อิงเงอบอร์กแห่งเดนมาร์ก สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์

อิงเงอบอร์ก อีริคสด็อทเทอร์ (ราว ค.ศ. 1244 - 24/26 มีนาคม ค.ศ. 1287) ทรงเป็นเจ้าหญิงเดนมาร์ก พระนางได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้ามักนุสที่ 6 แห่งนอร์เวย์ จึงได้เป็นสมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ ต่อมาทรงดำรงเป็นสมเด็จพระพันปีหลวง และทรงมีบทบาทสำคัญทางการเมืองในช่วงที่พระราชโอรสคือ พระเจ้าอีริคที่ 2 แห่งนอร์เวย์ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ[1]

อิงเงอบอร์ก อีริคสด็อทเทอร์แห่งเดนมาร์ก
สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์
เจ้าหญิงแห่งเดนมาร์ก
สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์
ครองราชย์ค.ศ. 1263–1280
ก่อนหน้าริกิสซา บีร์เกอร์สด็อทเทอร์
ถัดไปมาร์กาเร็ตแห่งสกอตแลนด์
ประสูติราว ค.ศ. 1244
สวรรคต24/26 มีนาคม ค.ศ. 1287
(พระชนมายุราว 42-43 พรรษา)
คู่อภิเษกพระเจ้ามักนุสที่ 6 แห่งนอร์เวย์
พระราชบุตร
พระนามเต็ม
อิงเงอบอร์ก อีริคสแด็ทเทอร์ แอสตริดเซน
ราชวงศ์แอสตริดเซน (โดยประสูติ)
สแวร์เรอ (โดยเสกสมรส)
พระราชบิดาพระเจ้าอีริคที่ 4 แห่งเดนมาร์ก
พระราชมารดาจัตตาแห่งแซกโซนี
ศาสนาโรมันคาทอลิก

พระราชประวัติ

แก้

เจ้าหญิงอิงเงอบอร์กเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าอีริคที่ 4 แห่งเดนมาร์กกับจัตตาแห่งแซกโซนี เจ้าหญิงมีพระชนมายุเพียง 6 พรรษาในช่วงที่พระราชบิดาถูกลอบปลงพระชนม์ สมเด็จพระพันปีหลวงจัตตา พระราชมารดาได้เสด็จกลับแซกโซนีและเสกสมรสใหม่กับบูร์ชาดที่ 8 เคานท์แห่งเคอร์ฟูร์ต-โรเซินบูร์ก เจ้าหญิงอิงเงอบอร์ก พร้อมพระเชษฐภคินีและพระขนิษฐาอีก 2 พระองค์ ต้องประทับในราชสำนักของพระเจ้าคริสตอฟเฟอร์ที่ 1 แห่งเดนมาร์ก ผู้เป็นสมเด็จอา และสมเด็จพระราชินีมาร์เกเรเธ ซัมบีเรีย พระมเหสีของพระองค์ เจ้าหญิงทั้งสี่เป็นทายาทสืบที่ดินมากมายในเดนมาร์ก ซึ่งจะนำไปสู่การต่อสู้เพื่อเรียกร้องมรดกคืนของพระนางอิงเกอบอร์กซึ่งเป็นสิทธิที่พระนางควรได้รับจากพระราชบิดาที่ถูกปลงพระชนม์ จะทำให้นอร์เวย์เกิดความขัดแย้งกับเดนมาร์กเป็นระยะเวลาหลายทศวรรษต่อมา

เจ้าหญิงอิงเงอบอร์กได้รับสัญญาการเสกสมรสจากคณะสำเร็จราชการเดนมาร์ก ที่จะให้เจ้าหญิงเสกสมรสกับเจ้าชายมักนุส องค์รัชทายาทในพระเจ้าโฮกุนที่ 4 แห่งนอร์เวย์ เจ้าหญิงอิงเงอบอร์กเสด็จมาถึงเมืองทึนแบร์ในวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1261 หลังจากเสด็จกลับมาจากการอบรมสั่งสอนของกษัตริย์โฮกุนในอารามที่เมืองฮอร์เซนส์ ในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1261 พระนางได้เสกสมรสกับเจ้าชายมักนุสที่เมืองบาร์เกิน เจ้าชายมักนุสและเจ้าหญิงอิงเงอบอร์กทรงได้รับการสวมมงกุฎทันทีหลังพิธีเสกสมรส เจ้าชายมักนุสทรงได้รับดินแดนศักดินารีฟีลเคอเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ การเสกสมรสครั้งนี้มีการระบุว่าทั้งสองพระองค์ทรงมีความสุข[2]

ในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1263 พระเจ้าโฮกุนที่ 4 แห่งนอร์เวย์เสด็จสวรรคตขณะทรงสู้รบกับพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งสกอตแลนด์ในกรณีพิพาทหมู่เกาะเฮบริดีส และทำให้เจ้าชายมักนุสได้เป็นพระมหากษัตริย์นอร์เวย์ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระราชินี พระนางอิงเงอบอร์กไม่ทรงมีส่วนร่วมทางการเมืองมากนัก พระโอรสองค์ใหญ่ 2 พระองค์ คือ เจ้าชายโอลาฟ (ค.ศ. 1262 - 15 มีนาคม ค.ศ. 1267) และเจ้าชายมักนุส (ค.ศ. 1264) สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ แต่พระราชโอรสองค์เล็กทั้งสองพระองค์ได้เป็นพระมหากษัตริย์สืบต่อมาคือ พระเจ้าอีริคที่ 2 แห่งนอร์เวย์และพระเจ้าโฮกุนที่ 5 แห่งนอร์เวย์

