วังสวนบ้านแก้ว
วังสวนบ้านแก้ว ตั้งอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี เป็นพระราชฐานของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 วังสวนบ้านแก้วมีทัศนียภาพที่สวยงาม มีลำคลองบ้านแก้วไหลพาดผ่าน มีทิวทัศน์ พรรณไม้ สนามกอล์ฟที่สวยงาม
วังสวนบ้านแก้ว | |
---|---|
![]() พระตำหนักเทา | |
![]() | |
ข้อมูลทั่วไป | |
สถานะ | เปลี่ยนสภาพ |
ประเภท | วัง |
ที่ตั้ง | ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี |
เมือง | ![]() |
ประเทศ | ![]() |
พิกัด | 12°39′52″N 102°05′49″E / 12.66444°N 102.09694°E |
เริ่มสร้าง | 20 มิถุนายน พ.ศ. 2493 |
เจ้าของ | มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี |
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี |

ประวัติ
แก้เมื่อสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจากประเทศอังกฤษกลับสู่ประเทศไทย ในพุทธศักราช 2492 นั้น รัฐบาลได้ใช้พระตำหนักวังศุโขทัยเป็นสถานที่ทำงานของกระทรวงสาธารณสุข สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีจึงได้เชิญเสด็จสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ไปประทับ ณ พระตำหนักของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในวังสระปทุม
แต่เนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงมีพระราชหฤทัยที่อ่อนโยน ไม่ต้องพระราชประสงค์ที่จะทรงรบกวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในการประทับ ณ พระตำหนักวังสระปทุมนานเกินควร อีกทั้งทรงมีพระราชประสงค์ที่จะมีที่ประทับสำหรับพักผ่อนพระราชอิริยาบถ จึงถวายบังคมทูลลาออกจากวังสระปทุม เพื่อมาสร้างวังบ้านสวนแก้ว ขึ้นในจังหวัดจันทบุรี ในวันที่ 20 มิถุนายน พุทธศักราช 2493
ในการก่อสร้างพระตำหนักและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ในสวนบ้านแก้ว สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี โปรดให้เป็นไปด้วยความประหยัดมากที่สุด โปรดให้จ้างชาวจีนมาสอนข้าราชบริพาร สร้างโรงทำอิฐเผาอิฐ เผากระเบื้องมุงหลังคา เนื่องจากในการก่อสร้างพระตำหนักใหญ่ต้องใช้อิฐเป็นจำนวนมาก การขนส่งมาจากกรุงเทพฯ เป็นเรื่องยุ่งยากและเสียค่าใช้จ่ายสูง อิฐของสวนบ้านแก้วจึงเป็นอิฐคุณภาพดี ขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับอิฐบางบัวทองมีสัญลักษณ์เป็นตัวอักษรว่า ส.บ.ก. ใช้ก่อสร้างเฉพาะในสวนบ้านแก้วเท่านั้น
ต่อมาในปี พุทธศักราช 2515 พระองค์ทรงมีพระชมมายุสูงขึ้น และพระพลานามัยไม่สมบูรณ์นัก ดังนั้น เมื่อรัฐบาลได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอรับพระราชทานที่ดินสวนบ้านแก้ว เพื่อจัดตั้งวิทยาลัยครูจันทบุรี โดยทูลถวายเงินเพียง 18 ล้านบาท ด้วยพระราชปณิธานและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ในการพระราชทานโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนในจังหวัดจันทบุรี จึงทรงเสียสละพระราชทานสวนบ้านแก้วแก่กระทรวงศึกษาธิการ และได้ย้ายไปประทับ ณ วังศุโขทัย จวบจนวาระสุดท้ายของพระองค์
หมู่พระตำหนักและอาคารประกอบ
แก้พระตำหนักใหญ่ (ตำหนักเทา)
แก้พระตำหนักใหญ่ (ตำหนักเทา) เป็นพระตำหนักครึ่งตึกครึ่งไม้ชั้นครึ่งสถาปัตยกรรมแบบยุโรปทาสีเทาชั้นบนเป็นห้องพระบรรทมของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีและมีเฉลียงสำหรับพระองค์ทรงทอดพระเนตรทัศนียภาพรอบ ๆ วัง
พระตำหนักดอนแค (ตำหนักแดง)
แก้พระตำหนักดอนแค (ตำหนักแดง) เป็นพระตำหนัก 2 ชั้นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปสร้างด้วยไม้สักทาสีแดง มีสระน้ำใหญ่อยู่ด้านหลังพระตำหนัก จัดเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีกับหม่อมเจ้าผ่องผัสมณี จักรพันธุ์ ราชเลขานุการในพระองค์จนกระทั่งเสด็จกลับวังศุโขทัย
พระตำหนักเทา
แก้พระตำหนักเทา เป็นพระตำหนักครึ่งตึกครึ่งไม้ทาสีเทาสถาปัตยกรรมแบบยุโรปออกแบบโดย หม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร
พระตำหนักแดง
แก้พระตำหนักแดง เป็นพระตำหนัก 2 ชั้นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปสร้างด้วยไม้สักทาสีแดงจัดเป็นที่ประทับของเจ้านายชั้นผู้ใหญ่และราชเลขานุการ
เรือนเทา
แก้เรือนเทา เป็นเรือนไม้ชั้นเดียวทาสีเทายกใต้ถุนสูงจัดเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีในระหว่างการก่อสร้างพระตำหนักใหญ่
เรือนแดง
แก้เรือนแดง เป็นเรือนไม้ชั้นเดียวทาสีแดงทั้งหลังยกใต้ถุนสูงจัดเป็นบ้านพักของข้าหลวงที่ตามเสด็จมาจากกรุงเทพ
เรือนเขียว
แก้เรือนเขียว เป็นเรือนไม้ชั้นเดียวทาสีเขียวทั้งหลังยกใต้ถุนสูงจัดเป็นบ้านพักของราชเลขานุการปัจจุบันเป็นที่ทำการของผู้ที่มาติดต่อขอเข้าชมวังสวนบ้านแก้ว
ศาลากลมหรือซุ้มดอกเห็ด
แก้ศาลากลมหรือซุ้มดอกเห็ด เป็นศาลาทรงกลมรูปดอกเห็ดมีทางเข้า 2 ทางในอดีตเคยเป็นที่เสวยพระสุธารสชา
สวนส่วนพระองค์ (สวนผลไม้)
แก้สวนส่วนพระองค์ (สวนผลไม้) เป็นสวนก่ออิฐถือปูนเพื่อกั้นรอบ ๆ บริเวณโดยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีใช้เป็นสถานที่เลี้ยงเป็ด ห่าน ไก่ และนกหงส์หยก
สวนส่วนพระองค์ (สวนดอกไม้)
แก้สวนส่วนพระองค์ (สวนดอกไม้) เป็นสวนดอกไม้ส่วนพระองค์ มีสระสำหรับเลี้ยงเต่าและเลี้ยงปลาจัดเป็นสถานที่พักผ่อนพระราชหฤทัยส่วนพระองค์
ปัจจุบัน
แก้ปัจจุบันพระตำหนักองค์ต่าง ๆ ในวังสวนบ้านแก้วตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี