ร่มชูชีพ
ร่มชูชีพ (อังกฤษ: Parachutes) คือวัตถุที่ช่วยให้มนุษย์และสิ่งของเคลื่อนที่ช้าลงในการตกสู่พื้นโลก หรืออาจช่วยให้วัตถุที่ขนานกับพื้นโลกเคลื่อนที่ช้าลงเช่นในการแข่งรถ คำว่าร่มชูชีพในภาษาอังกฤษ (parachute) มาจากภาษาฝรั่งเศส "para", แปลว่าต่อต้าน "chute" แปลว่าการตก "parachute" จึงหมายถึง ต่อต้านการตก[1]
ฟรานเชสโก ดิ จอร์โจ มาร์ตินี (1439–1501) ได้วาดภาพคล้ายคนกระโดดร่มรูปกรวยผูกติดกับเอวไว้ในสมุดบันทึก ปี พ.ศ. 2013 (ค.ศ. 1470)
ลีโอนาร์โด ดาวินชี (1452-1519) ก็ได้วาดภาพบรรยายร่มชูชีพรูปทรงปิรามิด ไว้เช่นกัน ในสมุดบันทึก Codex Atlanticus ของเขา ประมาณปี พ.ศ. 2026-2028 (ค.ศ. 1483-1485)
ต่อมาเฟาสโต เวรันซิโอ (1551 – 1617) ได้ออกแบบร่มชูชีพไว้ในหนังสือ Machinae Novae ของเขาพิมพ์ขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2138 (ค.ศ. 1595) และได้ทดลองกระโดดร่มลงมาจากหอระฆังของมหาวิหารซานมาร์โคในเวนิส
ในปลายศตวรรษที่ 18 หลุยส์-เซบาสเตียน เลอนอร์มองด์ (Louis-Sébastien Lenormand) (1757-1837) ได้อ่านหนังสือจดหมายเหตุของลาลูแบร์ เรื่องราชอาณาจักรสยาม ที่พิมพ์ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2234 (ค.ศ.1691) บรรยายเกี่ยวกับการแสดง "โจนร่ม" ของชาวสยาม สมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา จึงได้ทดลองกระโดดร่มแบบเดียวกัน โดยใช้มือแต่ละข้างจับร่มกันแดด (parasol) ขนาด 30 นิ้ว (77 ซม.) ข้างละคัน ที่ผูกปลายเข้ากับด้ามไว้กันลมตีกลับ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2326 (1783) หลังจากนั้นหนึ่งเดือน จึงได้ทำร่มขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 14 ฟุต (4.3 เมตร) ไปทดสอบบนหอสังเกตการณ์ Torre de la Babote สูง 26 เมตร ในมงต์เปอลิเอ โดยใช้สุนัข และแมวโดดลงมาได้อย่างปลอดภัย[2]
เลอนอร์มองด์ เป็นคนแรกที่คิดคำว่า parachute ในภาษาฝรั่งเศส
เมื่อมีการคิดค้นบอลลูน ขึ้นในฝรั่งเศสแล้ว อังเดร-ชาคส์ การ์นูร์ฮัน หรือการ์เนอริน (André-Jacques Garnerin, 1769–1823) ได้ประดิษฐ์ร่มชูชีพแบบไร้โครง และนำมากระโดดจากบอลลูนไฮโดรเจน จากระดับความสูงกว่า 3,000 เมตร ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ที่สวนมงโซ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2340 (ค.ศ. 1797) เขายังได้จดสิทธิบัตรร่มชูชีพแบบไร้โครงและมีรูเปิดตรงกลาง เพื่อลดการสั่นสะเทือน ได้เป็นรายแรก เป็นสิทธิบัตรฝรั่งเศสลำดับที่ 195 ในนามของภรรยา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2345 สมัยรัชกาลที่ 1 (ค.ศ. 1802)[3]
เกลบ เยฟเกนิเยวิช โคเทลนิคอฟ (Gleb Yevgeniyevich Kotelnikov, 1872 – 1944) ชาวรัสเซีย เป็นผู้คิดร่มชูชีพแบบเป้สะพายหลัง (knapsack parachute) ได้ในปี 1911 และได้ใช้งานในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วย แต่ผู้ที่นำร่มชูชีพมาใช้กระโดดจากเครื่องบินเป็นคนแรกกลับเป็นร้อยโทชาวอเมริกันชื่อ แอลเบิร์ต เบอร์รี ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2455 (ค.ศ. 1912) ที่รัฐมิสซูรี จากเครื่องบินปีกสองชั้นที่ระดับความสูงประมาณ 1,500 ฟุต[4]
การนำร่มชูชีพมาใช้ปฏิบัติการทางทหารโดยการกระโดดร่มลงในพื้นที่เป้าหมาย มีขึ้นครั้งแรกในสงครามโลกครั้งที่สอง โดยหน่วยพลร่มของกองทัพนาซี (Fallschirmjäger) ใช้ในการรุกรานเนเธอร์แลนด์ และประเทศอื่นๆ ในปี พ.ศ. 2483 (1940) และการปฏิบัติการทางทหารโดยการกระโดดร่มครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ก็เกิดระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ในเนเธอร์แลนด์อีกเช่นกัน คือยุทธการมาร์เกตการ์เดน ของฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2487 (1944) ใช้ทหารพลร่มกว่า 40,000 นายเข้าโจมตีฝ่ายเยอรมัน แม้จะสามารถปลดปล่อยเมืองไอน์โฮเฟนจากการยึดครองของเยอรมันได้ แต่ก็ถือว่าล้มเหลวทางยุทธศาสตร์เพราะสูญเสียทหารไปกว่าหนึ่งในสาม ทั้งที่รุกคืบได้เพียงเล็กน้อย[5] (ยุทธการนี้ ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ A Bridge Too Far หรือสะพานนรก เข้าฉายในปี พ.ศ. 2520) เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มหาอำนาจตะวันตกเข้ายึดกรุงเบอร์ลินได้ล่าช้ากว่าสหภาพโซเวียตในที่สุด
อ้างอิง
แก้- ↑ Wragg, David W. (1973). A Dictionary of Aviation (first ed.). Osprey. p. 209. ISBN 9780850451634.
- ↑ Olivier de Bernon, “The Parachute, a French Invention of Distant Siamese Origin”, Journal of the Siam Society, Vol. 109, Pt. 2, 2021
- ↑ "[INVENTLY ประวัติศาสตร์ของสิ่งประดิษฐ์] ตำนานร่มชูชีพ สิ่งประดิษฐ์ที่ได้ความคิดจากชาวสยาม (ตอนที่ 1)". www.blockdit.com.
- ↑ Magazine, Smithsonian; Reichhardt, Tony. "Berry's Leap". Smithsonian Magazine (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ Brimelow, Benjamin. "76 years ago, the Allies launched the largest airborne attack ever — here's how it all went wrong". Business Insider (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).