อาสนวิหารวินเชสเตอร์

อาสนวิหารในนครวินเชสเตอร์ เทศมณฑลแฮมป์เชอร์ ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร

อาสนวิหารวินเชสเตอร์ (อังกฤษ: Winchester Cathedral) เป็นอาสนวิหารของคริสตจักรแห่งอังกฤษ ตั้งอยู่ที่เมืองวินเชสเตอร์ เทศมณฑลแฮมป์เชอร์ สหราชอาณาจักร ตัวอาสนวิหารปัจจุบันเริ่มสร้างเมื่อ ค.ศ. 1079 และเสร็จ เมื่อ ค.ศ. 1093

อาสนวิหารวินเชสเตอร์
Winchester Cathedral
ทางเดินกลางของอาสนวิหารวินเชสเตอร์
แผนที่
51°3′38″N 1°18′47″W / 51.06056°N 1.31306°W / 51.06056; -1.31306
ที่ตั้งวินเชสเตอร์ เทศมณฑลแฮมป์เชอร์
ประเทศ สหราชอาณาจักร
นิกายแองกลิคัน
เว็บไซต์อาสนวิหารวินเชสเตอร์
ชื่อเดิมOld Minster
สถานะอาสนวิหาร
เหตุการณ์ที่ฝังศพเจน ออสเตน, หน้าต่างประดับกระจกสีแบบพรีราฟาเอลไลท์
ประเภทสถาปัตย์กางเขน
รูปแบบสถาปัตย์กอทิก
ปีสร้างค.ศ. 1079
แล้วเสร็จค.ศ. 1093

สถาปัตยกรรมก่อนสมัยโรมาเนสก์

แก้

อาสนวิหารแรกสุดก่อตั้งเมื่อค. ศ. 642 ตรงด้านเหนือของอาสนวิหารปัจจุบัน อาสนวิหารเดิมรู้จักกันในนามว่า “Old Minster” (มินสเตอร์เดิม) วัดมาเป็นอารามเมื่อปีค.ศ. 971 นักบุญสวิธัน (Saint Swithun) ถูกฝังไว้ใกล้อาสนวิหารเดิมก่อนที่จะถูกย้ายมาฝังที่อาสนวิหารใหม่ที่สร้างแบบโรมาเนสก์ หรือที่เรียกกันว่า “สถาปัตยกรรมนอร์มัน” ที่อังกฤษ “Mortuary chests” (หีบ หรือ กล่อง) ซึ่งเชื่อกันว่าข้างในบรรจุกระดูกของพระเจ้าแผ่นดินแซ็กซอนเช่นพระเจ้าเอ็ดวี (Edwy of England) และพระนางเอลจิวา พระมเหสี (Elgiva) ซึ่งเดิมฝังอยู่ที่อาสนวิหารเก่าแต่ต่อมาก็ย้ายไปฝังที่อาสนวิหารปัจจุบัน อาสนวิหารเดิมถูกรื้อทิ้งเมื่อปีค.ศ. 1093

ประวัติ

แก้

ตัวอาสนวิหารปัจจุบันเริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1079 ภายใต้การนำของบิชอปวอล์คลิน (Bishop Walkelin) เมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1093 นักพรตก็ย้ายจากอาสนวิหารเดิมไปสู่อาสนวิหารใหม่ต่อหน้าผู้มาเข้าร่วมพิธีจากทั่วอังกฤษ

บริเวณที่เก่าที่สุดของอาสนวิหารปัจจุบันคือที่ฝังศพภายใต้วัด (crypt) ซึ่งสร้างเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 ในสมัยพระเจ้าวิลเลียมที่ 2 ที่รู้จักกันในนามวิลเลียม รูฟัส (William Rufus) พระราชโอรสในพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 ผู้ซึ่งต่อมาถูกฝังไว้ในอาสนวิหารเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1100 หลังจากที่สิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุจากการล่าสัตว์ที่ New Forest

หอเตี้ยเหนือจุดตัดระหว่างทางเดินกลางกับแขนกางเขนของโบสถ์เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1202 เพื่อแทนหอเดิมที่ทลายลงมาเพราะดินบริเวณที่สร้างอาสนวิหารนั้นไม่แน่น ลักษณะของสถาปัตยกรรมของอาสนวิหารเป็นแบบโรมาเนสก์แท้ ถึงแม้การก่อสร้างจะทำต่อมาจนถึงสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14

เมื่อปี ค.ศ. 1394 ก็เริ่มการบูรณะปรับรูปแบบทางเดินกลางที่สร้างแบบโรมาเนสก์โดยอาจารย์ช่างหินวิลเลียม วินฟอร์ด (William Wynford) และทำต่อมาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 16 รวมทั้งการเพิ่มจรมุข (Ambulatory) เพื่อให้มีเนื้อที่เพียงพอสำหรับนักแสวงบุญที่มาทำการสักการะนักบุญสวิทเธิร์นที่โบสถ์

อารามเซนต์สวิธันคณะเบเนดิกตินถูกยุบเลิกตามการยุบอารามเมื่อปี ค.ศ. 1539 ระเบียงฉันนบถและหอประชุมนักบวชถูกรื้อทิ้งแต่อาสนวิหารยังเป็นอาสนวิหารต่อมา

ระหว่างปีค.ศ. 1905 - ปี ค.ศ. 1912 มีการปฏิสังขรณ์โดย ที จี แจ็คสัน (T.G. Jackson) ที่สำคัญคือการป้องกันไม่ให้อาสนวิหารทรุดลงมาทั้งหลัง พื้นที่สร้างอาสนวิหารเป็นพื้นที่ที่มีน้ำขังทางกำแพงด้านใต้และด้านตะวันออกซึ่งต้องให้นักประดาน้ำวิลเลียม วอลคเคอร์ (William Walker) เอาถุงคอนกรีตเข้าไปอัดไว้ใต้ฐาน 25,000 ถุงและ ก้อน คอนกรีตอีก 115,000 ก้อน และ อิฐอีก 900,000 ก้อน วอลคเคอร์ใช้เวลาดำน้ำ 6 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลา 6 ปี (ค.ศ. 1906 - ปี ค.ศ. 1912) ในสภาพที่มืดมิดและมีความลึกถึง 6 เมตร วิลเลียม วอลคเคอร์จึงเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญมากในการอนุรักษ์อาสนวิหารที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนคุณความดีของวอลคเคอร์ สมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Royal Victorian Order ชั้น MVO ให้แก่วิลเลียม วอลคเคอร์

ดูเพิ่ม

แก้

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้

สมุดภาพ

แก้