สปริงเบรก (อังกฤษ: Spring break, March break, Study Week หรือ Reading Week ในบางส่วนของแคนาดา) เป็นสัปดาห์หยุดยาวจากการเรียนในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ของมหาวิทยาลัยและโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา แคนาดา จีนแผ่นดินใหญ่ เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน เยอรมนี เม็กซิโก และอีกหลายประเทศ

สปริงเบรกที่ปานามาซิตีบีช รัฐฟลอริดา

เวลาหยุด แก้

ในสหรัฐอเมริกา ช่วงสปริงเบรกของสถาบันต่าง ๆ อาจมีช่วงตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ถึงปลายเดือนเมษายน แต่โรงเรียนหลายแห่งจะหยุดอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ของเดือนมีนาคม บางโรงเรียนจะเรียก "March break" หรือ "ช่วงหยุดเดือนมีนาคม" แต่ถ้าเริ่มหยุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม จะเรียก "หยุดช่วงฤดูใบไม้ผลิ"[1][2][3] หลายสถาบันในระดับ เค-12 (ถ้าประเทศไทย เทียบประมาณเป็นสถานศึกษาเปิดถึงชั้น ม.6) ในสหรัฐอเมริกาจะรวมสปริงเบรกเข้ากับอีสเตอร์และปัสกา ในนิวยอร์กและคอนเนตทิคัต นักเรียนส่วนใหญ่จะมีสปริงเบรกในเดือนเมษายนกัน

ในแคนาดาจะมีวันหยุดยาวกับโรงเรียนประถมและโรงเรียนมัธยม ในเดือนมีนาคม เวลาของสปริงเบรกจริงมีความแตกต่างกันไปตามเขตต่าง ๆ อย่างเช่นออนแทรีโอ โนวาสโกเชียและบริติชโคลัมเบีย จะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 2 หรือ 3 ของเดือนมีนาคม ขณะที่ช่วงหยุดในแอลเบอร์ตา จะมักเริ่มสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ส่วนในสหราชอาณาจักร การหยุดยาว 2 สัปดาห์ จะเรียกว่า "วันหยุดอีสเตอร์" ("Easter break" หรือ "Easter holidays") หยุดต่อเนื่องก่อนถึงเทศกาลอีสเตอร์ มักหยุดในเดือนเมษายน

ในมหาวิทยาลัยของแคนาดา ช่วงหยุดคล้าย ๆ กันนี้จะหยุดปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นมีนาคม จะเรียก "สัปดาห์อ่านหนังสือ" (Reading Week) ที่มีไว้ให้นักเรียนพักผ่อนจากความตึงเครียดจากการเรียน ในญี่ปุ่นสปริงเบรกจะเริ่มเมื่อจบปีการศึกษา ในเดือนมีนาคมและปลายเดือนเมษายน เพื่อเริ่มปีการศึกษาใหม่

ประเทศในแอฟริกาใต้อย่าง บอตสวานา แอฟริกาใต้ เลโซโท วันหยุดจะมีในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม

ประวัติ แก้

หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง จนในคริสต์ทศวรรษ 1980 เมืองฟอร์ตลอเดอร์เดล รัฐฟลอริดา ดังกระฉ่อนเรื่องเป็นจุดหมายปลายทางของสปริงเบรกในสหรัฐอเมริกา โดยมีชายคนหนึ่งที่ชื่อ จอร์จ วอร์เรน "บ็อบ" กิลล์ จูเนียร์ ที่ถูกเรียกว่า "บิดาแห่งสปริงเบรกเมืองฟอร์ตลอเดอร์เดล" ทำให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ก่อนหน้านั้นจะมีผู้แถบนี้เพื่อหยุดพักความหนาวเย็นในฤดูหนาว เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 2006 นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า สปริงเบรกในฟอร์ตลอเดอร์เดล มีกิตติศัพท์ในเรื่องจุดหมายปลายทางของเหล่าบรรดานักศึกษามหาวิทยาลัย เริ่มจากทีมว่ายน้ำชายมหาวิทยาลัยคอลเกต เข้ามาฝึกที่นี่ หยุดพักผ่อนในปี 1935[4] ฟอร์ตลอเดอร์เดล ก็มีชื่อเสียงมากขึ้นเนื่องจากภาพยนตร์ในปี 1960 เรื่อง Where the Boys Are ที่นักศึกษาหนุ่มสาวพบปะกันขณะสปริงเบรกที่นี่

