เดเอ็ฟเบ-โพคาล 2016 รอบชิงชนะเลิศ

การแข่งขัน เดเอ็ฟเบ-โพคาล 2016 รอบชิงชนะเลิศ เป็นการตัดสินหาผู้ชนะของ เดเอ็ฟเบ-โพคาล ฤดูกาล 2015–16, ฤดูกาลที่ 73 ของฟุตบอลถ้วยหลักของเยอรมนี. นัดนี้ลงเล่นไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 ที่สนาม โอลึมเพียชตาดิโยน ใน เบอร์ลิน.

เดเอ็ฟเบ-โพคาล 2016 รอบชิงชนะเลิศ
เยอรมัน คัพ รอบชิงชนะเลิศ
โอลึมเพียชตาดิโยน ในกรุงเบอร์ลิน เป็นเจ้าภาพในนัดชิงชนะเลิศ
รายการเดเอ็ฟเบ-โพคาล ฤดูกาล 2015–16
หลังต่อเวลาพิเศษ
บาเยิร์นมิวนิก ชนะ ลูกโทษ 4–3
วันที่21 พฤษภาคม ค.ศ. 2016
สนามโอลึมเพียชตาดิโยน, เบอร์ลิน
ผู้ตัดสินมาร์โก ฟริตซ์ (คอร์บ)[1]
ผู้ชม74,322 คน[1]
สภาพอากาศฟ้าโปร่งและมีเมฆเป็นบางส่วน
22 °C (72 °F)
38% humidity[2]
2015
2017

โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์, ผู้แพ้ในนัดชิงชนะเลิศสองครั้งที่ผ่านมา, เผชิญหน้ากับ บาเยิร์นมิวนิก, สถิติแชมป์เก่า, ผู้ชนะ 4–3 ด้วย การดวลลูกโทษ, ในขณะที่การแข่งขันได้จบลงที่ผล 0–0 หลัง ต่อเวลาพิเศษ, มอบให้ บาเยิร์น เป็นสมัยที่ 18 ของพวกเขา.[3]

ขณะที่ บาเยิร์น ทำสำเร็จกับสองรายการภายในประเทศ, พวกเขาได้ลงเล่นออกไปเยือนทีมรองแชมป์ บุนเดิสลีกา ฤดูกาล 2015–16 ดอร์ทมุนท์ ใน เดเอฟเอล-ซูเปอร์คัพ ฤดูกาล 2016. เพราะบาเยิร์นได้สิทธิ์สำหรับแชมเปียนส์ ลีก, ทีมอันดับที่หกในบุนเดิสลีกา, ไมนทซ์ 05, ได้รับสิทธิ์รอบคัดเลือกอัตโนมัติสำหรับรอบแบ่งกลุ่มของฤดูกาลหน้าของ ยูฟ่ายูโรปาลีก, และเป้าหมายของลีกในรอบคัดเลือกรอบที่สามจะได้ไปถึงทีมในอันดับที่เจ็ด, แฮร์ทา เบอร์ลิน.[4]

ภูมิหลัง แก้

 
นี่คือนัดชิงชนะเลิศของกวาร์ดีโอลาในการเป็นโค้ชให้บาเยิร์น.
 
นี่เป็นนัดชิงชนะเลิศของฮุมเมิลส์สำหรับดอร์ทมุนท์ก่อนจะย้ายไปบาเยิร์นในช่วงฤดูร้อน.

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ยี่สิบเอ็ดของบาเยิร์นในนัดชิงชนะเลิศ, กับสถิติชนะสิบเจ็ดครั้ง, มากที่สุดกว่าสโมสรอื่นใด, และแพ้แค่สามครั้งก่อนหน้านี้. ชัยชนะในนัดชิงชนะเลิศหนล่าสุดของบาเยิร์นเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2014. ครั้งนี้เป็นการเข้าชิงโดยรวมเป็นครั้งที่ 8 ของดอร์ทมุนท์และนัดชิงชนะเลิศครั้งที่สามติดต่อกัน, กับสถิติชนะสามครั้งและแพ้สี่ครั้งก่อนหน้านี้. นัดชิงชนะเลิศหนล่าสุดของดอร์ทมุนท์เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2012. นี่เป็นนัดที่เก้าระหว่างบาเยิร์นและดอร์ทมุนท์ในเดเอ็ฟเบ-โพคาล, และนัดชิงชนะเลิศครั้งที่สี่ระหว่างพวกเขา, ทั้งหมดภายในช่วงแปดปีล่าสุด, เป็นการพบกันก่อนหน้านี้ในปี 2008, 2012, และ 2014, ทำให้มันเป็นนัดชิงชนะเลิศที่พบกันมากที่สุด. เหล่านี้, บาเยิร์นชนะเลิศสองครั้ง (ในปี 2008, ชัยชนะด้วยสกอร์ 2–1 หลังต่อเวลาพิเศษ, และปี 2014, ชัยชนะด้วยสกอร์ 2–0 หลังต่อเวลาพิเศษ), ในขณะที่ดอร์ทมุนท์ได้ชัยชนะเพียงแค่ครั้งเดียว (ในปี 2012, ชัยชนะด้วยสกอร์ 5–2).[5]

บาเยิร์นและดอร์ทมุนท์ ยังได้มาพบกันแบบอื่นๆในรอบรองชนะเลิศของ ฤดูกาลที่ผ่านมา ของเดเอ็ฟเบ-โพคาล. แมตช์จบลงที่ 1–1 หลังต่อเวลาพิเศษ, และ ดอร์ทมุนท์ ชนะ 2–0 ในการดวลลูกโทษ.[6] แมตช์อื่นๆระหว่างทั้งสองทีมเกิดขึ้นในปี 1966, ที่บาเยิร์น ชนะ 2–0 ในรอบคัดเลือก, 1981, ที่บาเยิร์น ชนะ 4–0 ในรอบสาม, 1992, ที่ดอร์ทมุนท์ ชนะ 5–4 ในการดวลลูกโทษในรอบสองหลังจบเกม 2–2 หลังช่วงต่อเวลาพิเศษ, และ 2013, ที่บาเยิร์น ชนะ 1–0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย. นี่ทำให้สถิติรวมทั้งหมดชนะห้าครั้งสำหรับบาเยิร์น, และชนะหนึ่งครั้งและชนะการดวลลูกโทษสองครั้งสำหรับดอร์ทมุนท์.[7]

นี่เป็นเกมนัดชิงชนะเลิศของ เปป กวาร์ดีโอลา โค้ชบาเยิร์น, หลังจากสามปีที่อยู่ในความดูแลของทีม.[8] สำหรับผู้จัดการทีมดอร์ทมุนท์ โทมัส ทูเคิล, มันเป็นฤดูกาลแรกของเขาในการรับหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอน. กวาร์ดีโอลาได้กล่าวสรรเสริญทูเคิลสำหรับฤดูกาลที่น่าประทับใจ, หลังจบอันดับที่สองในบุนเดิสลีกาและทำทีมของพวกเขาได้เข้ามาถึงนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย.[9]

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2016, ได้มีการประกาศว่ากองหลังดอร์ทมุนท์ มัทส์ ฮุมเมิลส์ จะออกจากสโมสรหลังจบฤดูกาล. นัดชิงชนะเลิศบอลถ้วยจะเป็นนัดสุดท้ายของเขาสำหรับดอร์ทมุนท์, ในการพบกับสโมสรอนาคตของเขา บาเยิร์น, ผู้ที่เขาจรดปากกาเซ็นสัญญาห้าปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2016.[10] ฮุมเมิลส์เองก็เป็นผลผลิตเยาวชนของบาเยิร์น, แต่พวกเขาได้ทำการลงสนามในทีมชุดใหญ่ครั้งเดียวก่อนที่จะย้ายไปดอร์ทมุนท์ในปี 2008, ครั้งแรกในการยืมตัวไปใช้งาน.[11][12] การย้ายทีมไปสู่บาเยิร์นเป็นผลกระทบในแง่ลบโดยแฟนบอลดอร์ทมุนท์จำนวนมาก, ในขณะที่เขาเป็นผู้เล่นดอร์ทมุนท์คนที่สามที่ย้ายไปบาเยิร์นตั้งแต่ปี 2013.[13]

เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ แก้

หมายเหตุ: ผลการแข่งขันด้านล่างนี้, ผลของทีมที่เข้าชิงชนะเลิศจะขึ้นเป็นตัวเลขแรก (H: เหย้า; A: เยือน).

บาเยิร์นมิวนิก รอบ โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์
คู่แข่งขัน ผล เดเอ็ฟเบ-โพคาล ฤดูกาล 2015–16 คู่แข่งขัน ผล
เอฟเซ เนิททิงเงิน (A) 3–1 รอบ 1 เคมนิทเซอร์ เอฟเซ (A) 2–0
เฟาเอฟเอล ว็อลฟส์บูร์ก (A) 3–1 รอบ 2 เอสเซ พาเดอร์บอร์น (H) 7–1
ดาร์มชตัดท์ 98 (H) 1–0 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เอฟเซ เอาก์สบูร์ก (A) 2–0
เฟาเอฟเอล โบคุม (A) 3–0 รอบ 8 ทีมสุดท้าย วีเอฟเบ ชตุทท์การ์ท (A) 3–1
แวร์เดอร์ เบรเมิน (H) 2–0 รอบรองชนะเลิศ แฮร์ทา เบอร์ลิน (A) 3–0

นัด แก้

รายละเอียด แก้

 
Wikinews
วิกิข่าว มีข่าวเกี่ยวกับบทความ:
DFB-Pokal Final: Bayern wins 4-3 in Der Klassiker final
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
บาเยิร์นมิวนิก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์
GK 1   มานูเอล นอยเออร์
RB 21   ฟิลิปป์ ลาห์ม (c)
CB 32   โยชัว คิมมิช   42'
CB 17   เชโรม โบอาเทง
LB 27   ดาวิด อาลาบา
DM 23   อาร์ตูโร บีดัล   47'
RM 11   โดกลัส กอสตา
CM 25   โทมัส มึลเลอร์   109'
CM 6   เตียโก
LM 7   ฟร็องก์ รีเบรี   39'   108'
CF 9   รอแบร์ต แลวันดอฟสกี
ตัวสำรอง:
GK 26   ชเวน อุลไรช์
DF 5   เมดี เบนาตียา
DF 13   ราฟีญา
DF 18   ควน เบร์นัต
MF 14   ชาบี อาลอนโซ
MF 20   เซบัสเตียน โรเดอ
FW 29   กีงส์แล กอมาน   108'
ผู้จัดการทีม:
  เปป กวาร์ดีโอลา
 
GK 38   โรมัน บูร์กี
CB 25   โซกราติส ปาปัสตาโทปูโลส   99'
CB 6   สเวน เบนเดอร์
CB 15   มัทส์ ฮุมเมิลส์ (c)   74'   78'
RM 26   วูกัช ปิชต์แชก
CM 27   กอนซาโล กัสโตร   39'   106'
CM 33   ยูเลียน ไวเกิล
LM 29   มาร์เซล ชเมลเซอร์   70'
RW 10   แฮนริค มะคีทาเรียน
CF 17   ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์
LW 11   มาร์โค รอยส์
ตัวสำรอง:
GK 1   โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์
DF 28   มัททีอัส กินเทอร์   78'
DF 37   เอริก ดวร์ม   70'
MF 18   นูรี ชาฮิน
MF 22   คริสเตียน ปูลีซิช
MF 23   ชินจิ คะกะวะ   106'
FW 20   อาเดรียน ราโมส
ผู้จัดการทีม:
  โทมัส ทูเคิล
  • ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:
  • ผู้ตัดสินที่สี่:

ข้อมูลในการแข่งขัน:

  • แข่งขันเวลาปกติ 90 นาที
  • ต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที เมื่อทั้งสองทีมเสมอกันในเวลาปกติ
  • ตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ เพื่อหาผู้ชนะ
  • ตัวสำรองของแต่ละทีมมีรายชื่อ 7 คน, แต่อาจใช้เปลี่ยนได้จริงแค่ 3 คน

สถิติ แก้

สถิติ[3][14] บาเยิร์นมิวนิก โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์
ประตูที่ทำได้ 0 0
ยิงทั้งหมด 17 9
ยิงเข้ากรอบ 3 1
เปอร์เซ็นต์การครองบอล 70% 30%
เตะมุม 7 4
ทำฟาวล์ 18 17
ล้ำหน้า 4 3
ใบเหลือง 4 3
ใบแดง 0 0

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 "DFB-Pokal, 2015/2016, Finale" [DFB-Pokal, 2015–16 season, Final]. dfb.de (ภาษาเยอรมัน). German Football Association. สืบค้นเมื่อ 22 May 2016.
  2. "Weather History for Berlin Schoenefeld, Germany". Weather Underground. The Weather Company. สืบค้นเมื่อ 21 May 2016.
  3. 3.0 3.1 "Bayern Munich 0-0 B Dortmund (pens 4-3)". BBC Sport. BBC. 21 May 2016. สืบค้นเมื่อ 21 May 2016.
  4. "Strategic talks in Dubrovnik". ยูฟ่า. 20 September 2013. สืบค้นเมื่อ 29 April 2015.
  5. "(West) Germany - List of Cup Finals". RSSSF.com. Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 20 April 2015.
  6. "BVB steht dank Bayern-Ausrutschern im Finale" [BVB reaches final thanks to Bayern slips]. kicker.de (ภาษาเยอรมัน). kicker. 28 April 2015. สืบค้นเมื่อ 18 May 2016.
  7. "Vergleich: Bayern München - Borussia Dortmund" [Comparison: Bayern Munich v Borussia Dortmund]. dfb.de (ภาษาเยอรมัน). German Football Association. สืบค้นเมื่อ 22 May 2016.
  8. "Pep Guardiola to leave Bayern Munich at end of the season". BBC Sport. 20 December 2015. สืบค้นเมื่อ 22 March 2016.
  9. "Guardiola hails Tuchel ahead of DFB-Pokal showdown". goal.com. Perform Group. 19 May 2016. สืบค้นเมื่อ 22 May 2016.
  10. "FC Bayern sign Mats Hummels". fcbayern.de. 10 May 2016. สืบค้นเมื่อ 10 May 2016.
  11. "Hummels to Dortmund: Former FCB youth makes loan move permanent". 6 February 2009. สืบค้นเมื่อ 6 February 2009.
  12. "Borussia Dortmund sign Mats Hummels". 19 June 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-24. สืบค้นเมื่อ 8 February 2009.
  13. "Don't hold Bayern move against Hummels - it's a homecoming not a betrayal". goal.com. Perform Group. 10 May 2016. สืบค้นเมื่อ 22 May 2016.
  14. "Bayern München - Borussia Dortmund 4:3, DFB-Pokal, Saison 2015/16, 6.Spieltag - Spieldaten" [Bayern Munich v Borussia Dortmund 4–3, DFB-Pokal, 2015–16 season, Round 6, Performance data]. kicker.de (ภาษาเยอรมัน). kicker. 21 May 2016. สืบค้นเมื่อ 22 May 2016.