วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในเนเธอร์แลนด์
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในเนเธอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและรังสรรค์ผลผลิตนวัตกรรมมากมายให้กับโลก เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญกับเศรษฐกิจและสังคมของเนเธอร์แลนด์ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อความเจริญทางวิทยาศษตร์และเทคโนโลยีของประเทศโดยให้งบประมาณสูงถึง 4.5 พันล้านยูโรต่อปี[1]
เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศสมาชิกผู้ก่อตั้งองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ และประชาคมยุโรป ซึ่งต่อมากลายเป็นสหภาพยุโรป ประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเนเธอร์แลนด์มีส่วนไม่น้อยกับการพัฒนาทางวิทยาศาสร์และเทคโนโลยี
ประวัติศาสตร์
แก้เนเธอร์แลนด์มีเข้าสู่ยุคทองราวศตวรรษที่ 17 ด้วยการมีระบบทางการเงินและการทหารที่แข็งแกร่ง ในยุคนี้มีนักวิทยาศาสตร์มากมายย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนแผ่นดินต่ำนี้[2] และได้นำภูมิปัญญาและองค์ความรู้มาสู่ดินแดนเนเธอร์แลนด์ด้วย การค้าระหว่างประเทศที่รุ่งเรืองและเครือข่ายการค้าที่เติบโตนำมาซึ่งภาพเขียนและพรรณพืชต่างๆที่ไหลเข้ามาสู่ดินแดนเนเธอร์แลนด์ ทำให้วิทยาศาสตร์ด้านพืชและสัตว์ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในยุคนี้[3]
ราวปี ค.ศ.1880 เกิดวิกฤตราคาธัญพืชตกต่ำ สังคมดัตช์ได้รับความเสียหายอย่างหนักเนื่องจากเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับภาคการเกษตรค่อนข้างมาก รัฐบาลได้เข้ามาช่วยเหลือด้วยการสร้างโมเดลเพื่อการพัฒนานโยบายวิทยาศาสตร์ขึ้น มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์นำไปสู่การค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างปุ๋ยสังเคราะห์กับคุณภาพของดิน ผลผลิตของธัญพืช และต้นทุนการผลิต จากนั้น ภาครัฐและองค์กรเอกชนร่วมมือกันนำความรู้ที่พบนี้ไปแจ้งกับชาวไร่ชาวนาโดยอ้างอิงถึงผลการวิเคราะห์การทดลอง[4] นับเป็นครั้งแรกๆที่มีการนำเอางานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ไปประยุกต์ใช้โดยตรง และยังเป็นวิธีที่ใช้กันอยู่จนถึงทุกวันนี้ รัฐบาลดัตช์ยังมีส่วนสำคัญในการผลักด้านการวิจัยและพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์จนถึงปัจจุบัน
วิทยาการที่สำคัญของชาวดัตช์
แก้เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีนวัตกรรมสูง[5] นำมาซึ่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อมเช่นนี้เอื้อต่อการสร้างสิ่งประดิษฐ์และการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์ เช่น
- ตำรา"โครงสร้างของร่างกายมนุษย์" (De humani corporis fabrica) โดยแอนเดรียส เวซาเลียส บิดาผู้ก่อตั้งกายวิภาคศาสตร์มนุษย์สมัยใหม่ เมื่อ ค.ศ. 1543[6]
- สิทธิบัตรของกล้องโทรทรรศน์ฉบับแรก ของซาคาเรียส ยันส์เซิน และฮันส์ ลิปเปร์เฮย์ ช่างทำแว่นตา เมื่อ ค.ศ. 1608[7]
- เรือดำน้ำ ที่คอร์เนเลียส เดรบเบิลเป็นผู้คิดค้น ราวทศวรรษที่ 1620[8]
- การค้นพบวงแหวนของดาวเสาร์ โดยคริสตียาน เฮยเคินส์ เมื่อปี ค.ศ. 1655 หลังอ่านรายงานของกาลิเลโอที่ว่าดาวเสาร์อาจจะเป็นดาวเคราะห์สามดวงไม่ใช่ดวงเดียว[9]
- การค้นพบดวงจันทร์ไททัน ดาวบริวารที่ใหญ่ที่สุดของดาวเสาร์ โดยคริสตียาน เฮยเคินส์ เมื่อปี ค.ศ. 1655[9]
- การสังเกตพบและอธิบายเซลล์เม็ดเลือดแดง โดยยัน สวัมเมอร์ดัม นักชีววิทยาผู้ใช้กล้องจุลทรรศน์ศึกษาภาพตัดขวางของกบ เมื่อปี ค.ศ. 1658
- ท่อดับเพลิงสมัยใหม่ ประดิษฐ์โดยโดยจิตรกรยัน ฟัน เดร์ เฮย์เดิน เมื่อปี ค.ศ. 1673[10]
- การค้นพบกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช โดยยัน อิงเงินฮุส เมื่อปี ค.ศ. 1779[11]
- แผ่นทดสอบสายตา ประดิษฐ์โดยแฮร์มัน สเน็ลเลิน จักษุแพทย์ เมื่อปี ค.ศ. 1862[12]
- การค้นพบมนุษย์โฮโม อีเร็กตัส สปีชีส์ของมนุษย์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ทางตะวันออกของเกาะชวา โดยยูยีน ดูบัวส์ เมื่อปี ค.ศ. 1891
- กล้องถ่ายรูปความเร็วสูง ประดิษฐ์โดยเมาส์ กัตโซนิเดส นักแข่งรถ เมื่อปี ค.ศ. 1958[13]
- ภาษาไพทอน ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่คิดค้นโดยคีโด ฟัน โรสซึม คิดค้นขึ้นสมัยทำงานอยู่ที่สถาบันวิจัยคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์แห่งชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1989[14]
- การสื่อสารไร้สายแบบบลูทูธ ประดิษฐ์โดยยาป ฮาร์ตเซิน วิศวกรไฟฟ้าสมัยที่ทำงานอยู่กับเอริกสัน เมื่อ ค.ศ. 1994[15]
สถาบัน
แก้มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของเนเธอร์แลนด์ ได้แก่ มหาวิทยาลัยไลเดิน (ก่อตั้ง ค.ศ. 1575) มหาวิทยาลัยฟราเนอเกอร์ (ก่อตั้ง ค.ศ. 1585) และมหาวิทยาลัยโกรนิงเงิน (ก่อตั้ง ค.ศ. 1614) เป็นผู้ขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของเนเธอร์แลนด์ในอดีต เพราะก่อนศตวรรษที่ 18 ยังไม่มีการตั้งสมาคมวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ[16] ปัจจุบัน งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยังคงมีมหาวิทยาลัยเป็นผู้ผลักดันสถาบันวิจัยหลายแห่งยังมีความสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัย[17]
นโยบายวิทยาศาสตร์
แก้ความรับผิดชอบของภาครัฐ
แก้เนื่องจากวิทยาศาสต์และเทคโนโลยีเป็นองค์ประกอบที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเนเธอร์แลนด์ รัฐบาลจึงเป็นผู้ควบคุมโดยตรง ปัจจุบัน ผู้รับผิดชอบนโยบายด้านวิทยาศาสตร์คือกระทรวงศึกษา วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ (OCW) ดูแลแผนยุทธศาสตร์การศึกษาระดับสูงและงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ทุกๆ 4 ปี กระทรวงยังมีหน้าที่กำกับดูแลหน่วยงานวิจัยอีกหลายแห่ง[18] ได้แก่
- องค์การเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (NWO)
- องค์การเพื่องานวิจัยประยุกต์แห่งเนเธอร์แลนด์ (TNO)
- ราชสมาคมศิลปะและวิทยาศาสตร์แห่งเนเธอร์แลนด์ (KNAW)
- หอสมุด (KB)
- มหาวิทยาลัยรัฐต่างๆ
นอกจากนี้ กระทรวงเศรษฐกิจและนโยบายสภาพภูมิอากาศ (EZK) ยังมีส่วนร่วมในการวางนโยบายการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ ตลอดจนเทคโนโลยีและนวัตกรรมอีกด้วย
อ้างอิง
แก้- ↑ Ministerie van Onderwijs, Cultuur en Wetenschap (2011-12-14). "Science - Government.nl". www.government.nl (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2019-05-29.
- ↑ editor (2012-06-13). "The Netherlands, from Golden Age to shining science". Digital Single Market - European Commission (ภาษาอังกฤษ).
{{cite web}}
:|last=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help) - ↑ "Discovering the Dutch". Discovering the Dutch: On Culture and Society of the Netherlands. Amsterdam University Press. 2010. ISBN 9789089641007. JSTOR j.ctt46ms67.
- ↑ Julius, H. W. (1967). "Scientific policy in the Netherlands". Minerva. 5 (4): 507–519. doi:10.1007/BF01096780. ISSN 0026-4695. JSTOR 41821807.
- ↑ "Indicator Rankings & Analysis". Global Innovation Index (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-07-20. สืบค้นเมื่อ 2020-04-17.
- ↑ "Treasures of the Library : De humani corporis fabrica. Epitome". Cambridge Digital Library. สืบค้นเมื่อ 2019-06-11.
- ↑ Van Helden, Albert (1977). "The Invention of the Telescope". Transactions of the American Philosophical Society. 67 (4): 1–67. doi:10.2307/1006276. ISSN 0065-9746. JSTOR 1006276.
- ↑ "Drebbel's submarine - Australian National Maritime Museum". www.sea.museum (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ 9.0 9.1 "Discovering the Dutch". Discovering the Dutch: On Culture and Society of the Netherlands. Amsterdam University Press. 2014. ISBN 9789089647924. JSTOR j.ctt1x76h7z.
- ↑ Sutton, Peter C.; Bikker, Jonathan; Unidos), Bruce Museum of Arts and Science (Greenwich, Estados; Rijksmuseum (Netherlands) (2006). Jan van der Heyden (ภาษาอังกฤษ). Yale University Press. ISBN 9780300119701.
- ↑ "Discovering the Dutch". Discovering the Dutch: On Culture and Society of the Netherlands. Amsterdam University Press. 2010. ISBN 9789089641007. JSTOR j.ctt46ms67.
- ↑ "Discovering the Dutch". Discovering the Dutch: On Culture and Society of the Netherlands. Amsterdam University Press. 2010. ISBN 9789089641007. JSTOR j.ctt46ms67.
- ↑ "Gatso | Motor Sport Magazine Archive". Motor Sport Magazine (ภาษาอังกฤษ). 2014-07-07. สืบค้นเมื่อ 2019-06-11.
- ↑ "Guido van Rossum | Computer History Museum". www.computerhistory.org. สืบค้นเมื่อ 2019-06-11.
- ↑ "Eight Dutch scientists who changed the world". DutchNews.nl (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2017.
- ↑ STAMHUIS, IDA H. (2002). van Berkel, Klaas; van Helden, Albert; Palm, Lodewijk (บ.ก.). "RECAPTURING DUTCH SCIENCE". Minerva. 40 (4): 407–415. doi:10.1023/A:1020981806432. ISSN 0026-4695. JSTOR 41821222.
- ↑ "Discovering the Dutch". Discovering the Dutch: On Culture and Society of the Netherlands. Amsterdam University Press. 2014. ISBN 9789089647924. JSTOR j.ctt1x76h7z.
- ↑ "Policies, facts and figures 2006" (PDF). Science, Technology and Innovation in the Netherlands. Ministry of Economic Affairs and the Ministry of Education, Culture and Science. 2006.[ลิงก์เสีย]