การปฏิบัติทั่วไป แก้

ในสถานที่อย่าง แคนคูน คาโบแซนลูคัส เม็กซิโก กิจกรรมในช่วงสปริงเบรก โดยทั่วไปเช่น การดื่มเมา การใช้ยาเสพติดและการมีเพศสัมพันธ์กัน ในอดีตที่พักในฟอร์ตลอเดอร์เดนจะเสียหายจากกิจกรรมการเข้าพักในช่วงนี้จนฝ่ายปกครองท้องถิ่นห้ามปาร์ตี้ในปี 1985 ในปีเดียวกันรัฐบาลปรับอายุคนที่ดื่มเหล้าได้โดยในฟลอริด้า ปรับเป็นที่อายุ 21 ปี เป็นเหตุให้นักศึกษาที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ออกเดินทางไปสปริงเบรกนอกประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในปี 1989 จำนวนผู้มาของนักศึกษามหาวิทยาลัยตกราว 20,000 จากที่เคยมีผู้คน 350,000 ที่มาฟอร์ตลอเดอร์เดล ใน 4 ปีก่อนหน้านั้น[5]

สถานที่ที่นักปาร์ตี้ไปในช่วงสปริงเบรก ย้ายไปในที่สังคมที่อนุญาตอย่าง เดย์โทนาบีช ในฟลอริดา (มีนักเรียนมากกว่า 200,000 เดินทางเข้ามาในช่วงเวลาสูงสุดของสปริงเบรก) แต่หลังจากที่ฝ่ายปกครองได้เข้ามาดูเรื่องจำนวนผู้คนแล้ว จำนวนผู้คนในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1990 และต้นคริสต์ทศวรรษ 2000 ตกลงไป "ยังมีกลุ่มนักศึกษาที่ยังคงมา แต่ก็ไม่มาก" ส่วนทางด้านปานามาซิตีบีช ยังคงได้รับความนิยมในการเป็นจุดหมายปลายทางของสปริงเบรก เนื่องจากใกล้กับวิทยาลัยทางตอนใต้และการขับรถที่ไม่ไกล คนท้องถิ่นในปานามาซิตีบีชก็ยังต้อนรับชาวสปริงเบรกทุก ๆ ปี และยังเป็นปัจจัยหลักของเศรษฐกิจของเมืองด้วย เซาธ์พาดรีไอร์แลนด์ รัฐเท็กซัส และฟอร์ตไมเออร์บีช รัฐฟลอริดา ก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมในบรรดานักเรียน นักศึกษา จากทางภาคใต้ตอนกลางและตอนกลางของตะวันตกของประเทศ เช่นเดียวกับตะวันออกเฉียงเหนือ หนึ่งในสถานที่สปริงเบรกที่ใหญ่ที่สุดทางใต้ของตะวันตก คือเลกฮาวาสุซิตี จัดโดยเอ็มทีวี ในรัฐแอริโซนา

จุดหมายปลายทางนอกสหรัฐอเมริกาเช่น แคนคูน คาโบแซนลูคัส อคาปุลโก บาร์เบโดส มาซาตลัน เปอร์โต้วาลลาร์ต้า จาเมกา บาฮามัส และหมู่เกาะเติร์กและไคคอส ทัวร์เอเยนซีไม่ได้เพียงระบุอายุน้อยที่สุดที่สามารถดื่มได้ในสถานที่นั้น ๆ แต่ความจริงแล้วเรื่องอายุการดื่มก็ไม่ถูกบังคับใช้นัก บางบริษัททัวร์เพิ่มตารางพิเศษของสปริงเบรกไว้ในราคาลดด้วย

นอกจากนั้นยังมีการทำการตลาดในช่วงสปริงเบรก โดยบริษัทใหญ่อย่าง โคคา-โคลา จิลเลตต์ เอ็มทีวี และกองทัพอเมริกัน

อ้างอิง แก้