ม้ง
ม้ง (อังกฤษ: Hmong, Nyiakeng Puachue: 𞄀𞄩𞄰, พ่าเฮ่า: 𖬌𖬣𖬵) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในภูเขาของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ชาวม้งอพยพลงมาทางใต้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่สงบทางการเมืองและหาพื้นที่ที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก ปัจจุบันมีชาวม้งอาศัยอยู่ในประเทศจีน ประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศลาว และสหรัฐอเมริกา โดยชุมชนชาวม้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอยู่ที่ตำบลเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์[3]
ประชากรทั้งหมด | |
---|---|
11.247 ล้านคน[1] | |
ภูมิภาคที่มีประชากรอย่างมีนัยสำคัญ | |
จีน | 9.426 ล้านคน |
เวียดนาม | 1,068,189 คน (2009) |
ลาว | 595,028 คน (2015) |
สหรัฐ | 260,073 คน (2010) |
ไทย | 250,000 คน |
ฝรั่งเศส | 16,000 คน |
ออสเตรเลีย | 2,190[2] |
เฟรนช์เกียนา | 1,500 |
แคนาดา | 800 |
เยอรมนี | 700 |
ภาษา | |
ม้ง | |
ศาสนา | |
ชาแมน, พระพุทธศาสนา, คริสต์ศาสนา, อื่น ๆ |
สำหรับในประเทศไทยคำว่า "แม้ว" เป็นคำเรียกที่ไม่สุภาพในการเรียกกลุ่มคนม้ง ชาวม้งโดยส่วนใหญ่ไม่ชอบให้เรียกว่าแม้ว โดยถือว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยาม[ต้องการอ้างอิง]
ระหว่างสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่งและสงครามอินโดจีนครั้งที่สอง ชาวม้งในลาวได้ต่อสู้ขบวนการปะเทดลาว ชาวม้งหลายคนอพยพมาประเทศไทย และชาติตะวันตก[ต้องการอ้างอิง]
ประวัติศาสตร์
แก้มีข้อสงสัยว่าบทความนี้อาจละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ระบุไม่ได้ชัดเจนเพราะขาดแหล่งที่มา หรืออ้างถึงสิ่งพิมพ์ที่ยังตรวจสอบไม่ได้ หากแสดงได้ว่าบทความนี้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แทนป้ายนี้ด้วย {{ละเมิดลิขสิทธิ์}} หากคุณมั่นใจว่าบทความนี้ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แสดงหลักฐานในหน้าอภิปราย โปรดอย่านำป้ายนี้ออกก่อนมีข้อสรุป |
ดร.ลิ ติ่ง กุย (Dr.Li Ting Gui) อ้างโดยเลอภพ (2536) ได้สรุปว่าการอพยพครั้งใหญ่ ๆ ในอดีตของชนชาติม้งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 4 ครั้งด้วยกันคือ
ครั้งที่ 1 อพยพออกจากบริเวณทางใต้ของสองฝั่งแม่น้ำเหลืองหรือแม่น้ำฮวงโห (Southern Poition of the Yellow River) ราว ๆ 5,000 ปีที่ผ่านมา ม้งได้อาศัยอยู่ 2 ฝั่งทางตอนใต้ของแม่น้ำเหลือง ในขณะนั้นม้งมีชื่เรียกว่า จู่ลี่ (Tyuj Liv) ชนกลุ่มจู่ลี่นี้เป็นชนกลุ่มแรกที่รู้จักใช้ทองสัมฤทธิ์ (Brouze) รู้จักปลูกข้าว และการเลี้ยงปลาในนาข้าว ประชากรทุกคนมีความผาสุขภายใต้การปกครองของกษัตริย์ “ชิยู” (Chiyou) ในขณะเดียวกันได้มีชนกลุ่มหนึ่งคือ “ชาวฮั่น” (Huaj) ได้อพยพมาจากทางทิศตะวันตกเข้ามาอยู่ในบริเวณของชนชาติจู่ลี่ ผู้นำของชนกลุ่มฮั่นคือ ฮั่นหย่า (Hran Yuan) ทั้งสองกลุ่มนี้อยู่ด้วยกันไม่นานเกิดความขัดแย้งกันจนถึงขั้นสู้รบกัน ผลสุดท้ายชนชาติจู่ลี่พ่ายแพ้แก่ชนชาติฮั่น ทั้งนี้เพราะชนชาติฮั่นมีประชากรเยอะกว่า ในขณะที่ชนชาติจู่ลี่เป็นเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา จึงได้ถอยร่นลงมาทางใต้ใกล้กับแม่น้ำแยงซี (Tangrse River)
ครั้งที่ 2 อพยพออกจากบริเวณปกครองม้ง (San Miao)
หลังจากที่ชาวจู่ลี่ได้อพยพลงมาทางตอนใต้ ได้มีการรวมกับชนพื้นเมือง “ซานเมียว” (San Miao) ขึ้น ชาวม้งและชนพื้นเมืองมีความรักใคร่อย่างแน่นแฟ้น ชาวม้งจึงเรียกกลุ่มนี้ว่า “จีน” (Suay) แต่กลุ่มฮั่นยังคงติดตามมารุกรานคอยทำร้ายฆ่าฟันชาวม้งหรือจู่ลี่อยู่เรื่อย ๆ ชาวม้งจึงได้แตกออกเป็น 3 กลุ่ม หนีลงทางใต้ ในปัจจุบันนี้คือ มณฑลกวางสี (Guang – ti) มณฑลกวางโจและมณฑลยูนาน (Yunnan) อีกส่วนหนึ่งหนีร่นลงมาทางตะวันตกมุ่งหน้าไปยังซานเหวย (San Wei) ซึ่งกลับกับประเทศมองโกเลีย และตอนหลังก็ได้อพยพลงมาอยู่ในมณฑลยูนาน (Yunnan)
ครั้งที่ 3 อพยพออกจากการปกครองของกษัตริย์จู (Chou Kingdom/Chou State)
ประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาลประชาชนได้แก่กลุ่มชน 7 กลุ่ม ซึ่งแยกตัวเองออกเป็นประเทศปกครองและในจำนวน 1 ใน 7 ประเทศเหล่านั้น มีม้งเป็นประเทศหนึ่ง มีกษัตริย์ชื่อว่า “จู” ซึ่งมีอยู่สองคนในตระกูลซังหรือแซ่โซ้ง คนที่หนึ่งชื่อ “ชงยี่” คนที่สองชื่อ “ซงจี” ปีค.ศ. 221 ได้มีชนกลุ่มชิน (Chin) ได้เข้ามาต่อสู้แย่งชิงประเทศของกษัตริย์จูจนพ่ายแพ้ ชาวม้งได้แตกระส่ำระสายไปตามที่ต่าง ๆ มีกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นต่อสู้ อีกกลุ่มหนึ่งถอยร่นลงไปอยู่กับกลุ่มม้งในมณฑลกวางโจ เสฉวน และมณฑลยูนาน ต่อมาในปี ค.ศ. 1640 – 1919 ได้มีชาวม้งกลุ่มหนึ่งอพยพลงมาอยู่ในกลุ่มประเทศอินโดจีน (Indochina) ทางตอนใต้ของจีนซึ่งก็ได้แก่กลุ่มประเทศเวียดนาม ลาว และไทย
ครั้งที่ 4 ค.ศ. 1970 – 1975 การอพยพออกจากประเทศลาว
ระบบการปกครองคอมมิวนิสต์ได้แผ่ขยายสู่กลุ่มประเทศอินโดจีน ทำให้กลุ่มม้งในลาวต้องแตกกระจายไปทั่วโลก การอพยพของชนชาติม้งในครั้งนี้นับได้ว่ามากที่สุดและอพยพไปไกลที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของชนชาติม้ง ชาวม้งมากมายได้อพยพย้ายไปอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา อาร์เจนตินา ฝรั่งเศส และอิตาลี
การอพยพเข้าสู่ประเทศไทย
ชนชาติม้งกลุ่มแรกที่อพยพเข้าสู่ประเทศไทยนั้นไม่มีหลักฐานใด ๆ บ่งชี้ได้ชัดเจนแต่จากเอกสารของสถาบ้นวิจัยชาวเขาคาดว่าเริ่มต้นอพยพเข้ามาทางตอนเหนือของประเทศไทย ในราวปี พ.ศ. 2387 – 2417 จุดที่ชนเผ่าม้งเข้ามามีอยู่ด้วยกัน 3 จุดคือ
1.1 เข้ามาทางห้วยทราย – เชียงของ อำเภอ เชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือสุด เป็นจุดที่เข้ามาก่อน และเข้ามามากที่สุด หลังจากนั้นแยกย้ากระจัดกระจายไปตามแนวทองของเส้นเขามุ่งไปทางทิศตะวันตกสู่จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตากและสุโขทัย
1.2 เข้ามาทางไชยบุรี ปัว และทุ่งช้าง เขตอำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน แล้วบางกลุ่มได้อพยพลงสู่ทางใต้และทางตะวันตกเข้าสู่จังหวัดแพร่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และจังหวัดตาก
1.3 เข้าทางภูคา – นาแห้ว และด่านซ้าย อำเภอนาแห้ว และอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย แล้วบางกลุ่มได้เข้ามาสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ในที่สุด (สุนทรี, 2524 : อ้างโดยประสิทธิ์, 2531)
นอกจากทั้งสามจุดนี้แล้ว จุดหนึ่งที่ชาวม้งได้อพยพผ่านมาแต่ไม่มีใครกล่าวถึงคือ เข้ามาทางอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยผ่านมาทางประเทศพม่า ช่องดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นที่กล่าวขันกันว่า ม้งกลุ่มนี้คือกลุ่มที่หลงทางจากการอพยพจากจุดที่ 1
อ้างอิง
แก้- ↑ Lemoine, Jacques (2005), "What is the actual number of the (H)mong in the world?" (PDF), Hmong Studies Journal, 6, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-21, สืบค้นเมื่อ 2009-11-10
- ↑ "ABS Census - ethnicity". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-22. สืบค้นเมื่อ 2009-11-10.
