Basler, Barbara (16 มิถุนายน 1992). "Hong Kong Journal; The Walled City, Home to Huddled Masses, Falls". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม 2021.