ในปีค.ศ. 1280 พระนางทรงตกพุ่มหม้าย สมเด็จพระพันปีหลวงอิงเงอบอร์กทรงเป็นผู้นำประเทศคนสำคัญในช่วงที่กษัตริย์อีริคที่ 2 ยังทรงพระเยาว์ แม้ว่าพระนางจะไม่ทรงดำรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์อย่างเป็นทางการ อิทธิพลทางการเมืองของพระนางมีเพิ่มมากขึ้นเมื่อพระราชโอรสทรงบรรลุนิติภาวะใน ค.ศ. 1283 พันธมิตรทางการเมืองหลักของพระนางคือ อัลฟ์ เออลิงส์สัน ซึ่งเป็นพระญาติของกษัตริย์มักนุสที่ 6 พระสวามีของพระนางและดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบอร์การ์ซิสเซลซึ่งปัจจุบันคือ เอิตโฟลด์

ในช่วงรัชกาลของพระเจ้าอีริคที่ 5 แห่งเดนมาร์ก พระญาติของพระนาง สมเด็จพระพันปีหลวงอิงเงอบอร์กทรงเริ่มมีกรณีพิพาทในเรื่องพระราชมรดกของพระนาง ซึ่งพระนางไม่ทรงเคยได้รับเลย ความบาดหมางครั้งนี้สร้างความเกลียดชังกันระหว่างนอร์เวย์และสันนิบาตฮันซาในเยอรมัน และความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับเดนมาร์ก ขุนนางหลายคนในเดนมาร์ก รวมถึงเคานท์จาค็อบแห่งฮัลลันด์ ได้เข้าอยู่ฝ่ายพระนางเพื่อต่อต้านเดนมาร์ก แต่สมเด็จพระพันปีหลวงอิงเงอบอร์กกลับสิ้นพระชนม์เสียก่อนที่เรื่องพิพาทนี้สิ้นสุด

พงศาวลี

แก้
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
16. คนุต ลาวาร์ด
 
 
 
 
 
 
 
8. พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 1 แห่งเดนมาร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
17. อิงเงอบอร์กแห่งเคียฟ
 
 
 
 
 
 
 
4. พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
18. โวโลดาร์ เกล็บโบวิช เจ้าชายแห่งมินสก์
 
 
 
 
 
 
 
9. โซเฟียแห่งมินสก์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
19. ริเชซาแห่งโปแลนด์
 
 
 
 
 
 
 
2. พระเจ้าอีริคที่ 4 แห่งเดนมาร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
20. พระเจ้าอาฟงซูที่ 1 แห่งโปรตุเกส
 
 
 
 
 
 
 
10. พระเจ้าซังชูที่ 1 แห่งโปรตุเกส
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
21. มาทิลดาแห่งซาวอย
 
 
 
 
 
 
 
5. บึเร็งการียาแห่งโปรตุเกส
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
22. ราโมน บารังเกที่ 4 เคานต์แห่งบาร์เซโลนา
 
 
 
 
 
 
 
11. ด็อลซาแห่งอารากอน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
23. เปโตรนิยาแห่งอารากอน
 
 
 
 
 
 
 
1. อิงเงอบอร์กแห่งเดนมาร์ก สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
24. อัลเบร็ชท์ เดอะ แบร์
 
 
 
 
 
 
 
12. แบร์นฮาร์ทที่ 3 ดยุกแห่งแซกโซนี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
25. โซฟีแห่งวินเซนบวร์ค
 
 
 
 
 
 
 
6. อัลเบร็ชท์ที่ 1 ดยุกแห่งแซกโซนี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
26. ดยุกมิเอสโกที่ 3 แห่งโปแลนด์
 
 
 
 
 
 
 
13. ยูดิธตาแห่งโปแลนด์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
27. แอร์เฌแบ็ตแห่งฮังการี
 
 
 
 
 
 
 
3. จัตตาแห่งแซกโซนี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
28. เลโอพ็อลท์ที่ 5 ดยุกแห่งออสเตรีย
 
 
 
 
 
 
 
14. เลโอพ็อลท์ที่ 6 ดยุกแห่งออสเตรีย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
29. อิโลนาแห่งฮังการี
 
 
 
 
 
 
 
7. อักเนสแห่งออสเตรีย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
30. ไอแซค โคมเนนอส วาตัทเซส
 
 
 
 
 
 
 
15. เธโอโดรา แองเจลินา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
31. แอนนา โคมเนเน แองเจลินา
 
 
 
 
 
 

อ้างอิง

แก้
ก่อนหน้า อิงเงอบอร์กแห่งเดนมาร์ก สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ ถัดไป
ริกิสซา บีร์เกอร์สด็อทเทอร์    
สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์
(ค.ศ. 1263–1280)
  มาร์กาเร็ตแห่งสกอตแลนด์