- ↑ "คิดเช่น Gen D 08 12 60". ฟ้าวันใหม่. 2017-12-08. สืบค้นเมื่อ 2017-12-09.
หนังสืออ่านเพิ่มเติม
แก้- Edkins, The Miau-tsi Tribes. Foochow: 1870.
- Henry, Lingnam. London: 1886.
- Bourne, Journey in Southwest China. London: 1888.
- A. H. Keaw, Man: Past and Present. Cambridge: 1900.
- Chisholm, Hugh, บ.ก. (1911). . สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911 (11 ed.). สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์.
- Johnson, Charles. Dab Neeg Hmoob: Myths, Legends and Folk Tales from the Hmong of Laos. St. Paul, Minnesota: Macalester College, 1983. – bilingual oral literature anthology, includes introduction and explanatory notes from a language professor who had sponsored the first Hmong family to arrive in Minnesota
- Lee, Mai Na M. "The Thousand-Year Myth: Construction and Characterization of Hmong เก็บถาวร 2012-02-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน." () Hmong Studies Journal. v2n2. Northern hemisphere Spring 1998.
- Meneses, Rashaan. "Hmong: An Endangered People." UCLA International Institute.
- Merritt, Tragic Mountains: The Hmong, the Americans, and the Secret Wars for Laos, 1942–1992. Indiana: 1999.
- Mottin, Father Jean. History of the Hmong. Bangkok: Odeon Store, 1980. written in Khek Noi, a Hmong village in northern Thailand, Translated into English by an Irish nun, printed in Bangkok.
- Quincy, Keith. Hmong: History of a People. Cheney, Wash.: Eastern Washington University Press, 1988.
- Savina, F.M. Histoire des Miao. 2nd Edition. Hong Kong: Impremerie de la Société des Missions-Etrangères de Paris, 1930. Written by a French missionary who worked in Laos and Tonkin.
- George, William Lloyd. "Hmong Refugees Live in Fear in Laos and Thailand เก็บถาวร 2013-07-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน." TIME. Saturday July 24, 2010.
- Hookaway, James. "Thai Army Forces Out Refugees." The Wall Street Journal. December 28, 2009.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- (Lao Veterans of America, Inc.) Laotian and Hmong veterans and refugee families of the Lao Veterans of America, Inc.
- Center for Public Policy Analysis (CPPA) in Washington, D.C. Hmong human rights, religious persecution/ religious freedom violations and refugee issues
- Hmong-related web sites เก็บถาวร 2012-04-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน edited by Mark Pfeifer of the Hmong Cultural Center.
- Laos & Hmong Refugee Crisis & human rights violations against Hmong people in Southeast Asia, Centre for Public Policy Analysis, Washington, D.C.
- Publications list เก็บถาวร 2012-05-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Hmong Studies Internet Resource Center เก็บถาวร 2013-05-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Hmong culture studies เก็บถาวร 2012-03-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน multimedia educational content
- Hmong history and culture articles by Hmong Australian anthropologist, Dr. Gary Yia Lee
- Hmong Contemporary Issues by Hmong French anthropologist and linguist, Dr. Kao-Ly Yang (English, French, and Hmong languages)
- Being Hmong Means Being Free Wisconsin Public Television
- Hmong-American cast in 2008 US drama film Gran Torino set in Detroit by Clint Eastwood (his 2nd top) Gran Torino
- Learn about Hmong People & Culture เก็บถาวร 2023-06-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน