บ็อนเนอร์ดวร์ชมุสเทอรุง

บ็อนเนอร์ดวร์ชมุสเทอรุง (เยอรมัน: Bonner Durchmusterung)[1] เป็นสารบัญแฟ้มดาวฤกษ์จากการกวาดสำรวจท้องฟ้า สร้างขึ้นระหว่าง ปี 1859 ถึง 1903 ที่หอดูดาวบ็อน มีลักษณะเด่นคือการสำรวจในสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งได้รับการเปรียบเทียบกับแสงที่ตามองเห็น

ชื่อ Durchmusterung นั้นมาจากภาษาเยอรมัน และถูกใช้ในภาษาอังกฤษเช่นกัน มีความหมายว่า "การตรวจสอบวัตถุและข้อมูลอย่างเป็นระบบ" ส่วน Bonner หมายถึงเมืองบ็อนซึ่งเป็นที่ตั้งของหอดูดาวบ็อนในเยอรมนี ที่เป็นศูนย์กลางในการจัดทำสารบัญแฟ้มนี้

สารบัญแฟ้มนี้ได้จากการสำรวจสังเกตการณ์ยาวนานเป็นเวลา 44 ปี และได้สรุปตำแหน่งและขนาดของดาวประมาณ 325,000 ดวงที่มีโชติมาตรปรากฏตั้งแต่อันดับ 9 ถึง 10 ถือเป็นพื้นฐานของสารบัญแฟ้มดาวฤกษ์ต่าง ๆ ในศตวรรษที่ 20 เช่น สารบัญแฟ้มสมาคมดาราศาสตร์ และสารบัญแฟ้มดาวฤกษ์ของหอดูดาวสมิธโซเนียน เป็นต้น

ความเป็นมา

แก้

บ็อนเนอร์ดวร์ชมุสเทอรุงเริ่มจัดพิมพ์โดย ฟรีดริช วิลเฮ็ล์ม อาร์เกลันเดอร์, อาดัลแบร์ท ครือเกอร์ และเอดูอาร์ท เชินเฟ็ลท์ จาก เยอรมนี ครอบคลุมดาวฤกษ์ 320,000 ดวงที่วิษุวัตต้นยุคอ้างอิง 1855.0 ได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวบุกเบิกสารบัญแฟ้มดาวสมัยใหม่

ซืทลิชเชอดวร์ชมุสเทอรุง (Südliche Durchmusterung) ซึ่งแสดงดาวฤกษ์ในซีกท้องฟ้าใต้ได้ถูกเพิ่มเข้ามาในปี 1886 จากที่เดิมทีบ็อนเนอร์ดวร์ชมุสเทอรุงนั้นขึ้นอยู่กับการสังเกตการณ์ที่หอดูดาวบ็อน และครอบคลุมเฉพาะซีกท้องฟ้าเหนือเป็นหลักและซีกท้องฟ้าใต้บางส่วนเท่านั้น ดังนั้นเมื่อรวมเข้าไปแล้วจึงเพิ่มจำนวนดาวฤกษ์ไปอีก 120,000 ดวงที่มีเดคลิเนชันตั้งแต่ -1° ถึง -23°

ส่วนต่อขยาย

แก้

การแสวงหาความรู้ทางดาราศาสตร์หลายอย่าง เช่น สาขาวิชาฟิสิกส์ดาราศาสตร์ กลศาสตร์ท้องฟ้า และการศึกษาระบบสุริยะในช่วงยุคแรก ๆ ได้อาศัยบ็อนเนอร์ดวร์ชมุสเทอรุงเป็นพื้นฐาน แต่ต่อมาความแม่นยำของตำแหน่งเริ่มเป็นปัญหาเมื่อต้องการศึกษาอย่างเข้มงวด นอกจากนี้เดิมทีบ็อนเนอร์ดวร์ชมุสเทอรุงไม่ได้บันทึกดาวฤกษ์ในท้องฟ้าทางตอนใต้ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้จากเยอรมนี ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถอธิบายท้องฟ้าทั้งหมดได้

ด้วยเหตุนี้ ชุมชนวิทยาศาสตร์จึงตัดสินใจที่จะเสริมข้อมูลท้องฟ้าทางตอนใต้ด้วยการสังเกตการณ์เพิ่มเติมอีก 2 ครั้ง การสังเกตการณ์ได้ทำขึ้นที่หอดูดาวของเมืองกอร์โดบา ประเทศอาร์เจนตินา และ เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งอยู่ในซีกโลกใต้ และได้ทำการเผยแพร่ กอร์โดบาดวร์ชมุสเทอรุง (Córdoba Durchmusterung, CoD) ซึ่งมีดาวจำนวน 580,000 ตีพิมพ์ในปี 1892 จากความคิดริเริ่มของจอห์น เอ็ม โทมี และใน ปี 1896 ได้เผยแพร่ เคปโฟโตกราฟิกดวร์ชมุสเทอรุง (Cape Photographic Durchmusterung, CPD) โดยกอร์โดบาดวร์ชมุสเทอรุงนั้นได้ถูกทำขึ้นจากการสังเกตด้วยตาเปล่าเท่านั้น และจัดทำขึ้นในลักษณะเดียวกับบ็อนเนอร์ดวร์ชมุสเทอรุง ในขณะที่ แคตตาล็อกเคปโฟโตกราฟิกดวร์ชมุสเทอรุง ได้รับการประมวลผลโดยใช้ภาพถ่ายที่ได้รับการยืนยันว่ามีความแม่นยำเพียงพอในสำหรับเทคโนโลยีใหม่

สารบัญแฟ้มทั้งสองนี้ได้ทำให้สามารถสร้างแบบจำลองที่เข้มงวดมากขึ้น และในศตวรรษที่ 19 นักดาราศาสตร์และนักภูมิมาตรศาสตร์ได้ใช้ระบบพิกัดร่วมทางดาราศาสตร์อย่างกว้างขวางโดยอิงตามแกนหมุนของโลก วันวสันตวิษุวัต และระนาบสุริยวิถี ระบบนี้กลายเป็นพื้นฐานของการทำสารบัญแฟ้มพื้นฐานของหอดูดาวเบอร์ลิน และถูกนำมาใช้ในระบบพิกัดที่แน่นอนของบ็อนเนอร์ดวร์ชมุสเทอรุงและสารบัญแฟ้มสมาคมดาราศาสตร์

อ้างอิง

แก้
  1. 天文学大事典 (初版 ed.). 地人書館. pp. 206-207、254、391、639頁. ISBN 978-4-80-520787-1.